ซือลั่วเข้าไปในครัวอีกครั้ง ทำความสะอาดง่ายๆ ครู่หนึ่งแล้วจึงไปหาโอ่งที่แตกใบนั้น พบข้าวสารเล็กน้อย ผักป่าที่แห้งแล้วจำนวนหนึ่ง โจ๊กและผักป่าถูกใส่ลงในหม้อ หลังจากเปลืองแรงจุดไฟเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ต้มโจ๊กข้าวกล้องได้หนึ่งชาม
เมื่อเห็นโจ๊กแล้ว ซือลั่วก็ปวดใจ เสบียงอาหารในบ้านไม่เหลือแล้ว เดิมทีเจ้าของร่างเดิมไม่เคยได้รับความลำบากมาก่อน แต่สีหน้าของเว่ยฉงซีกลับซีดเซียว ดูขาดสารอาหารอย่างมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็มิใช่ปัญหา นางจำเป็นจะต้องคิดหาวิธีหาเงินสักหน่อย
จู่ๆ ซือลั่วก็นึกถึงปิ่นปักผมทองอันนั้น มันเป็นสิ่งที่มารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าของร่างเดิมมอบให้นาง เจ้าของร่างเดิมไม่เป็นที่โปรดปรานภายในจวนนัก นางถูกเลี้ยงดูจนกลายเป็นคนจิตวิปริตบิดเบี้ยวมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้นางทรมานเว่ยฉงซีถึงเพียงนั้น
แต่ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด นางก็ไม่ได้นำปิ่นปักผมไปขาย นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปิ่นปักผมอันนี้ที่มีต่อเจ้าของร่างเดิม
เพียงแต่…
ซือลั่วรู้สึกว่าคนจนจะอดตายกันแล้ว เก็บสิ่งของเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว
อีกประเดี๋ยวออกไปขายปิ่นปักผม ให้ผ่านความยากลำบากนี้ไปได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
นางถือโจ๊กเข้ามา ครานี้นางเกรงว่าเว่ยฉงซีจะทำตกแตกอีกจึงถือมันด้วยตนเอง หยิบช้อนมาตักหนึ่งคำให้ตนเองกินก่อนแล้วจึงตักขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เมื่อเป่าเรียบร้อยจึงวางไว้ใกล้ปากเว่ยฉงซี "กินซะ ไม่มีพิษ"
เว่ยฉงซีมองไปที่นาง
ซือลั่วอายุเพียงสิบห้าปี ดูตัวเล็กมาก ผิวพรรณขาวผ่อง ใบหน้ารูปไข่ ดวงตาทั้งกลมโตทั้งมีชีวิตชีวา ที่ขอบตามีไฝงามอยู่หนึ่งเม็ด เป็นแม่นางน้อยที่มีความงดงามผู้หนึ่ง เมื่อสามปีก่อนที่มาอยู่กับเขามีอายุเพียงสิบสองปี ยังคงเป็นเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เว่ยฉงซีไม่ใช่คนโหดร้าย แม้ว่าเขาเองจะโชคไม่ดีจนได้รับความทุกข์ยากลำบาก แต่หากคิดถึงซือลั่วแล้วนางก็น่าสงสารเช่นกัน และเดือดร้อนเพราะเขาอีก เขาจึงอยากจะทำดีต่อนาง เมื่อเลี้ยงดูนางจนโตแล้ว หากนางต้องการไป เขาก็จะตามใจนางอยู่แล้ว
แต่ว่าซือลั่วทำอะไรลงไป?
เว่ยฉงซียิ้มหยัน นางได้ทำให้ความเมตตาและความอดทนของเขาหายไปจนไม่เหลือแม้แต่น้อยแล้ว
ตอนนี้นางแกล้งทำตัวเสแสร้งจอมปลอมขนาดนี้ คงเป็นเพียงแค่แผนการเพื่อถ่วงเวลา คิดดูแล้วน่าจะยังคงสมคบคิดกับซิ่วไฉผู้นั้นเพื่อสวมหมวกเขียว*ให้กับตนเอง (คำอธิบาย 戴绿帽 แปลตรงตัวว่า สวมหมวกเขียว หมายถึง ภรรยานอกใจสามีไปมีชู้)
เว่ยฉงซีไม่ได้คิดต่อไปอีก คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์
แต่เขารู้ว่าปิ่นปักผมที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้เป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมากของซือลั่ว นางจะตัดใจนำไปขายได้อย่างไร
ซือลั่วมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงพูดว่า "สิ่งของไม่มีชีวิต แต่คนมีชีวิต ข้านำมันไปจำนำก่อน ภายหลังมีเงินค่อยไถ่คืน พวกเราต้องผ่านความยากลำบากในตอนนี้ไปก่อน!"
ก็ไม่รู้ว่าเว่ยฉงซีคิดอะไร ผ่านไปครึ่งค่อนวัน เขาจึงพยักหน้า "แล้วแต่เจ้า!"
ซือลั่วยังอยากจะพูดอะไรอีก พอเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตาระแวงระวังและเย้ยหยันของเขาจึงรู้ว่าเขาไม่เชื่อตนเอง แต่นางไม่สามารถอธิบายอย่างชัดเจนในขณะนี้ได้ อันที่จริงนางและเจ้าของร่างเดิมนับว่าเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเสแสร้งมากเพียงใดก็ไร้ประโยชน์
ในความเป็นจริงแม้ว่าเว่ยฉงซีจะสงสัยก็ไม่มีอะไร คนกำลังจะอดตายอยู่แล้วยังจะไปสนใจเรื่องพวกนั้นทำไม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลยT^T...
เข้ามารอต่อ....แอดจ๋าาาแซงคิวเรื่องนี้โหน่ยยยย พลีสสสส...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ สนุกมากๆ 🥹🥹...
แอดจ๋าาาต่อได้ไหมคะ พลีสสสสส TT~TT...
รอบนี้เว้นนานจังค่ะ 🥲ติดงอมแงม...
แอดจ๋าาาาาT^T...
เข้ามาส่องทุกวันT_T...
รอตอนใหม่อย่างมีความหวัง...
รออัพเดทตอน pls....
รออัพตอนใหม่ อย่างมีความหวัง 🥹...