ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน นิยาย บท 8

หลังจากที่พวกป้าไช่จากไปแล้ว ซือลั่วก็เดินเข้ามา วางของไว้ตรงหน้าของเว่ยฉงซีอย่างโอ้อวด "วันนี้ตอนค่ำพวกเรากินไก่ดีหรือไม่"

คนฉลาดเช่นนาง ดูออกได้อย่างง่ายดายว่าเว่ยฉงซีกำลังอารมณ์ไม่ดี แต่ว่านางไม่เข้าใจว่าเขาโกรธเพราะอะไร

เว่ยฉงซีเค้นเสียงอย่างเย็นชา "เจ้าทำตัวผิดไปจากปกติเช่นนี้ต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีเป็นแน่ เจ้าต้องการจะทำอะไร"

ซือลั่วทั้งฉิวทั้งขัน "วางยาเจ้าจนตาย แล้วแต่งงานใหม่ได้ไม่ได้"

เว่ยฉงซีชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วเค้นยิ้มอย่างเย็นชาทันที "เจ้าเคยใช้ชีวิตอยู่กับข้าเว่ยฉงซีอย่างข้า อยากจะแต่งงานใหม่เกรงว่าจะยากแล้ว ทั้งชีวิตนี้เจ้าไม่มีทางพลิกตัวกลับมาได้อีก!"

หลังจากพูดจบ เขาราวกับยังไม่ได้ระบายความโกรธแค้นจึงกล่าวอีกว่า "ข้าได้ยินมาว่าซิ่วไฉจย่าหมั้นหมายแล้ว เจ้าล้มเลิกความตั้งใจซะเถอะ"

ซือลั่วผงะ ค้นหาจากความทรงจำในหัวอยู่พักหนึ่งถึงจะนึกออกว่าซิ่วไฉจย่าเป็นใคร เพื่อเขาผู้นี้แล้ว เจ้าของร่างเดิมถึงกับกระโดดน้ำตาย เพื่อต้องการให้เว่ยฉงซีหย่ากับนางแล้วไปแต่งงานใหม่

นางลอบแลบลิ้นอย่างลับๆ เจ้าของร่างเดิมนี่เป็นตัวปัญหาจริงๆ 

"ใช่ๆๆ ข้าล้มเลิกความตั้งใจแล้ว นี่เป็นเพราะว่าข้าต้องการที่จะใช้ชีวิตดีๆ กับเจ้า" ซือลั่วพูดจบก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเว่ยฉงซี

"มองอะไร"

เว่ยฉงซีไม่พอใจอย่างมากเรื่องที่มีคนมามองขาของเขา แต่ทว่าหลายปีมานี้ถูกซือลั่วด่าทอตลอดทั้งวันเขาจึงไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้นแล้ว

เมื่อพิจารณาท่าทางของซือลั่วในตอนนี้ คาดว่านางคงต้องการที่จะเหยียดหยามเขาอีก

ไม่คาดคิดว่าซือลั่วกลับพูดว่า "เจ้าคลานออกมาได้อย่างไร มือเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้วเจ้าไม่รู้หรือ"

เว่ยฉงซีผงะ กล่าวเสียงเสียงต่ำว่า "ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจ้าหรือไง"

นางไม่ได้สั่งให้เขาคลานออกมานะ

ซือลั่วขี้เกียจจะโต้เถียงกับเขา นางหิวจะตายแล้ว โจ๊กชามนั้นตอนเที่ยงถูกย่อยไปตั้งนานแล้ว ในตอนนี้นางรู้สึกว่าตัวเองกินวัวตัวหนึ่งได้เลย

อีกทั้งเว่ยฉงซีเจ้าคนน่าเป็นห่วงผู้นี้ ตัวนางเองตอนนี้ก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะประคองเขากลับห้องแล้วจริงๆ

โชคดีที่ทันทีที่นางคิดเสร็จ เด็กจากร้านขายไม้ไผ่แห่งนั้นก็นำเก้าอี้ไม้ไผ่มาส่งพอดี

"เจ้า…"

เว่ยฉงซีกลั้นหายใจ ในที่สุดก็ใช้มือพยุงตัวเองขึ้นมา เตรียมพร้อมที่จะปีนไปบนเก้าอี้

ซือลั่วเห็นว่ามือของเขาเริ่มมีเลือดออกอีกครั้ง ท่าทีดูจนตรอกอย่างมาก นางทนไม่ได้และเดินมาประคองเขาไปนั่งบนเก้าอี้ดีๆ โดยไม่สนใจว่าเขาจะยินยอมหรือไม่ จากนั้นจึงเป่าปากอย่างโล่งอก

“ไม่ไหวแล้ว ข้าหิวจะตายแล้ว ไปทำอาหารก่อน กินบะหมี่ได้หรือไม่ ข้าซื้อแป้งหมี่ขาวมานิดหน่อย"

เดิมทีอยากจะตุ๋นเนื้อไก่ ทว่าซือลั่วหิวเกินไปแล้วจริงๆ นางคิดว่าไม่ต้องรอให้ไก่ตุ๋นจนได้ที่ นางก็คงหิวตายแล้ว โชคดีที่กินบะหมี่รองท้องไปก่อน แล้วเก็บไก่ตัวผู้ไว้ตุ๋นสำหรับวันพรุ่งนี้

เว่ยฉงซีไม่กล่าวอะไร

ซือลั่วไม่สนใจเขาและหยิบผักที่ซื้อจากป้าไช่ รวมทั้งข้าวสารหมี่และอื่นๆ ที่ซื้อที่ตลาดเข้าไปในครัว

วันนี้นางซื้อของไปไม่น้อย เครื่องปรุงและอื่นๆ ล้วนมีหมด ชีวิตก่อนของซือลั่วทำธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์ ตัวนางเองเดิมก็เป็นนักกินตัวยง ในความคิดของนาง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มนุษย์นั้นขอแค่ได้กินของดีและดื่มของดี ถึงจะมีเรี่ยวแรงไปทำสิ่งอื่นๆ ดังหลักการที่กล่าวไว้ว่า เมื่อกินอาหารอิ่มและสวมใส่เสื้อผ้าอันอบอุ่น ใจที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหาก็จะบังเกิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ ข้าจะเป็นภรรยาขยัน