ซูเอ้อร์หลางก็พูดเสริมว่า "ใช่แล้ว เสี่ยวจือ เจ้าอย่าไปเอาอย่างเขา เจ้ายังสาวอยู่นะ ต่อไปเจ้าต้องได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดี เจ้าวางใจได้ ถึงเวลานั้นพี่ใหญ่กับข้าจะสนับสนุนเจ้า แล้วก็ยังมีหลานชายทั้งห้าคนนี้ของเจ้า ทุกคนเป็นที่พึ่งอันแข็งแกร่งของเจ้า!"
ขอเพียงซูเสี่ยวจือให้ผลประโยชน์กับพวกเขาก็พอแล้ว
ซูเสี่ยวจือไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าของนางซีดขาว ทุกคนในครอบครัวต่างพูดคุยกันอย่างร่าเริง ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของนาง
หลังจากเข้าบ้านมา นางไม่มีโอกาสได้พูดสักคำ
ฟังสิ่งที่พวกเขาพูด ซูเสี่ยวจือรู้สึกไม่สบายใจเลย
ในที่สุดหวังซื่อก็ยื่นมือไปหาซูเสี่ยวจือ พูดอย่างถือเป็นเรื่องธรรมดาว่า "เงินล่ะ เอามาให้ข้าสิ"
ตอนนี้เอง ทุกคนในครอบครัวถึงได้จ้องมองซูเสี่ยวจืออย่างจริงจัง รอให้ซูเสี่ยวจือหยิบเงินออกมา
ซูเสี่ยวจือกลืนน้ำลาย นางเงยหน้ามองหวังซื่อพลางกล่าวว่า "ท่านแม่ ข้าไม่มีเงินเลย"
เมื่อซูเสี่ยวจือพูดจบ อากาศราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
หวังซื่อฟื้นจากความตกตะลึงเป็นคนแรก จ้องมองซูเสี่ยวจือด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางตะโกนว่า "ถ้าเจ้าไม่ได้มาให้เงิน แล้วมาที่นี่ทำไม?"
"อาหญิง เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เจ้าเชาเจ้าไฉและเจ้าซุ่น พวกเขาล้วนเป็นหลานชายแท้ๆ ของเจ้านะ เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน?"
หลี่ซื่อถามด้วยความโกรธเคืองเช่นกัน
โจวซื่อขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า "อาหญิง เรื่องนี้ก็ตกลงกันไว้แล้วไม่ใช่หรือ? ทางบ้านเจ้าสาวก็รออยู่นะ ตอนนี้เจ้าไม่ตอบตกลง จะให้ผู้อื่นทำอย่างไรเล่า?"
ซูเชา ซูไฉ และซูเหล่ยที่รอจะแต่งงานต่างก็ตาเป็นประกายด้วยความร้อนใจ
ซูซุ่นกับซูชิงต่างจ้องมองซูเสี่ยวจือด้วยท่าทีร้อนใจ
พ่อเฒ่าซูขมวดคิ้ว มองซูเสี่ยวจือด้วยความไม่พอใจอยู่บ้าง
ในชั่วขณะนั้น ทุกอย่างกลายเป็นความผิดของซูเสี่ยวจือไปหมด
ซูเสี่ยวจือรู้สึกไม่สบายใจ แต่เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาเป็นบิดามารดาพี่น้องญาติสนิท นางจึงพยายามอธิบายว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ พี่รองพี่สะใภ้รอง และพวกเจ้าเชา ฟังข้าพูดก่อน"
"ข้าไม่มีเงินจริงๆ เงินจำนวนนี้ข้าหาไม่ได้ พี่สามให้ข้าเดือนละหนึ่งตำลึงเป็นค่าแรง ข้าเอามากตัญญูต่อท่านแม่หมด แม้แต่เงินของซวงซวงกับแม่สามี ข้าก็เอามาให้ไม่น้อย ตอนนี้ข้าหาเงินห้าสิบตำลึงไม่ได้จริงๆ......ข้า— —"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา