จ้าวซื่อก็ครุ่นคิดแช่นกัน นางพูดขึ้นว่า "แต่ถ้าคนในโรงเตี๊ยมเรียนรู้ฝีมือไป แล้วคนของพวกเขาเปิดร้านแข่งล่ะ?"
ปลาเล็กย่อมสู้ปลาใหญ่ไม่ได้แน่นอน
ซูซานหลางได้ยินเช่นนั้นก็เห็นด้วย เขาหันไปมองซูเสี่ยวลู่ด้วยความเกรงใจ
ซูเสี่ยวลู่มองจ้าวซื่อแล้วยิ้มก่อนจะพูดว่า "เช่นนั้นก็ง่ายมาก แค่ลงนามสัญญา ไม่เพียงแต่ห้ามเปิดร้านขายสินค้าแบบเดียวกันในเมืองนี้ แต่ถ้าจะไปขายที่อื่นก็ต้องจ่ายค่าฝีมือให้เราด้วย"
ในความทรงจำของนางเมื่อชาติก่อน สิ่งนี้เรียกว่าทำการร่วมธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์
จ้าวซื่อกับซูซานหลางครุ่นคิดถึงคำพูดของซูเสี่ยวลู่ ทั้งสองต่างรู้สึกเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเขาก็สามารถนั่งรอเงินไหลเข้ามาได้เลยใช่หรือไม่
ในโลกนี้ยังมีเรื่องดีๆ แบบนี้อีกหรือ?
"ท่านอาสะใภ้เล็กทำเต้าหู้ตุ๋นผักดองเผ็ดได้อร่อยมาก แล้วยังทำปลาตุ๋นได้อร่อยอีกด้วย นางสามารถเขียนสูตรอาหารเหล่านี้ลงไปได้ ท่านปู่ฝูในจวนตระกูลซุนเคยพูดไว้ว่า สูตรอาหารมีมูลค่ามาก แม้ว่าผักดองเปรี้ยวกับผักดองเผ็ดจะไม่ได้มีราคาสูง แต่ถ้านำพวกมันไปจับคู่กับสิ่งที่มีมูลค่า เช่นนั้นพวกมันก็จะกลายเป็นของที่มีราคาได้" ซูเสี่ยวลู่พูดกับซูซานหลางกับจ้าวซื่อด้วยท่าทีจริงจัง
หมู่นี้นางกำลังเรียนทำอาหาร ในตระกูลซุนมักจะชอบรสชาติอ่อนๆ และเครื่องเคียงก็มีเครื่องปรุงหลายอย่าง
เหมือนกับพุทราที่ยังไม่สุกดี หากกินสดๆ ก็คงไม่อร่อย แต่ถ้านำไปต้มทำซุป รสชาติก็จะออกมาดีมากทีเดียว
ผักกาดขาวที่ดูไม่มีค่า หากนำมาทำเป็นผักกาดหยกหรือผักกาดฝอยหยก เช่นนั้นมูลค่าก็จะเปลี่ยนไปทันที
ความคิดของซูซานหลางกับจ้าวซื่อยังมีข้อจำกัด แต่หากได้รับการชี้นำอย่างเหมาะสม พวกเขาก็จะรู้เองว่าควรทำอย่างไร
หากนางไม่พูดออกมา บางทีซูซานหลางกับจ้าวซื่ออาจไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย จะมีเพียงตอนที่มีผู้อื่นเริ่มทำกิจการแบบเดียวกันเท่านั้น ที่พวกเขาจะเริ่มคิดถึงปัญหานี้
แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของครอบครัวนาง นางจะปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่เตรียมการล่วงหน้าได้อย่างไร
"พ่อของลูก ข้าคิดว่าซื่อเม่ยพูดมีเหตุผล เรากลับไปปรึกษากับครอบครัวน้องหูจื่อกันเถอะ"
จ้าวซื่อมองไปที่ซูซานหลางก่อนจะพูด ความยินดีจากชัยชนะครั้งใหญ่ในวันนี้เริ่มจางหายไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่นางคิดถึงคืออนาคตที่อยู่ตรงหน้า
ซูซานหลางพยักหน้า "อืม เดี๋ยวกินอาหารมื้อเย็นเสร็จ เราจะไปกันสักรอบ"
ทั้งสองคนยิ้มให้กัน
ซูซานหลางยื่นมือไปลูบผมของซูเสี่ยวลู่ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ซื่อเม่ย ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ"
มิฉะนั้น ตอนนี้เขาคงคิดเรื่องพวกนี้ไม่ออก หากไม่ได้ซูเสี่ยวลู่ที่มีความคิดฉับไวช่วยเสนอความคิด บางทีวันนี้พวกเขาอาจขายผักดองเปรี้ยวผักดองเผ็ดไม่ได้เลยก็เป็นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา