จ้าวซื่อยืนอยู่ที่ประตูด้วยความกังวล ซูเสี่ยวหลิงจับมือนางไว้แน่นแล้วพูดปลอบใจว่า
“ท่านแม่ ไม่ต้องห่วงนะ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”
ซูเสี่ยวหลิงไม่ค่อยมีเพื่อนนัก ในหมู่บ้านนี้ เฉินต้านิวและเฉินเอ้อร์นิวเป็นสองคนที่ยอมพูดคุยกับนาง แม้พวกนางจะต้องทำงานหนักและไม่ค่อยมีโอกาสได้พบกัน แต่ทุกครั้งที่เจอกัน พวกนางมักยิ้มให้นางเสมอ และยังแบ่งอาหารหรือผลไม้ป่าให้
ด้วยเหตุนี้ ซูเสี่ยวหลิงจึงหวังอย่างจริงใจให้เฉียนซื่อปลอดภัย นางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน ตอนที่จ้าวซื่อให้กำเนิดซูเสี่ยวลู่ นางยังจำความกลัวที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้
เฉินต้านิวและเฉินเอ้อร์นิวในตอนนี้ ต้องกำลังเผชิญหน้ากับความกลัวเหมือนนางในตอนนั้นแน่นอน
จ้าวซื่อสังเกตเห็นความผิดปกติของซูเสี่ยวหลิง นางถอนหายใจและลูบศีรษะของลูกสาวเบาๆ พลางพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ซานเม่ย ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย ตอนนี้ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ แม่ไม่วางใจ ขอไปดูที่บ้านน้องหู่สักหน่อย”
ซูเสี่ยวหลิงรู้ว่าตัวเองไม่ควรสร้างความกังวลเพิ่มให้แม่ จึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
จ้าวซื่อกลับไปที่ห้อง เก็บของเล็กน้อยก่อนจะออกเดินทาง
ซูเสี่ยวหลิงเดินมาส่งถึงหน้าประตู จ้าวซื่อกำชับให้นางรีบกลับไปปิดประตูและเข้านอน ก่อนนางจะจากไป
เมื่อปิดประตูเรียบร้อยและเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง ระหว่างทาง ซูเสี่ยวหลิงได้ยินเสียงของโจวเหิงเรียกจากห้องของซูฉง
“เสี่ยวหลิง เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
โจวเหิงที่นอนหลับตื้น ตื่นขึ้นเพราะเสียงดังตั้งแต่แรก แม้จะไม่ได้ยินชัดเจน แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนในบ้านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เขาจึงอยากถามดูเผื่อจะช่วยอะไรได้
ซูเสี่ยวหลิงเปิดประตูเข้าไปในห้อง เห็นซูฉงยังหลับสนิท ส่วนโจวเหิงนั่งตัวตรงอยู่
นางเดินเข้าไปใกล้เขา พลางพูดอย่างอ่อนโยนว่า “น้องเหิง เสียงดังรบกวนเจ้าแล้ว ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะ”
“เสี่ยวหลิง พวกเจ้าดีกับข้ามาก ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้ารู้สึกถึงความเศร้าจากตัวเจ้า ข้าอยากช่วยเจ้า”
โจวเหิงเม้มริมฝีปากเบาๆ เขาเป็นคนที่มีความดื้อรั้นในแบบของเขาเอง
ซูเสี่ยวหลิงนั่งลงข้างเตียงของเขา บางทีความรู้สึกที่ถูกกดดันในใจอาจจะมากเกินไป นางจึงเริ่มเล่าเรื่องราวในใจให้อีกฝ่ายฟังด้วยเสียงแผ่วเบา
ค่ำคืนเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของซูฉงที่หลับสนิท
โจวเหิงนั่งฟังอย่างเงียบๆ เช่นกัน
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา