ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 164

แม่นมเหลียงมีสีหน้าไม่ค่อยดีเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะนางหลอกง่าย แต่เป็นเพราะคนโบราณเมื่อพูดถึงเรื่องตุ่มบนร่างกายก็จะมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป หากตัวเองเกิดติดเชื้อขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าชีวิตแก่ๆนี้จะรักษาเอาไว้ได้ แต่จะกลับวังไปทำงานได้ต่ออีกไหมก็เป็นอีกเรื่อง อีกทั้งตลอดวันต้องกินซุปหวงเหลียนถึงสามครา ดื่มไม่ตายแต่จะขมตายเสียก่อน

แต่มีคำสั่งมาจากเบื้องบน ตัวเองก็ไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งกลับวังไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

เหลิ่งชิงฮวนหันหน้ามา และไอใส่แม่นมเหลียงอีกหลายครั้ง “เรื่องนี้อย่าได้ทูลให้พระสนมฮุ่ยเฟยรับทราบเป็นอันขาด เกรงว่านางจะกังวลใจอีก”

ถ้าไม่พูดถึงก็ยังดี แต่เมื่อเอ่ยพูดออกมาแบบนี้แม่นมเหลียงก็มีข้ออ้างที่จะรีบกลับวังทันที

“ตอนนี้จิ่นอวี๋จวิ้นจู่กำลังพักฟื้นอยู่กับพระสนมฮุ่ยเฟย ดังนั้นไม่รู้ว่าได้นำโรคตามฤดูกาลโรคนี้กลับเข้าวังมาด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ บ่าวรู้สึกว่าจำเป็นต้องกลับไปที่วังรอบหนึ่งก่อน เพื่อแจ้งเตือนจิ่นอวี๋จวิ้นจู่ให้เข้าเฝ้าพระสนมฮุ่ยเฟยให้น้อยลงหน่อย”

“ไม่ได้เป็นอันขาดเชียวนะ” เหลิ่งชิงฮวนทำท่าทางจริงจัง “ขณะนี้อาการของท่านอ๋องกำลังดีขึ้น หากพระสนมฮุ่ยเฟยรู้เข้า ยกขบวนมาเยี่ยมด้วยตัวเองโดยไม่สนอะไร ติดเชื้อไปด้วยจะทำอย่างไร?”

หัวใจของแม่นมเหลียงเต้นรัวตุบตับ “หากพระสนมฮุ่ยเฟ่ยทรงถามถึงอาการป่วยของท่านอ๋อง บ่าวไม่มีทางกราบทูลอะไรให้มากความเจ้าค่ะ”

“แต่หากพระสนมฮุ่ยเฟยเอ่ยถามเรื่องที่ว่าเพราะอะไรท่านถึงกลับวังมา...”

“พระชายาดูแลท่านอ๋องตลอดเวลาไม่ห่างกาย จนร่างกายไร้เรี่ยวแรง ล้มป่วยต้องพักรักษาอยู่บนเตียง ไม่เหมาะที่จะเรียนรู้กฎเกณฑ์ชั่วคราว บ่าวค่อยกลับมาอีกครั้งในอีกกี่วันให้หลัง”

ได้ยินแบบนี้เหลิ่งชิงฮวนจึงได้ฝืนพยักหน้าตอบรับ “เห็นว่าคงจะมีเพียงต้องทำแบบนี้แล้ว”

แม่นมเหลียงแทบอดทนรอไม่ไหวที่จะออกจากจวนอ๋องฉีไปโดยเร็วไว

มู่หรงฉีเห็นนางพูดจาเรื่อยเปื่อยไปสองสามประโยคก็สามารถไล่แม่นมเหลียงกลับไปได้ จึงพูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็นความสามารถของเจ้าในการหลอกล่อคนอื่นกับตาเสียที แต่ว่าหนีพ้นวันพระ ก็หนีไม่พ้นวันเพ็ญหรอกน่ะ เป็นแค่แผนถ่วงเวลาเท่านั้น”

เหลิ่งชิงฮวนฮึกฮักเสียงเบา “แผนถ่วงเวลาแล้วอย่างไร? เร็วๆนี้ข้าก็จะย้ายออกจากจวนอ๋องฉีแล้ว ใครจะอยู่กับท่านจนถึงวันเพ็ญนี้กันเล่า?”

มู่หรงฉีลูบจมูกไปมา รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ในช่วงตอนบ่าย มู่หรงฉีถูกไล่ออกจากห้องไปอย่างไม่มีเยื่อใยสักนิด

เหลิ่งชิงฮวนกลับไปที่จวนมหาเสนาบดีด้วยตนเองหนึ่งรอบ แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเจอกับความว่างเปล่าเสียได้ เหลิ่งเซียงกับเหลิ่งชิงเฮ่อล้วนไม่อยู่จวนสักคน เห็นเพียงแค่เซวียอี้เหนียงกับเหลิ่งชิงเหยาเท่านั้น แต่มีคำพูดบางคำยากที่จะเอ่ยออกมาได้ จึงทิ้งคำพูดเอาไว้เพียงว่าหากเหลิ่งชิงเฮ่อพอมีเวลาว่าง ให้ไปหาที่จวนอ๋องฉีสักครั้ง

พอกลับมาถึงจวนอ๋องฉี เหงื่อไหลออกมาทั่วร่างกายเพราะความร้อนอบอ้าวในรถม้า จึงรีบสั่งแม่หวังกับโตวโตวให้เตรียมน้ำให้อาบทันที

น้ำร้อนเป็นแบบต้องผสมทำขึ้นเอง ทั้งสองคนจึงช่วยกันขนย้ายถังอาบน้ำเข้าไปในห้อง ผสมน้ำให้อุณภมิพอดี แล้วก็ถอยออกไปอย่างรู้งาน โตวโตวค่อยเฝ้าอยู่หน้าประตูเรือน

เหลิ่งชิงฮวนอดทนรอไม่ไหวจึงรีบถอดเข็มขัดออกทันที นางถอดเสื้อคลุมตัวยาวตัวนอกออกแล้ววางพาดไว้บนฉากกั้น

จากนั้นก็หันไปทางด้านหลังฉากกั้น เพื่อถอดเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆชิ้นน้อยออก และก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำ หรี่ดวงตาปิดลงอย่างสบายใจ ทันใดนั้นรูขุมขนทั่วทั้งร่างกายก็เปิดกว้างขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตัวอย่างมากและมีอาการง่วงเล็กน้อย

ภายในห้องที่เงียบสงบมาก เงียบเสียจนหากมีเข็มตกสู่พื้นก็ไม่ได้ยิน ภายในเรือนโตวโตวกับแม่นมเตียวคุยกันอย่างเงียบๆ

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างเป็นส่วนเกินในห้องอย่างอธิบายออกมาไม่ถูก เหมือนมีกลิ่นอายของมนุษย์ กลิ่นอายบนร่างกายคนแปลกหน้า

เธอค่อยๆยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย นอกฉากกั้นเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมที่แปลกตากำลังเคลื่อนไหวผ่านไป

มีคนอยู่จริงๆด้วย!

ประตูก็ปิดแน่นสนิท เกรงว่าน่าจะแอบเข้ามาในห้องอยู่นานแล้ว เป็นการแอบวางแผนลอบทำร้ายหรือลักทรัพย์กันแน่ ตัวเองก็กลับมาอย่างกะทันหัน จึงทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว และหนีออกไปไม่ได้แน่เลย ดังนั้นจึงหลบซ่อนอยู่ที่มุมห้องที่ลับตาแห่งหนึ่ง ต้องการฉวยโอกาสตอนที่ตัวเองอาบน้ำหลบหนีไปสินะ!

ต้องขอบคุณที่มีฉากกั้นอันนี้ช่วยบังเอาไว้ มิเช่นนั้นตัวเองคงถูกเห็นจนหมดไปแล้ว? นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!

เหลิ่งชิงฮวนยกมือขึ้นมาอย่างไม่ลังเล ฟืด เสียงกดสเปรย์ในมือดังขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา