ณ พระราชวัง
ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักเลิกประชุม ฉู่อวิ๋นกุยมองรอยยิ้มเกลื่อนหน้า ฝีเท้าเบาฉับไวของสวีเฮ่ออัน หันมองเสด็จพี่สามของตนอย่างอดไม่ได้
“เสด็จพี่ ท่านดูท่าทางภาคภูมิใจดุจสายลมฤดูใบไม้ผลิมาเยือนของสวีเฮ่ออันนั้นเถิด คาดว่ากำลังจะรีบไปทะเลสาบตามนัดกระมัง? ท่านไม่ไปแน่หรือ?”
“ไม่ไป” ฉู่จวินถิงเอ่ยตอบเสียงเรียบ
ฉู่อวิ๋นกุยเห็นฉู่จวินถิงไม่ใส่ใจ ท่าทางไม่แยแสเลยสักนิด บ่นภายในใจอย่างอดไม่ได้ หรือเขาเดาผิดไปจริง เสด็จพี่สามมิได้มีใจให้แม่นางซ่ง?
ครู่ต่อมา จู่ ๆ เขาก็มองเห็นฉู่จวินถิงเดินไปทางสวีเฮ่ออัน
“ใต้เท้าสวี หัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินตามหาเจ้า คล้ายกับว่าปัญหาค้าเกลือยังไม่ได้รับการแก้ไข”
ได้ยินดังนั้น สายตาสวีเฮ่ออันเผยแววสงสัยวูบหนึ่ง ประสานมือเอ่ยตอบ “ขอบพระทัยท่านอ๋องมากพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้”
ฉู่อวิ๋นกุยเห็นสีหน้ามีความสุขของสวีเฮ่ออันจางไป แทนที่ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ครั้นหันกลับมามองท่าทางปลอดโปร่งโล่งสบายของพี่สามตนเองอีกครั้ง ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้
ดังคาด ยังเป็นพี่สามอำมหิต!
เขากลัวน้ำไม่ชอบไปเที่ยวชมทะเลสาบ จึงทำให้สวีเฮ่ออันเองก็ไม่มีโอกาสได้ไปด้วยเสียเลย
“เสด็จพี่สาม เมื่อครู่ข้าไม่เห็นหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินพูดคำนี้”
ฉู่จวินถิงเอ่ยตอบสีหน้าเรียบเฉยเป็นธรรมชาติ “เรื่องค้าเกลือเกี่ยวข้องกับราชสำนัก จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่สามารถแก้ได้ ข้าเร่งให้ตรวจสอบมีอะไรไม่เหมาะสม?”
ฉู่อวิ๋นกุย “...”
หากไม่รู้ความคิดที่แท้จริงของเสด็จพี่สาม มองเพียงท่าทางอื่น เขาก็เชื่อไปแล้วจริง!
ณ ทะเลสาบ
อวิ๋นเนี่ยนชูพาซ่งรั่วเจินมาถึงก็มองเห็นอวิ๋นเฉิงเจ๋อเพียงคนเดียว เอ่ยถามอย่างสงสัย “ญาติผู้พี่ คุณชายสวีเล่า?”
“เมื่อครู่เฮ่ออันส่งคนมาแจ้งข่าว หัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินเรียกเขาไปปรึกษาธุระสำคัญ วันนี้มาไม่ได้แล้ว ฝากข้าขอโทษพวกเจ้าด้วย วันหน้าจะต้องชดเชยแน่นอน”
“เหตุใดบังเอิญเพียงนี้เล่า?”
ยามทั้งสามคนไปถึงร้านอวิ๋นหย่า ก็ได้ยินเสียงดังฮือฮา ร้องว่าเยี่ยมระลอกหนึ่ง
“คุณชายฉินช่างมีพรสวรรค์โดยแท้ ไม่ว่าบทกวีหรือเรียงความก็เขียนออกมาได้ชวนให้คนตกตะลึง!”
“ก็เพียงเรียงความนี้ การสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ คุณชายฉินจะต้องถูกเลือกแน่นอน!”
“ก่อนนี้ทุกคนมองพลาดไป คิดว่าซ่งอี้อันเป็นผู้มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่ กลับเมินข้ามคุณชายฉิน พูดไปก่อนนี้ยังเป็นคุณชายฉินถ่อมตนเกินไปแล้ว!”
ฉินเซี่ยงเหิงได้ยินเสียงชื่นชม คลี่ยิ้มภาคภูมิใจ แสร้งโบกมืออย่างถ่อมตน
“ปกติข้าไม่ใส่ใจเรื่องชื่อเสียงเหล่านี้ หากมีความสามารถจริง ตอนสอบย่อมได้ประจักษ์ความจริง”
“คิดไม่ถึงเรียงความครั้งนี้ถูกสหายเฉียนนำออกมาอ่านให้ทุกท่านฟังแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ชื่นชม ข้าคนสกุลฉินมิกล้ารับ!”
“สหายฉิน เรียงความของเจ้านี้เพียงได้เห็นก็ชวนให้คนตกตะลึง ข้าได้อ่านเพียงคนเดียวไม่น่าเสียดายหรืออย่างไร? ก็สมควรนำออกมาให้ทุกคนได้ฟัง จึงจะไม่เสียพรสวรรค์นี้ไปอย่างสูญเปล่า!”
เฉียนเหว่ยหยิบเรียงความออกมาอ่านอีกหนึ่งรอบ เรียกความสนใจจากเหล่าบัณฑิตลูกค้าที่เดินผ่านไปมาให้หยุดฟังอย่างอดไม่ได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...