บทที่ 68 กำลังเสริม
กองพันแนวหน้าของตั่งเซี่ยงนั้นแข็งแกร่งมาก นอกจากทหารผู้กล้าหาญและม้าที่แข็งแกร่งแล้ว เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือชุดเกราะหนาที่ทั้งม้าและคนสวมใส่ ชุดเกราะทำให้กองทหารม้าหนักตั่งเซี่ยงมีประสิทธิภาพสูง
เทคโนโลยีการถลุงแร่ของชาวตั่งเซี่ยงนั้นล้าหลังกว่าต้าคัง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างกองทหารม้าที่แข็งแกร่งขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้เป็นเพราะกองกำลังทหารม้าด้านหลังตามขึ้นไปไม่ทัน และกองพันแนวหน้านี้ก็เป็นกองกำลังที่หลี่จี้ขุยเพิ่งแต่งตั้งและส่งไปควบคุมสถานการณ์
โดยปกติแล้วหลี่จี้ขุยจะรู้สึกเป็นทุกข์หากเขาสูญเสียกองพันแนวหน้าไป ยิ่งในครั้งนี้กองทัพของพวกเขาดันมาถูกทำลายโดยกองทัพเถี่ยหลินอีก
ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงเกินไป
“พี่ใหญ่ของข้าเป็นยังไงบ้าง?”
เหย่ลี่หลางถามถึงพี่ชายด้วยความเป็นห่วง
พี่ชายคนโตของเขาเหย่ลี่สยงเป็นผู้บัญชาการในการโจมตีชิงสุยกู่ครั้งนี้
“แม่ทัพเหย่ลี่… เสียชีวิตในสนามรบ!”
หงหลิงตอบอย่างระมัดระวัง
ฟึ่บ!
เหย่ลี่หลางดึงดาบของเขาออกมาแล้วคำรามเสียงดัง “เจ้าพูดอีกครั้งซิ!”
หงหลิงตกใจจนตัวสั่นและคุกเข่าลงกับพื้น
“เจ้าทำอะไร?”
หลี่จี้ขุยเตะเหย่ลี่หลางให้พ้นทางด้วยความโกรธ “หากเจ้าต้องการหาทางแก้แค้น เจ้าก็ไปที่กองทัพเถี่ยหลินโน่น เหตุใดเจ้าถึงมาโกรธและลงมือกับพวกเดียวกันเอง เขาฆ่าพี่ชายของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
แม้เหย่ลี่หลางจะถูกเตะ แต่ก็ไม่ได้โกรธหลี่จี้ขุย เขาหันกลับมาและคุกเข่าลงพร้อมกำหมัดแน่น “ท่านแม่ทัพใหญ่ ได้โปรดอนุญาตให้ข้านำกำลังคนไปทำลายกองทัพเถี่ยหลินด้วย!”
“ไม่ได้นะท่านแม่ทัพใหญ่!”
ก่อนที่หลี่จี้ขุยจะพูดต่อ กุนซือของเขาก็รีบหยุดเอาไว้ “เราสูญเสียทหารม้าไปแล้วครึ่งหนึ่ง เราไม่สามารถส่งคนไปโจมตีที่ชิงสุยกู่ได้อีก จนกว่าจะเข้าใจการจัดทัพแบบใหม่ของเถี่ยหลิน หากมีอะไรเกิดขึ้นกับทหารม้าที่เหลือ กองกำลังสำรวจทางตอนใต้ของเราได้ตายก่อนเวลาอันควรเป็นแน่!”
“ใครบอกว่าเราเหลือทหารม้าเพียงครึ่งเดียว?”
เหย่ลี่หลางพูดพร้อมดวงตาที่แดงก่ำ “เจ้าไม่ได้ยินที่เขาพูดหรือ? คนของพี่ใหญ่ยังไม่ได้ตายทั้งหมด แต่ถูกกองทัพเถี่ยหลินที่อยู่ในชิงสุยกู่จับตัวไว้ ท่านแม่ทัพใหญ่ เราต้องช่วยเหลือพี่น้องที่เหลือ!”
สมาชิกหลายคนของตระกูลเหย่ลี่เข้าร่วมกองทัพและส่วนใหญ่ติดตามเหย่ลี่สยงไปยังชิงสุยกู่
หากคนเหล่านี้ถูกสังหารทั้งหมด สถานะของตระกูลเหย่ลี่ในวงการทหารก็จะตกต่ำลง
“ท่านแม่ทัพใหญ่ พวกเราชาวตั่งเซี่ยงจะไม่ทอดทิ้งสหายร่วมรบ”
เหย่ลี่หลางกล่าวกับกุนซือ “อีกอย่าง ตอนนี้เราไม่เพียงแต่มีทหารม้าเท่านั้น แต่ยังมีทหารราบด้วย!”
กุนซือถอนหายใจและไม่เอ่ยแนะนำใด ๆ อีก
“กระจายคำสั่งไปยังกองพันทหารม้าที่ห้าและกองพันทหารราบที่สองและสามที่กระจายตัวอยู่ให้มารวมตัวกันทันทีเพื่อสนับสนุนกองกำลังของแม่ทัพเหย่ลี่สยง”
เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของหลี่จี้ขุย ค่ายตั่งเซี่ยงกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
ไม่นานนักกองทัพทั้งหมดก็มารวมตัวกัน
หลี่จี้ขุยนำทัพด้วยตนเอง เขาพาทหารม้าหนึ่งพันนายและทหารราบห้าพันนายเข้าโจมตีชิงสุยกู่!
ฝั่งหุบเขาชิงสุยกู่ ทหารม้าของตั่งเซี่ยงถูกล้อมไว้กลางหุบเขาโดยกระบวนทัพแฟแลงซ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ทหารม้ามากกว่าพันนายยืนเคียงข้างกัน แน่นขนัดจนไม่มีที่ให้หันหลังกลับด้วยซ้ำ
“หยุด!”
“จู่โจม!”
“ถอน!”
สิ้นเสียงตะโกนของสวีเซียวและจงอู่ ทหารม้าตั่งเซี่ยงหลายสิบนายก็ถูกแทงตาย
“ผู้ที่ยอมจำนนจะไม่ถูกฆ่า!”
ทหารของกองทัพเถี่ยหลินตะโกนประโยคเดิมเพื่อประกาศให้ศัตรูยอมจำนนอีกครั้ง
พวกเขาไม่รอให้ชาวตั่งเซี่ยงตอบกลับ กระบวนทัพแฟแลงซ์เคลื่อนทัพอีกครั้ง
พวกเขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วหยุดลงเหมือนที่ผ่านมา
เสาไม้ไผ่ถูกแทงออกไป ทำให้คนและม้าหลายสิบชีวิตได้รับบาดเจ็บ
…
เวลาเพียงหนึ่งก้านธูป ทำให้กองทหารม้าตั่งเซี่ยงสูญเสียทหารไปหลักหลายร้อย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์