ซูซานหลางได้ยินดังนั้น จึงเข้าใจว่าที่แท้ก็เป็นกังวลเรื่องนี้ เขายิ้มละไมอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า “วันนี้นะ ท่านแม่ของของพวกเจ้าจะอยู่ที่เรือน พวกเจ้าวางใจเถิด”
โจวเหิงเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “อาฉง อาหวา พวกเจ้าไปเถิด อย่ากังวลเรื่องข้าเลย”
ตาเฒ่าอู๋ไอเบา ๆ ครั้งหนึ่งก่อนกล่าวว่า “นี่ยังมีเฒ่าผู้นี้อยู่ไม่ใช่หรอกหรือ?”
เขานั้นแม้อายุจะมากอยู่บ้าง แต่ก็มิถึงกับแบกเด็กตัวน้อยมิไหวกระมัง อีกทั้งเมื่อปีก่อน เขายังนำโจวเหิงจากเมืองหลวงมา หาได้รู้ไม่ว่าเขาได้แบกพาเดินทางมาไกลเพียงใด...
ซูฉงและซูหวาจึงวางใจลงได้ แล้วติดตามซูซานหลางออกจากเรือนไปพร้อมกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูฉงและซูหวาได้ไปยังหมู่บ้านอื่น
หมู่บ้านปาเจี่ยวอยู่ห่างจากหมู่บ้านหนานซานประมาณระยะทางสองภูเขา หากเดินเท้าก็ต้องใช้เวลาราวหนึ่งชั่วยาม
ซูซานหลางก็เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเช่นกัน ระหว่างพาซูฉงและซูหวา เขายังต้องถามทางอยู่หลายครั้ง กว่าจะมาถึงเรือนท่านอาจารย์จ้าวโส่วเหรินของโรงเรียนเมิ่งในหมู่บ้านปาเจี่ยว
จ้าวโส่วเหรินวัยสี่สิบหกปี เป็นผู้สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตั้งแต่อายุยี่สิบ แต่ภายหลังแม้สอบหลายปี ก็หาได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นไม่ อีกทั้งพ่อแม่ก็ล่วงลับไป พี่ชายไม่ปรารถนาจะเลี้ยงดูเขาให้เรียนต่อ จึงแยกครอบครัวกันไป ทำให้จ้าวโส่วเหรินต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูครอบครัวเอง
เขาจึงละทิ้งการศึกษาขั้นสูง แล้วเดินทางมายังหมู่บ้านปาเจี่ยว ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับหมู่บ้านอื่น ๆ เพื่อเปิดโรงเรียนเมิ่งสอนเด็กเล็ก
โรงเรียนเมิ่งแห่งนี้เปิดสอนมากว่ายี่สิบปี มีทั้งเด็กที่สอบได้เป็นถงเซิงและซิ่วไฉมากมาย ว่ากันว่าศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของจ้าวโส่วเหรินนั้น ได้เดินทางไปยังเมืองหลวงและรับตำแหน่งขุนนางแล้ว
จ้าวโส่วเหรินให้ความสำคัญกับมารยาทและการอบรมสั่งสอน ดังนั้นผู้ที่มาศึกษากับเขา ย่อมไม่อาจกระทำการเสียมารยาทได้เป็นอันขาด
ซูซานหลางจดจำข่าวสารที่สืบทราบมาไว้ในใจอย่างแน่นแฟ้น ด้วยเหตุนี้เมื่อคืน เขาและลูกชายทั้งสองจึงล้างหน้าล้างตาและจัดแต่งตัวเองให้เรียบร้อยเป็นพิเศษ ครั้นถึงวันนี้ก็มาในสภาพสะอาดสะอ้าน ก่อนเคาะประตู ซูซานหลางยังได้ช่วยจัดเสื้อผ้าของซูฉงและซูหวาให้เรียบงามอีกครั้ง
เมื่อมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดบกพร่องแล้ว ซูซานหลางจึงยกมือขึ้นเคาะประตู
ไม่นานนัก ก็มีเสียงสตรีดังออกมาจากในลานเรือนว่า ‘ผู้ใดหรือ’
ประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว หญิงผู้นั้นมองสำรวจซูซานหลางและลูกทั้งสองครู่หนึ่ง ก่อนหลีกกายออกแล้วกล่าวว่า “คงมาสมัครเรียนกระมัง เชิญเข้ามาเถิด นายท่านของข้ากำลังดื่มชาอยู่ในเรือน”
ซูซานหลางเข้าใจในฐานะของสตรีผู้นั้น เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ขอบคุณแม่นางที่นำทาง”
จ้าวฮูหยินยิ้มบาง ๆ ก่อนเดินนำหน้าพาซูซานหลางและลูกทั้งสองไปตามทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา