เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 96

บทที่ 96 เหตุใดจึงทำเช่นนี้

“เอาล่ะ เงียบปากซะ ขอเวลาข้าไตร่ตรองหน่อย!”

หลังจากหลี่จี้ขุยตะโกนด้วยความโกรธแล้ว เขาก็หลับตาลงเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิด

เขากำหมัดแน่นและคลายออกอยู่หลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าหลี่จี้ขุยกำลังต่อสู้กับตัวเองอย่างดุเดือดในใจ

หากเขายอมจำนน เขาจะถูกตอกย้ำจนถึงที่สุด และต้องเผชิญกับความอับอายในประวัติศาสตร์ตั่งเซี่ยงไปชั่วอายุคน

แต่หากพวกเขาไม่ยอมแพ้ กองทัพหนานเจิงก็อาจจะต้องพบกับจุดจบของชีวิตที่นี่วันนี้

เมื่อมองดูทหารตั่งเซี่ยงที่อยู่ข้างหลัง ก่อนจะพิจารณากระบวนทัพที่มีรูปร่างเหมือนเม่นที่อยู่ตรงหน้าและเครื่องเหวี่ยงหินที่เรียงเป็นแถวด้านหลัง ในที่สุดหลี่จี้ขุยก็กัดฟันและขว้างดาบลง

ท่านกุนซือพูดถูก ตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็ยังมีความหวัง

แต่หากตายไป ก็ต้องสูญสิ้นทุกอย่างและไม่เหลืออะไรเลย

“หลี่จี้ขุย เจ้าจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของเจ้าอย่างแน่นอน!”

จัวป่านถ่มน้ำลายใส่หลี่จี้ขุยด้วยสีหน้าดุร้าย จากนั้นเขาก็วางมีดพาดคอตนเองและออกแรงปาดเพื่อจบชีวิต

คนสนิทของเขาหลายสิบคนชักดาบออกมาและติดตามจัวป่านไปทันที

แต่ผู้ที่เลือกจะจบชีวิตตัวเองก็เป็นเพียงคนกลุ่มน้อย ทหารตั่งเซี่ยงส่วนใหญ่สิ้นหวังมานานแล้ว และตอนนี้แม่ทัพใหญ่ก็ยอมจำนน ในที่สุดทหารที่เหลือจึงทิ้งดาบลงทันที

ในสนามรบแห่งนี้มีเสียงดังกึกก้องขึ้น

“พาตัวไป!”

ชิ่งไหวออกคำสั่งและนายทหารหลายสิบคนก็รีบวิ่งออกมาจากด้านหลัง พวกเขาพาตัวหลี่จี้ขุยพร้อมเหล่านายทหารชั้นสูงออกไป

และแล้วนายทหารจากตั่งเซี่ยงก็ยอมจำนนและถูกควบคุมตัวไปในที่สุด

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดก็จบลงแล้ว!”

บนยอดเขาชิงสุ่ย ผู้เฒ่าจ้าวหัวเราะและพูดว่า “ท่านอาจารย์ เราลงไปจากภูเขาเพื่อพบกับแม่ทัพฟ่านและท่านโหวกันเถิด”

“ไปกันเถอะ!”

จินเฟิงถอนหายใจยาวและเดินตามผู้เฒ่าจ้าวลงมาจากภูเขา

ทันทีที่ผู้เฒ่าจ้าวเข้าไปในค่ายหลัก สหายในกองทัพก็ดึงเขาออกไปโดยบอกว่ามีธุระบางอย่างกับเขา ดังนั้นจินเฟิงจึงพาตัวเองและนายกองไปตามหาชิ่งไหว

ชิ่งไหวกำลังยุ่งอยู่กับการกำกับกองทัพเถี่ยหลินเพื่อวางแผนเรื่องการจัดการกับเชลยศึก เมื่อเขาเห็นจินเฟิงเดินเข้ามา ก็รีบก้าวไปหาเพื่อเอ่ยทักทายทันที

“ท่านอาจารย์… ข้าขอบคุณมาก!”

ชิ่งไหวก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการทักทายและขอบคุณจินเฟิง

“ท่านโหว ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”

จินเฟิงรีบเข้าไปประคองชิ่งไหวอย่างรวดเร็ว “หากมีคนจากกรมพิธีการมาเห็น เราทั้งสองคงอธิบายให้พวกเขาฟังลำบาก”

“ท่านอาจารย์ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานท่านก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นขุนนางเช่นกัน”

ชิ่งไหวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“จริงหรือ?”

ดวงตาของจินเฟิงเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง

การที่เขาเดินทางออกจากจินชวนเป็นเพราะอะไรกันเล่า?

นั่นเพราะต้องการหาช่องทางให้ได้เลื่อนขั้นเป็นขุนนางไม่ใช่หรือ?

“ต้าคังและตั่งเซี่ยงต่อสู้กันมาหลายปีแล้ว นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกที่ครอบคลุมรอบด้าน เป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สามารถจารึกไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ได้ ฝ่าบาทจะต้องแต่งตั้งตำแหน่งขุนนางให้ท่านอย่างแน่นอน”

ชิ่งไหวกล่าวอย่างมั่นใจ “ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล”

จินเฟิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น

“ท่านอาจารย์ ตามข้ามา ไปพบแม่ทัพฟ่านด้วยกัน หลายวันมานี้เขายกย่องท่านมาก”

ชิ่งไหวดึงจินเฟิงเข้าไปในกระโจมของแม่ทัพฟ่าน

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปก็พบว่าหลี่จี้ขุยนั่งอยู่บนที่นั่งรับแขกอย่างไม่ใส่ใจ

แม้ว่ามือและเท้าของเขาจะถูกมัดด้วยเชือก แต่ก็ดูไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย เขาดูไม่เหมือนนักโทษ แต่เหมือนแขกมากกว่า

“ท่านแม่ทัพฟ่าน เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่?”

ชิ่งไหวขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลี่จี้ขุยเป็นสมาชิกของราชวงศ์ตั่งเซี่ยง ดังนั้นมารยาทประเพณีก็ยังต้องมีอยู่

นี่ไม่ใช่การหาเรื่องใส่ตัวใช่ไหม?

“ท่านแม่ทัพฟ่าน ข้ายังมีงานต้องทำ อาจจะต้องขอตัวก่อน”

จินเฟิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอ่ยลาและคำนับตามมารยาทของบัณฑิต จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไป

“ท่านอาจารย์เดี๋ยวข้าไปส่ง”

ชิ่งไหวมองแม่ทัพฟ่านครู่เดียวจากนั้นก็เดินออกจากกระโจมตามจินเฟิง

แต่ท่านโหวหนุ่มยังเจ็บแผลอยู่ กว่าเขาจะตามออกมา จินเฟิงก็จากไปแล้ว

ชิ่งไหวหันกลับไปที่กระโจมและมองไปที่หลี่จี้ขุย “หลิวฉยง พาเขาออกไป!”

“รับทราบ!”

หลิวฉยงไม่สนใจความเป็นสมาชิกราชวงศ์ของหลี่จี้ขุย และคว้าคอเสื้อของแม่ทัพใหญ่ตั่งเซี่ยงแล้วลากเขาออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ดูเหมือนชิ่งโหวจะมีเรื่องบอกข้าสินะ”

แม่ทัพฟ่านยิ้มเล็กน้อยและโบกมือให้ทหารยามและทหารผู้ช่วยออกไปก่อน

“ท่านแม่ทัพ เหตุใดท่านจึงบอกหลี่จี้ขุยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น? การทำเช่นนี้เป็นการสร้างความเกลียดชังให้ท่านอาจารย์จินมิใช่หรือ?”

ชิ่งไหวถามตรงประเด็น

“เจ้าไม่อยากให้เขาอยู่ในกองทัพเถี่ยหลินหรือ?”

แม่ทัพฟ่านยิ้มและถามว่า “ถ้าเขาเข้าร่วมกองทัพเถี่ยหลิน เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหลี่จี้ขุย หากท่านอาจารย์จินสามารถเอาชนะเขาได้ในครั้งแรก ครั้งที่สองก็ไม่น่าจะมีปัญหา”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชิ่งไหวก็เข้าใจเจตนาของแม่ทัพฟ่านทันที

ในตอนที่รออยู่ตรงตีนเขาฮุยหลาง เขาและแม่ทัพฟ่านได้พูดคุยเรื่องราวของจินเฟิงเป็นส่วนใหญ่

แม่ทัพฟ่านถามว่า จินเฟิงจะติดตามชิ่งไหวในอนาคตหรือไม่ ชิ่งไหวตอบว่าหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ จินเฟิงน่าจะกลับไปที่จินชวน

ดังนั้นแม่ทัพฟ่านจึงจงใจเปิดเผยภูมิหลังของจินเฟิงต่อหน้าหลี่จี้ขุย โดยหวังว่าจะผูกมัดบัณฑิตหนุ่มเข้ากับกองทัพเถี่ยหลินได้

“ท่านแม่ทัพ เหตุใดจึงทำเช่นนี้?”

ชิ่งไหวยิ้มเจื่อนและเอ่ย “ท่านอาจารย์จินเป็นคนที่มีความสามารถ แน่นอนว่าเขาเองก็มีศักดิ์ศรีดิ์ หากข้าได้ปรึกษาเรื่องนี้กับเขาอย่างรอบคอบ บางทีเขาอาจจะอยู่ต่อ แต่ถ้าท่านแม่ทัพบังคับเขา บางทีมันอาจจะไม่สำเร็จดั่งที่ท่านหวัง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์