ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 197

เหลิ่งชิงฮวนนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง “ เจ้ารู้ว่าผู้เฒ่าหลู่นั้นไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป เพราะฉะนั้นทุกที่ในวังใต้ดินจึงมีการติดตั้งกลไกขึ้น เวลาที่มีคนบุกรุกเข้ามา ก็จะมีเสียงระฆังดังขึ้น จากนั้น”

เธอเงยหน้าชี้ขึ้นไปที่เหนือหัว ด้านบนฝังด้วยกระจกแก้วเหมือนกันหลายใบ เพื่อสะท้อนแสงจากไข่มุกยามค่ําคืนภายในห้อง ส่องสว่างภายในห้องราวกับแสงพระจันทรา ทั้งนุ่มนวลและสว่างไสว

“กระจกพวกนี้ ดูเหมือนใช้เพื่อให้ความสว่าง แต่ความจริงแล้ว กลับใช้หลักการหันเหของแสง ส่องไปที่กระจกบนโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้า เจ้านั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก็สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของทางเข้าได้”

ชายหนุ่มรูปงามประหลาดใจมากขึ้น แม้แต่ปากก็ค่อยๆเผยอออก “เจ้าเข้าใจพวกเทคนิกกลไกเหล่านี้ด้วยเหรอ?”

แน่นอนว่าไม่เข้าใจ ทว่าหลักการของกระจกดําน้ําเป็นหลักที่ง่ายที่สุดที่เคยเรียนในตําราฟิสิกส์ตอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

เหลิ่งชิงฮวนแกล้งทำเป็นเดาไม่ถูก “รู้เพียงเล็กน้อยน่ะ”

“งั้นเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้านั้นแกล้งเล่นละครให้เขาดู?”

“เขามาหาเจ้า ก็เพื่อที่จะทดสอบ ข้อแรกคือได้ยินว่าเจ้าถูกมู่หรงฉีทำร้ายจนบาดเจ็บ เขาจงใจทดสอบอาการบาดเจ็บของเจ้าผ่านการเคาะไม้เท้า ข้อสองลองหยั่งเชิงพิธีล้างกระบี่ในอีกสิบวันข้างหน้า ว่าเจ้าปกปิดวิธีฆ่าอะไรไว้ มั่นใจหรือไม่”

ชายหนุ่มรูปงามกระพริบตา “งั้นข้าจะรับมืออย่างสุขุมอย่างไรดี?”

เหลิ่งชิงฮวนกลับสนใจอีกคำถามหนึ่ง “เจ้าฆ่าหญิงงามที่ผู้เฒ่าคนนั้นมอบให้เจ้าหมดทุกคนเลยจริงเหรอ?”

เหลิ่งชิงฮวนทำเสียงฟึดฟัด “ไม่เช่นนั้นล่ะ? รอให้พวกนางคาบข่าวไปบอกหรือไง?”

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิด “จริงๆแล้วพวกนางก็ควรที่จะฟังคำสั่งด้วยนะ”

ชายหนุ่มรูปงามยื่นมือมา เชยปลายคางของเธออย่างแผ่วเบา “อย่าได้เอามาตรฐานของคนดีมาวัดตัวข้า ข้าฆ่าคนมากมายนับไม่ถ้วน ชีวิตผู้บริสุทธิ์ตั้งมากมายไม่รู้เท่าไหร่ กะแค่สาวงามไม่กี่สิบคน ในสายตาของข้า ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกมดหรอกนะ”

“นายน้อยแห่งหอกระบี่ ไม่เพียงแต่มีเงินมากก็มีอิทธิพลมาก อีกทั้งยังไม่ยำเกรงต่อสิ่งใดอีก”

ชายหนุ่มรูปงามไม่แปลกใจที่นางสามารถทายตัวตนของตนเองได้ “เจ้ายังรู้อะไรอีก?”

“ข้ายังเดาอยู่ว่า สถานะที่ท่านตกอยู่ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ตัวเจ้าเองยังเอาไม่รอด ทำไมถึงยังมีเวลาว่างไปต่อกรกับมู่หรงฉีอีก เสี่ยงพาตัวข้ามาเป็นเชลย”

ชายหนุ่มรูปงามสลัดรองเท้าทิ้ง ขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียงข้างๆเธอ และหันหน้าเข้าหาเธอ

“ในเมื่อเจ้าฉลาดอย่างนี้ ข้าตัดสินใจแล้วว่า จะให้เจ้ามีชีวิตยืนยาวกว่าพวกนาง”

เหลิ่งชิงฮวนเบ้ปาก “ก็ไม่เคยเห็นคนเช่นเจ้ามาก่อน ขอร้องคนแล้วมาฉุดกระชากกันแบบนี้ แม้แต่ตอนที่มู่หรงฉีมาขอร้องข้าให้ช่วยรักษายังนอบน้อมเลย”

ชายหนุ่มรูปงามเย้ยหยัน “ขอร้องเจ้า? เจ้าคิดเยอะเกินไปแล้ว อีกหน่อยคนที่ทนขอร้องไม่ไหว น่าจะเป็นเจ้ามากกว่านะ”

“งั้นเหรอ?” เหลิ่งชิงฮวนยิ้มยียวน เดินไปข้างหน้าเขา ยื่นมือไปเชยคางของเขา “หรือจะลอง?”

ชายหนุ่มรูปงามมองเธอด้วยหางตา “เมื่อครู่ใครกันที่กลัวจนร้องอย่างน่าเวทนา? กล้ากลับมาเล่นกับไฟงั้นเหรอ?”

“ข้าก็แค่ไม่ชอบให้คนอื่นมาใช้กำลังก็เท่านั้น อ่อนโยนหน่อยสิ ข้ารับได้”

ชายหนุ่มรูปงามหรี่นัยต์ตาคู่งามทันที จ้องไปที่ดวงตาของเธอ ปล่อยพลังที่หนาวเหน็บจนเข้ากระดูกออกมา

“นี่เจ้ากำลังรนหาที่ตายอยู่นะ!”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ “เหอะเหอะ” อย่างมั่นใจ “เจ้าจะปล่อยให้ข้าตายงั้นเหรอ? ใช้ความพยายามตั้งมาก อีกทั้งยังยั่วยุมู่หรงฉี ทำลายกองทหารเพราะเรื่องนี้ ถูกคนในหอวิพากษ์วิจารณ์ ข้ายังไม่มีเสน่ห์แบบนี้ นับประสาอะไรกับเจ้าคนที่ไม่รักหยกถนอมบุปผากันล่ะ”

ชายหนุ่มรูปงามถอนหายใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะมู่หรงฉีตามล่าฆ่าขนาดนี้ ก็จนปัญญา ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่ควรท่ีจะมาเจ้ามาที่นี้ เพื่อให้เจ้ารู้เรื่องมากมายเช่นนี้ หากไม่ฆ่าปิดปากเจ้า ข้าก็คงรู้สึกผิดต่อตัวเอง”

“วางใจเถอะ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก ล้มเลิกความคิดนี้เสียตั้งแต่เนิ่น มาคุยเรื่องวิธีร่วมมือกันดีกว่า”

“อวดดีไม่เป็นโล้เป็นพายเช่นนี้ เจ้ากับมู่หรงฉีไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่พวกเดียวกัน หรือเจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ใจตอนนี้ของตัวเองเหรอ?”

เหลิ่งชิงฮวนใช้นิ้วพันกระโปรง พูดอย่างสบายๆ “ในฐานะหมอ ช่วยคนได้ก็สามารถฆ่าคนได้เหมือนกัน หากเจ้าอยากจะให้ข้าช่วย ก็ต้องมอบชีวิตน้อยๆไว้ในมือข้า แล้วข้า แน่นอนว่าจะต้องมีทางหนีทีไล่ไว้ให้กับตัวเอง”

ชายหนุ่มรูปงามมองเหลิ่งชิงฮวนอยู่พักใหญ่ จึงเอ่ยปากขึ้น “ก็ได้ ข้าชื่อโฉวซือเส่า เจ้าเรียกข้าว่าซือเส่าก็ได้ หรือจะเรียกนายน้อยโฉวก็ได้”

ตั้งชื่อนี้มา ฟังแล้วก็คือทายาทเศรษฐี

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่กอดเข่าฟังเขาพูดต่อ

“ข้าเป็นคนสองเพศ เกิดมาก็เป็นคนสองเพศครึ่งชายครึ่งหญิง”

ตัวเองเดาถูกจริงๆด้วย

“ครั้งนั้นที่ไปหอฝูเซิง ก็เพราะข้าได้ยินมาว่าที่นั่นก็มีคนสองเพศเหมือนกับข้า ข้าสงสัยว่าเขานั้นมีโครงร่างเหมือนข้าหรือไม่ สุดท้ายก็มาเจอกับเจ้า เจ้าบอกว่าคนสองเพศสามารถที่จะเปลี่ยนเพศสภาพได้”

“ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ดูเหมือนแม้ข้าจะไม่สามารถรักษาได้ก็จำต้องบอกว่าได้สินะ”

“ใช่ หากเจ้าไม่สามารถรักษาได้ ข้าก็จะฆ่าเจ้าทันที อย่างไรเสียมู่หรงฉีก็หาเจ้าไม่เจออยู่แล้ว”

ตอนนั้นเองเหลิ่งชิงฮวนรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย เสียใจที่ตัวเองพูดคุยโม้แบบนั้น เคราะห์ร้ายเพราะปากไม่ดีจริงๆเลย แล้วเมื่อหลายวันก่อนเห็นมู่หรงฉีได้รับบาดเจ็บ ก็โกรธอยู่พักหนึ่ง แล้วบอกลาชายหนุ่มรูปงามคนนี้ จะต้องตัดขาที่สามของเขาให้ได้เลย

ดูเหมือน สวรรค์จะได้ยินเสียงจากใจของเธอ วันนี้ฝันกลายเป็นจริงแล้ว เขามาขอร้องให้ทำลายทิ้งแล้ว?

“คนสองเพศนั้นเป็นความผิดปกติแต่กําเนิด ไม่มียารักษา การรักษาที่ข้าพูดถึงนั้นเป็นเพียงแค่การผ่าตัดเปลี่ยนโครงสร้างร่างภายนอกเท่านั้น”

“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”

“ต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเจ้าด้วย สาวประเภทสองนั้นก็แบ่งออกได้หลายประเภท เจ้าเอนเอียงไปทางเพศไหนมากที่สุด สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ เหมาะสมกับการผ่าตัดแบบไหน หากข้ายังไม่ได้ตรวจก็ไม่สามารถที่จะสรุปแน่ชัดได้”

โฉวซือเส่าได้ยินเธอพูดแบบนั้น สีหน้าดีใจขึ้นมาทันที มีความหวังขึ้นมาแล้ว

“ผู้ชาย เปลี่ยนเป็นผู้ชาย!”

“เจ้าชอบพอผู้หญิงเหรอ?”

โฉวซือเส่าส่ายหน้า “ชายหรือหญิงก็ไม่สนใจทั้งนั้น”

“งั้นเจ้าทำไมถึงตัดสินใจที่จะแปลงเป็นผู้ชายล่ะ? มันต้องดูที่โครโมโซมของร่างกายเจ้าด้วย ต้องรอตรวจโครโมโซมก่อน ถึงจะสามารถสรุปได้”

“ข้ามี...อวัยวะเพศชาย”

“อะไรนะ?”

โฉวซือเส่าก้มหน้ามองไปทางอื่น ให้เธอใช้สายตาทำความเข้าใจตนเอง

“มันสามารถแข็งได้ปกติไหม?”

โฉวซือเส่าอัดอั้นจนหน้าแดงคอแดง

“นั่นทำไม่ได้แล้ว เหมือนกับขันที เป็นเพียงของประดับตกแต่ง ที่สามารถค่อยๆหดเล็กลง จนท้ายที่สุดหดเหลือเท่าเมล็ดถั่ว”

“มันเป็นเรื่องจริงด้วย!”

เหลิ่งชิงฮวนเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม ไม่น่าสนใจ

โฉวซือเส่าทนทุกข์กับความอัปยศอดสู มองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น “ต้องให้เจ้าดูด้วยหรือไม่?”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้าอย่างจริงจัง

โฉวซือเส่ากลับร้อนรน “เจ้ายังมีความเป็นสตรีอยู่บ้างไหมนะ?”

เหลิ่งชิงฮวนประหลาดใจจริงๆ ทำไมทุกคนถึงได้สงสัยเพศสภาพของเธอ? ท้องตัวเองก็ใหญ่ขนาดนี้ มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?

“ข้าจะเป็นหรือไม่เป็นผู้หญิง เมื่อกี้ตอนที่เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าก็เห็นหมดแล้วไม่ใช่หรือไง?”

“ใครเปลี่ยนให้เจ้ากันล่ะ? ข้าให้บ่าวรับใช้เปลี่ยนชุดให้เจ้า ฝันไปเถอะ แม่เฒ่าเปลี่ยนให้ต่างหากล่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนเบะปาก “เจ้าไม่ได้สนใจข้า ก็เช่นกัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะดูของเจ้า แต่ว่า ในวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องเชื่อฟังถอดเสื้อผ้าขอให้ข้าตรวจอยู่ดี ยังพูดอีกว่าตัวเองเป็นผู้ชาย ใจแคบชะมัด”

ยัยแก่อะไรเนี่ยไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน?

โฉวซือเส่าได้ยินดังนั้น หน้าก็เขียวปั๊ดแล้ว “ต้องถอดให้หมดเลย?”

“ไม่เหลือเลยสักเศษเสี้ยวเดียว”

โฉวซือเส่าก้มหน้าลงอย่างไม่สงบนิ่งแล้ว

ไม่ใช่แค่ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน นั่นคือการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวที่น่าเกลียดที่สุดของเขาต่อหน้าคนอื่น ความอัปยศอดสูเช่นนี้เขาไม่สามารถยอมรับได้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา