เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 51

บทที่ 51 หวาดกลัว

“พี่ใหญ่ เกิดเรื่องแล้ว พี่รองถูกฆ่า!”

เสี่ยวเก้อจื่อวิ่งขึ้นเขาเมาเมามาพร้อมตะโกนเสียงดัง

ไม่ช้าเสียงร้องของเขาก็ทำให้ทุกคนต้องหยุดชะงัก

“ร้องโวยวายอะไร”

ชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งเดินออกมาจากกระท่อมพร้อมขมวดคิ้วและสบถ “พูดให้มันชัด ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ารอง?”

“พี่รองถูกคนฆ่าตาย!”

“เจ้าพูดออกมาให้ชัด ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงถูกฆ่า!”

พี่ใหญ่ถีบเสี่ยวเก้อจื่อเข้าอย่างจังเพราะอีกฝ่ายพูดอธิบายไม่ได้ดั่งใจ

“พี่รองจะพาเสี่ยวเฮยกับข้าไปเล่นพนันที่ลี่เจียวาน แต่ทันทีที่พวกเราลงจากเขา ก็พบกับกลุ่มโจรที่ดักปล้นกลางทาง พี่รองเอ่ยพูดไม่กี่คำ คนพวกนั้นก็ลงมือฆ่าเราอย่างไม่ปรานี!”

เสี่ยวเก้อจื่อเล่าต่อ “พวกเขาให้ข้ากลับมาบอกข่าว เพราะเห็นว่าข้ายังเด็กก็เลยไว้ชีวิตข้าไว้”

“พวกมันให้เจ้ากลับมาบอกอะไร?”

“คนที่ดักปล้นบอกว่า เขาลูกนี้เป็นของพวกเขา และสั่งให้พวกเราย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด…”

เสี่ยวเก้อจื่อตอบอย่างระมัดระวัง

“พวกมันมีกันกี่คน?” พี่ใหญ่ถาม

“สามคน!”

“แล้วพวกเจ้ามีกันกี่คน?”

“รวมข้าแล้ว มีทั้งหมดห้าคน…”

“พวกเจ้ามีกันห้าคนแต่สู้พวกมันสามคนไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

พี่ใหญ่ขมวดคิ้ว

แม้ว่าตัวเขากับเจ้ารองจะมีปัญหากัน แต่เขาก็รู้ฝีไม้ลายมือของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เจ้ารองเป็นผู้มีฝีมือในการต่อสู้ประมาณหนึ่ง เรื่องการต่อสู้เขาไม่เป็นสองรองใคร

อีกทั้งยังมีเสี่ยวเฮย อันธพาลอันดับหนึ่งผู้มีความสามารถอยู่ข้างกายอีกด้วย

จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะถูกเล่นงานจนถึงชีวิตเช่นนี้?

“พี่ใหญ่ ทั้งสามคนนั่นน่าจะเป็นพวกหนีทหาร พวกเขาเล่นสกปรกเกินไป พูดไม่ทันขาดคำก็ลงมือทันที”

เสี่ยวเก้อจื่อเอ่ยต่อ “พี่รองยังเอ่ยไม่ทันจบ พวกเขาก็ลงมือเสียแล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ด้วยซ้ำ”

“ที่แท้ก็เป็นไอ้พวกเล่นลอบกัดนี่เอง”

พี่ใหญ่พยักหน้าเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นพวกหนีทหาร?”

“พวกเขาสวมเครื่องแบบทหารดูซอมซ่อ อาวุธในมือก็เป็นอาวุธที่ใช้ในการทหารเท่านั้น พวกเขาโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ลงมือสังหารพี่รองและเสี่ยวเฮยโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย”

เสี่ยวเก้อจื่อยืนยัน “คนเช่นนี้ ต้องเป็นพวกหนีทหารเป็นแน่!”

“ให้ตายเถอะ!”

พี่ใหญ่แสร้งทำเป็นโกรธ แต่ในใจของเขาแอบรู้สึกลิงโลด

ทุก ๆ ปี ต้าคังจะมีผู้หนีทหารจำนวนมาก บ้างเพราะกลัวการต่อสู้ บ้างก็แพ้การรบและกลัวถูกลงโทษ พวกเขาเลยหลบหนีออกจากกองทัพ

ทางออกเดียวสำหรับคนที่หนีทหารคือผันตัวมาเป็นโจร

เขาเมาเมาอยู่ห่างจากชายแดนไม่กี่ร้อยลี้ มีภูเขาอยู่ทางทิศใต้จึงมีคนที่หนีทหารจำนวนมากเดินผ่านมาที่นี่ทุกปี แน่นอนว่า มีบางคนคิดที่จะยึดครองภูเขาลูกนี้ด้วย

เพียงแต่โดยทั่วไปผู้ที่หนีทหารจะไม่กล้ารวมตัวกัน พวกเขากลัวการเป็นจุดสนใจ เพราะมันทำให้เสี่ยงต่อการถูกจับกุมตัวไปได้ง่าย ๆ พวกที่หนีทหารแล้วมาโจมตีที่เขาเมาเมาเช่นนี้ สมควรถูกฆ่าตายให้หมด!

“เหลาอู่ เจ้าไปรวบรวมคนมา เราจะไปล้างแค้นให้เจ้ารองกัน!”

พี่ใหญ่ตะโกนด้วยน้ำเสียงดุดัน “รีบเข้า อย่าปล่อยให้พวกหนีทหารเหล่านั้นหนีไปได้!”

ไม่ว่าเขากับเจ้ารองจะมีความบาดหมางอะไรกัน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายต้องมาตายแบบนี้ เขาก็ควรจัดการตามความเหมาะสม

หง่าง! หง่าง! หง่าง!

เสียงฆ้องอันดุเดือดดังขึ้น

ไม่ช้า โจรหลายสิบคนก็มารวมตัวกันเพื่อติดตามพี่ใหญ่ลงเขาเมาเมาไป

ทุกคนถืออาวุธอย่างเช่นมีดพร้าและหอก

ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงจุดที่พี่รองถูกปล้น

ศพของพี่รองถูกโยนลงข้างถนนราวกับสุนัขที่ตายแล้ว อีกทั้งร่างกายของเขายังถูกปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมด

ทว่าพวกคนหนีทหารกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“พวกมันล่ะ?”

พี่ใหญ่เอ่ยถามพร้อมกระชากคอเสี่ยวเก้อจื่อ

“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน!”

เสี่ยวเก้อจื่อหดคอลงแล้วพูดว่า “อาจจะหนีไปแล้วก็ได้…”

“แยกย้ายกันค้นหา ไปดูร่องรอยว่าพวกมันหนีไปทางไหน!”

พี่ใหญ่โบกมือ จากนั้นโจรหลายสิบชีวิตก็แบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม แยกย้ายกันหากันคนละทิศทาง พยายามแยกรอยเท้าของกลุ่มชายหนีทหารบนพื้น

ขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากบริเวณโดยรอบ

ลูกธนูอีกดอกพุ่งมาที่ปลายเท้าของโจรอีกคน “มัดให้แน่น!”

โจรคนนี้ตกใจจนแทบหมดสติ เขารีบหยิบเชือกที่ปลายเท้าขึ้นมาและมัดพรรคพวกของตนทีละคน ๆ

ขณะเดียวกันโจรคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าต่อต้านและยอมถูกมัดแต่โดยดี

จากนั้นจงอู่ก็เดินออกมาจากที่ซ่อนและมัดตัวโจรคนสุดท้าย

ชิ่งไหวที่อยู่บนเขาสูงขึ้นไปอีกหน่อยยืดตัวขึ้นแล้วเอ่ย “โชคดีที่โจรเหล่านี้หลงกล รีบร้อนลงจากเขาตามแผน ไม่เช่นนั้นเราคงได้นอนค้างกันที่นี่เป็นแน่ ท่านอาจารย์ ไปกันเถิด ลงเขาไปดูกัน”

“ท่านโหว พวกโจรมีกันกี่สิบชีวิต พวกเรามีกันกี่ชีวิต ท่านไม่กลัวว่าเราจะถูกรุมหรือ?”

จินเฟิงถามออกไปด้วยความกลัว

“หากพวกเขามีความกล้าขนาดนั้นคงไม่มาเป็นโจรหรอก”

ชิ่งไหวพูดอย่างมั่นใจ “อีกอย่าง ด้วยหน้าไม้ที่ท่านอาจารย์ทำเอาไว้ ถึงแม้พวกเขาจะบุกเข้ามา ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวของจงอู่”

กว่าจะมาเป็นองครักษ์ข้างกายชิ่งไหวได้ จงอู่และคนอื่น ๆ ต่างก็ได้รับการคัดเลือกจากกองกำลังเถี่ยหลินที่มีนายทหารนับพันชีวิต หลังจากได้ฝึกฝน การใช้หน้าไม้ของพวกเขาก็ช่ำชองขึ้นมาก

ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความแม่นยำในการยิง พวกเขามีฝีมือดีเทียบเท่าจางเหลียง

หากทุกคนสลับกันยิงลูกธนูออกไป เป็นเรื่องยากสำหรับกลุ่มโจรที่จะหลบหนี หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้จินเฟิงรู้สึกประทับใจมาก บัณฑิตหนุ่มยกนิ้วชมเชย “ยอดเยี่ยม!”

ผู้ที่มีประสบการณ์ย่อมมองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้มากกว่า ไม่แปลกใจเลยที่ชิ่งไหวได้ตำแหน่งท่านโหวมาตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นเพราะเขารู้จักใช้กลยุทธ์เพื่อทำให้ตนเองได้เปรียบ นับว่าเป็นอัจริยะแห่งการนำทัพในสงคราม

ดูเหมือนแผนการในครั้งนี้ของชิ่งไหวจะเรียบง่ายและไม่ได้มีอะไรซับซ้อน

ประการแรก เขาวางแผนให้จางเหลียงไปแพร่ข่าวลือเพื่อล่อพี่รองของกลุ่มโจรลงมา จากนั้นจงอู่ก็แสร้งเป็นชายหนีทหารไปดักปล้นและฆ่าพี่รองทิ้งเพื่อหลอกล่อให้พี่ใหญ่ลงมาติดกับดักพร้อมกับโจรที่เหลือ

จากนั้นก็รอจนพวกโจรเข้ามาถึงบริเวณที่พวกเขาซ่อนตัวและทำการซุ่มโจมตี

เวลาพูดออกมาเหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องยากพอตัว

เพราะหากไม่มีความระมัดระวัง ความพยายามที่ทำมาทั้งหมดก็อาจจะสูญเปล่า

แต่ท่านโหวหนุ่มก็ทำสำเร็จ เขาสามารถสังหารโจรเขาเมาเมาทั้งหมดได้ด้วยการใช้กำลังคนเพียงไม่กี่ชีวิตเท่านั้น

และตั้งแต่ต้นจนจบ ชิ่งไหวก็ไม่ได้มีสีหน้าหวาดหวั่นใด ๆ เขาเพียงยืนอยู่บนเขาสูงเพื่อจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างใจเย็น

นี่เรียกว่ายุทธศาสตร์ทางทหารสินะ?

ใช่ มันคือการวางยุทธศาสตร์ทางทหาร!

ท่านโหวหนุ่มไม่เพียงไว้ใจคนของตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น แต่ยังสามารถคาดเดาอุปนิสัยของกลุ่มโจรและใช้จิตวิทยาได้อย่างชาญฉลาด แผนการทั้งหมดจึงผ่านไปอย่างราบรื่น

การที่จินเฟิงได้พบกับชิ่งไหวผู้นี้

ทำให้เขาได้เห็นทั้งความมั่นใจ ความสุขุม และความใจเย็นในตัวอีกฝ่าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์