"ซื่อเม่ย เอาสิ่งนี้ให้อาจารย์ของเจ้าเถอะ ตอนนี้เจ้ายังไม่สำเร็จวิชา เจ้าไม่ควรรับเงินพวกนี้"
ซูซานหลางถือเงินแล้วรู้สึกว่ามันหนักมือ เขาตระหนักได้ทันทีว่า สวรรค์ช่างเมตตาครอบครัวของพวกเขาเหลือเกิน
หลังจากตั้งสติได้ ซูซานหลางก็พิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ของตาเฒ่าอู๋กับซูเสี่ยวลู่อย่างระมัดระวังมากขึ้น เขาเกรงว่าซูเสี่ยวลู่ยังเด็กเกินไป อาจจะทำบางสิ่งบางอย่างได้ไม่ดีพอ
ไม่เป็นไรถ้าซูเสี่ยวลู่ยังไม่รู้เรื่อง ในฐานะบิดามารดา พวกเขาควรจะเข้าใจและสอนซูเสี่ยวลู่
"พ่อของลูก เจ้าพูดถูกแล้ว เงินมากมายขนาดนี้เราไม่ควรรับไว้"
จ้าวซื่อก็เห็นด้วยกับที่ซูซานหลางพูด ซื่อเม่ยของนางยังอยู่ระหว่างเล่าเรียนกับหมอเทวดา และยังไม่ได้สำเร็จวิชา ดังนั้นตามเหตุผลแล้วไม่ควรรับเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้อะไร การฝึกฝนสำหรับลูกศิษย์มักจะเข้มงวดเสมอ
ตาเฒ่าอู๋ปฏิบัติต่อซูเสี่ยวลู่อย่างดี ไม่ได้ทำให้ลำบากลำบนก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
ซูเสี่ยวลู่มองซูซานหลางกับจ้าวซื่อ แล้วนางก็อ้อนบิดาของตนด้วยท่าทีน่ารักน่าชังว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ แต่นี่เป็นเงินที่อาจารย์ให้ข้านะเจ้าคะ"
สิ่งที่ซูซานหลางกับจ้าวซื่อคิดนั้นถูกต้อง
เงินก้อนนี้ ถึงนางจะไม่รับก็ไม่เป็นไร แต่เพราะเป็นเงินที่ตาเฒ่าอู๋ให้ ความหมายจึงแตกต่างออกไป
ซูซานหลางกับจ้าวซื่อตกตะลึง
ผ่านไปสักครู่ ซูซานหลางจึงพูดว่า "นี่เป็นสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าให้มาจริงๆ หรือ นี่มันมากเกินไปแล้ว"
เขาไม่รู้ว่าตาเฒ่าอู๋มีเงินมากแค่ไหนกันแน่ แต่แค่กล่องใบนี้ ซูซานหลางก็จินตนาการไม่ออกแล้ว
จ้าวซื่อก็พูดไม่ออกอยู่บ้าง นางไม่รู้จะพูดอะไรดีเพื่อแสดงความตกตะลึงในใจ
บางคนเพื่อเงินไม่กี่อีแปะก็ถึงกับทะเลาะวิวาทกัน แต่ตาเฒ่าอู๋กลับให้เงินมากมายขนาดนี้กับเด็กคนหนึ่งอย่างง่ายดาย
ซูเสี่ยวลู่กะพริบตาแล้วพูดว่า "อาจารย์ยังบอกอีกว่า ต่อไปทั้งสำนักหมิงกู่จะเป็นของข้า"
ซูซานหลางสูดลมหายใจลึกๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อเป็นสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าให้มา เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้ให้ดีนะ ต่อไปต้องกตัญญูต่ออาจารย์ให้ดี เข้าใจหรือไม่?"
จ้าวซื่อก็กำชับว่า "จำสิ่งที่ท่านพ่อของเจ้าพูดให้ดีนะ สิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นคนคือการไม่ลืมรากเหง้า ไม่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แม่หวังว่าเจ้าจะเคารพครูบาอาจารย์เสมอ"
ซูเสี่ยวลู่พยักหน้า นางตอบอย่างจริงจังว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าเข้าใจทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะ"
ตาเฒ่าอู๋แม้ภายนอกจะดูเย็นชา แต่ภายในใจอบอุ่น นางเป็นศิษย์คนเดียวของเขา แม้ตาเฒ่าจะไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับทะนุถนอมนางยิ่งนัก
นางไม่ใช่คนไม่รู้จักบุญคุณ นางจะไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณได้อย่างไร
เมื่อเห็นซูเสี่ยวลู่พูดอย่างจริงจัง ซูซานหลางกับจ้าวซื่อก็มองหน้ากัน ต่างรู้สึกสบายใจขึ้น ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างเข้าอกเข้าใจ ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา