“ท่านพ่อ พวกเรากลับกันเถอะ อาจารย์เช่นนี้ ข้าเองก็ไม่อยากเล่าเรียนแล้ว”
ซูหวาดึงแขนเสื้อของซูซานหลางแล้วเอ่ยเสียงค่อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบอาจารย์ แต่อาจารย์แตกต่างจากที่น้องเหิงบอกอย่างสิ้นเชิง
อาจารย์ไม่ได้สอบวัดความรู้ของเขา เพียงแต่สอบถามเรื่องครอบครัวของเขา เรื่องราวในอดีตเขาจำได้ นั่นคือบาดแผลของครอบครัวเขา แต่จ้าวฮูหยินที่มีความรู้กลับไม่หลีกเลี่ยง ยังคงดึงดันเปิดบาดแผลของเขา เรื่องนี้ก็ไม่ดี เขาไม่อยากเรียนกับอาจารย์แล้ว
ซูฉงเองก็ดึงมือซูซานหลางแล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านพ่อ ข้าเองก็ไม่อยากเรียนกับเขาแล้ว”
เด็กน้อยไร้เดียงสาสองคน กล้าพูดขนาดนี้ ทำให้จ้าวโส่วเหรินหน้าเสียทันที จึงทำเสียงฮึดฮัด
“เชิญพวกเจ้าไปเถอะ ที่ของข้าคับแคบคงรับพวกเจ้าสองคนไว้ไม่ได้หรอก”
ซูซานหลางจูงมือซูฉงซูหวา เขากลืนน้ำลาย หยุดไปสักครู่จึงเอ่ยถามจ้าวโส่วเหริน
“อาจารย์จ้าว ตอนนั้นที่ข้าตัดขาดจากบิดามารดา เพื่อทางรอดของครอบครัวข้า ข้าอยากให้พวกเขากินอิ่มนอนอุ่น สาเหตุในนี้ข้าไม่อยากพูดอย่างละเอียด เรื่องเช่นนี้หากไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพียงคำพูดไม่กี่คำของผู้อื่นคงยากจะรับรู้ถึงความรู้สึกเดียวกัน ข้าไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจในตอนนั้น ต่อไปก็ไม่เสียใจเช่นกัน”
ซูซานหลางหวังว่าอาจารย์จ้าวจะรับซูฉงและซูหวาเอาไว้
เดิมทีเขาไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องในอดีต แต่เมื่อนึกถึงลูกชายทั้งสอง เขาจึงอยากอธิบายสักครั้ง จ้าวโส่วเหรินเองก็เป็นพ่อแม่ เขารู้สึกว่าพูดเช่นนี้ จ้าวโส่วเหรินน่าจะเข้าใจ
จ้าวโส่วเหรินมองซูซานหลางอย่างเย็นชา ทำเสียงฮึดฮัดแล้วเอ่ยขึ้น
“ข้ารับนักเรียน สิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดคือความกตัญญู หลายปีมามนี้ ดูเหมือนเจ้าจะไม่สำนึกเลย ไม่เคยคิดเลยว่านั่นคือพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเจ้ามา เจ้าเป็นคนที่ไม่มีความกตัญญู ลูกของเจ้าข้าก็ไม่รับ พวกเจ้าไปเถอะ”
ซูซานหลางตัดขาดจากสาแหรกตระกูล ทอดทิ้งพ่อแม่ เรื่องนี้แพร่สะพัดไปไกล
จ้าวโส่วเหรินสอนหนังสือ ทั้งซูชิงและซูซุ่นต่างก็ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนปฐมวัย พวกเขามักนินทาว่าร้ายครอบครัวซูซานหลางบ่อยครั้ง ในขณะที่ครอบครัวซูซานหลางไม่รู้ตัว ที่โรงเรียนได้ตั้งให้ครอบครัวซูซานหลางเป็นกรณีศึกษาในทางลบไปนานแล้ว
ตอนนี้ซูซานหลางพาลูกชายทั้งสองมาเข้าเรียน จ้าวโส่วเหรินจึงต้องสั่งสอนกันเสียบ้าง
ไม่คิดว่าพวกเขาจะไม่สำนึกผิด คนเช่นนี้ยังอยากศึกษาเล่าเรียนหรือ ฝันไปเถอะ
เมื่อจ้าวฮูหยินชงชาออกมา พบว่าบรรยากาศผิดปกติ นางจึงขมวดคิ้ว มองดูพ่อลูกซูซานหลาง อยากถามแต่ก็ไม่ถาม
ซูหวาและซูชงดึงมือของซูซานหลาง
ตาขวาของซูซานหลางแดงเล็กน้อย เขาจับมือลูกชายทั้งสองแน่น สุดท้ายเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า
“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
เขาพาซูฉงซูหวาเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว
จ้าวฮูหยินตามออกมา นางถอนหายใจ แต่สุดท้ายไม่ได้พูดสิ่งใด
เมื่อเห็นประตูใหญ่ตระกูลจ้าวที่ปิดสนิท ซูซานหลางถอนหายใจยาว ลำคอจุกเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา