ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 146

สองพี่น้องศาลาการแสยะยิ้มอย่างลำพองใจ “คุณหนูท่านนี้ยังคงเข้าใจสถานการณ์

เหลิ่งชิงหลางมองแม่นางที่ตั้งใจเรียกร้องความไม่เป็นธรรมด้วยสายตาน่าสงสาร “คุณหนูผู้ใจงาม ช่วยข้าด้วยเถอะนะ? พ่อของข้าขายข้าแปดตำลึง สำหรับคุณหนู เป็นเพียงแค่เงินค่าแป้งชาดไม่กี่วันเท่านั้น เงินนี้ข้าจะต้องหาวิธีคืนท่านให้ได้แน่นอน”

แม่นางคนนั้นจับแขนเสื้ออย่างลังเล ควานหาสองสามตำลึงออกมาจากด้านใน

ชายร่างใหญ่สองคนพูดเสียงต่ำ “คิดจะไถ่ตัวแปดตำลึงงั้นเหรอ? เล่นตลกอะไร ไม่ลองไปสอบถามดูล่ะ แม่นางที่เข้าไปในเรือนหลินหลางของข้า จะไถ่ตัวออกใช้เพียงแค่ไม่กี่ตำลึงหรือไง? ขาดอีกสามร้อยตำลึง อย่าได้แม้แต่จะคิด!”

เหลิ่งชิงฮวนพูดเสียงเบา “พ่อข้าขายเพียงแค่แปดตำลึง ข้าไม่ได้กินข้าวของเรือนหลินหลางเลยสักเม็ดเดียว!”

หญิงสูงศักดิ์พูดคุยปรึกษา “สามร้อยตำลึง เล่นตลกอะไรกัน มากพอที่จะซื้อเด็กน้อยได้เป็นกองเลย ขาดทุนตายเลย”

“พวกท่านไม่เห็นหน้าตาสะสวยของนังเด็กนี่หรือขอรับ ขอเพียงแค่แม่เล้าของพวกข้าได้ฝึกฝนสั่งสอนนาง นี่ถือว่าเป็นตัวเต็งที่ดีเลยล่ะ สามร้อยตำลึงพวกข้ายังว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ห้าร้อย ขาดอีกห้าร้อยตำลึง”

“ดูเอาเถอะนังหนูคนนี้เป็นตัวปัญหา ไปยั่วยุผู้ชาย ใครจะกล้าเก็บตัวปัญหานี่ไว้กันล่ะ ไม่หาเรื่องใส่ตัวไปหน่อยหรือไง?”

ไม่ผ่าน ไม่ผ่าน และก็ยังคงไม่ผ่าน แม้แต่แม่นางที่ควานหาเงินต้องการที่จะไถ่หัวเราก็หดหัว ไม่พูดอะไรอีก

นี่เป็นความหวังสุดท้ายของเหลิ่งชิงฮวน เธอมองไปที่แม่นางคนนั้นด้วยสายตาคาดหวัง ด้วยความหวังที่เปี่ยมล้นว่านางจะตะโกนออกมาอย่างกล้าหาญ “ข้าซื้อตัวแม่นางคนนี้แล้ว!”

ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่มีคนที่ผ่านเลยสักคน ตัวเองทำลายงานเลี้ยงดูตัวของเสิ่นหลิงเฟิงงั้นเหรอ? มันจะจบลงยังไง?

เงียบสงัดอยู่ชั่วพักหนึ่ง ทุกคนต่างก็พากันหลบเลี่ยง

“แม่นางคนนี้ข้าซื้อตัวไว้แล้ว!”

กลุ่มคนด้านหลังมีคนส่งเสียงขึ้นมาอย่างกล้าหาญ

ทุกคนหันหน้าไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย มีสาวรับใช้ร่างอ้วนท้วมเหมือนถังน้ำเดินออกมาจากด้านหลัง ร่างอ้วนกลมตุ๊ต๊ะ แม้แต่ดวงตา จมูก ปากก็กลมเหมือนกัน ถลกถือชายกระโปรงของสาวรับใช้ ที่แทบจะปริแตกอยู่แล้ว

เหลิ่งชิงฮวนมองด้วยสายตาตกตะลึง เพราะว่าเธอรู้จักสาวรับใช้คนนี้ เคยมีวาสนาได้พบกัน ไม่ใช่คนอื่นคนใกล้ แต่เป็นองค์หญิงองค์หญิงลี่ว์อู๋ที่อยู่ใกล้ชิดพระสนมเสียนเฟยนั่นเอง

ตัวเองมัวแต่มองหาสะใภ้แทนเสิ่นหลิงเฟิง จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่านางอยู่ที่นี่ด้วย

นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? แถมยังแต่งตัวแบบนี้อีก

แม่นางที่เมื่อสักครู่จะควักเงินออกมาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง พูดเสียงเบาไม่รู้ว่าพูดว่าอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าที่งสองคนรู้จักกัน

ลี่ว์อู๋หยิบไม่กี่ตำลึงที่อยู่ในมือของเธอมา แล้วยื่นให้กับสองพี่น้องจากศาลาการอย่างกล้าหาญ “วันนี้ตอนออกมาข้างนอก ไม่ได้นำเงินติดตัวมาด้วย เงินสองตำลึงนี้ถือว่าเป็นเงินมัดจำ กลับไปข้าจะให้คนเอาเงินที่เหลือส่งไปให้เจ้าที่เรือนหลินหลาง ส่วนแม่นางคนนี้ก็ปล่อยนางไปซะ”

แน่นอนว่าสองพี่น้องศาลาการไม่รู้จักองค์หญิงลี่ว์อู๋ ไม่คิดว่าสาวรับใช้คนหนึ่งจะออกมามีเรื่อง คงไม่ต้องขายพระชายาให้กับนางจริงๆหรอกมั้ง? ซื่อจื่ออ๋องคงไม่มีทางแต่งสาวรับใช้มาเป็นซื่อจื่อเฟยหรอก

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเยาะเย้ยถากถางว่า “อย่ามาพูดเป็นเล่นหน่อยเลย คุณหนูเสียดายเงินที่ต้องจ่าย ส่วนสาวรับใช้คนหนึ่งก็ออกมาแสดงตัวเป็นคนรวย ห้าร้อยตำลึง เจ้าจ่ายไหวหรือเปล่าล่ะ?”

ลี่ว์อู๋ลูบตัว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินเลย บนตัวไม่มีแม้แต่เครื่องประดับที่เหมาะสมเลยสักชิ้น “ข้าบอกแล้วไงว่าซื้อ เงินนี้จะไม่ขาดแม้แต่สตางค์แดงเดียว ก็แค่ห้าร้อยตำลึง ยังไม่อยู่ในสายตาข้าเลย”

“พูดจาโอ้อวดไม่ประเมินตัวเองเลยนะ!” พี่น้องศาลาการทุ่มเทแสดงเป็นอย่างมาก ก้าวไปข้างหน้าแล้วลากเหลิ่งชิงฮวน “ไปกับพวกข้า! วันนี้เจ้าต้องเชื่อฟัง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!”

ครั้งนี้เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน ไม่ขอร้องอ้อนวอนอย่างโอดครวญ รีบแอบชิ่งหนีไปคือทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นคงจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา