แม่เฉินชี้นิ้วไปที่เฉินหู่ด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้าลูกอกตัญญู! เจ้าเตรียมตัวไว้เถิด รอให้ท่านพ่อและพี่ชายคนโตกับคนรองของเจ้ากลับมาถึงเรือน ดูพวกเขาจะทุบตีเจ้าให้ตายหรือไม่!”
เฉินหู่ไม่ได้เอ่ยวาจา เพียงแต่ปรายตามองแม่เฉินด้วยสายตาเย็นชาเพียงคราเดียวเท่านั้น
ในใจเฉินมู่สะท้านสะเทือน สายตานั้นช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก นางรู้สึกหวาดหวั่นจนใจสั่น พลางเหลือบมองไปยังเตาหุงต้ม ก่อนจะกัดฟันแน่นและถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อพวกนางออกไปแล้ว เฉินหู่จึงกลับมาทำอาหารต่อ จัดเตรียมผักที่ล้างสะอาดไว้เรียบร้อย รอจนเนื้อสุกได้ที่แล้วจึงเทผักลงไปเคี่ยวรวมกัน ครานี้จึงได้ทั้งเนื้อ ผัก และน้ำแกงไว้กินพร้อมกัน
เขาถือเคียวไว้ในมือ เหลาต้นไม้ให้เป็นท่อน ภายใต้แสงไฟสีแดงฉาน ใบหน้าและแววตาของเขาเย็นชายิ่งนัก ราวกับปราศจากอารมณ์ใด ๆ
เขารู้ดีว่าในไม่ช้านี้ต้องเผชิญศึกอันดุเดือดอีกคราหนึ่ง บางทีในภายภาคหน้าผู้คนอาจพากันด่าทอเขา แต่นั่นจะเป็นอย่างไรเล่า เขามิได้ใส่ใจแม้เพียงน้อย
พาอเฉิน พร้อมด้วยเฉินเฉียงและเฉินหลง สองพี่น้อง ถูกอู่ซื่อและหยางซื่อเรียกตัวกลับมา ระหว่างทางพวกเขาก็ได้ฟังเรื่องราวจากปากอู่ซื่อและหยางซื่อจนโทสะพุ่งพล่าน ต่างพากันกลับมาด้วยความเดือดดาล
ทันทีที่ถึงเรือน พ่อเฉินก็คำรามเสียงก้องว่า “เฉินหู่! ออกมาหาข้า แล้วเตรียมตัวตายเสียเถิด!”
เฉินหู่ก้าวออกมาจากครัวอย่างเชื่องช้า ในมือของถือไม้ท่อนหนึ่งขนาดเท่าข้อมือของเด็กไว้แน่น
เฉินเฉียงและเฉินหลงต่างพากันประหลาดใจมิใช่น้อย
“เจ้าเสียสติไปแล้วหรือไร? บังอาจถือไม้หมายจะฟาดท่านพ่อและพี่ชายทั้งสองของเจ้าเช่นนี้หรือ?”
เฉินเฉียงตวาดด้วยความโกรธ เขาคิดว่าเฉินหู่คงเสียสติไปแล้ว หาไม่แล้วใครเล่าจะกล้าทำเช่นนี้ ใครกันที่มอบความกล้าเช่นนี้ให้เขา?
แม่เฉินก้าวออกมาจากเรือนใหญ่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอำมหิตว่า “เสี่ยวเฉียง เสี่ยวหลง พวกเจ้าจงรีบสั่งสอนลูกอกตัญญูผู้นี้เสียเถิด จะทุบตีจนถึงตายก็หาเป็นไรไม่ นับแต่นี้ไปข้าจะถือเสียว่ามิได้ให้กำเนิดสัตว์เดรัจฉานเช่นมัน”
เฉินหลงคว้าจอบขึ้นมาทันที พลางกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ คอยดูเถิด ข้าจะฟาดมันให้ตายเสียเดี๋ยวนี้!”
กล่าวจบ เฉินหลงก็ยกจอบขึ้นแล้วฟาดใส่เฉินหู่ทันที
เฉินหู่หาได้ถอยหลบไม่ เพียงเบี่ยงกายหลบ ก่อนจะสวนกลับด้วยการหวดไม้ในมือฟาดเข้าที่เอวของเฉินหลงอย่างแรง
เสียง ‘ปั่ก’ ดังสนั่น เป็นเสียงไม้กระทบเข้าที่เอวของเฉินหลงอย่างหนักหน่วง ตามมาด้วยเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของเฉินหลง
“โอ้ย! พระเจ้า! ครานี้ต้องมีคนตายเป็นแน่แล้ว...”
เฉินหลงรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงแล่นไปทั่วเอว จนร่างทั้งร่างราวกับชาดิก เขาล้มลงกับพื้นพลางร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ส่วนจอบในมือก็ตกหล่นลงสู่พื้นตั้งแต่แรกแล้ว
เฉินหู่ลงมือทั้งดุดันและเหี้ยมโหด เกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา