ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 211

“นางเป็นแม่นางจากตระกูลไหนหรือ?” มู่หรงเฮ่าถามด้วยความอดกลั้น

“ยังมีตระกูลไหนได้อีกเล่า? นอกจากจวนมหาเสนาบดีเหลิ่ง ยังมีตระกูลไหนอีกที่สามารถอบรมสั่งสอนลูกสาวให้ออกมามีทักษะเช่นนี้ได้?”

ราชบุตรเขยคนใหม่สร่างเมาเรียบร้อยแล้ว แววตาที่มองไปยังหรูอี้ส่องประกายขึ้นมา แต่คนที่ตกใจอย่างมากกลับเป็นมู่หรงเฮ่าเสียเอง “น้องสาวของน้องสะใภ้ของน้องสามงั้นหรือ?”

เหลิ่งชิงเหยาร้องไห้จนเสียงสั่น “หม่อมฉันต้องการหาพี่ใหญ่ของหม่อมฉัน ให้นางช่วยจัดการเรื่องนี้”

อันที่จริงไม่ต้องส่งคนไปเชิญก็ได้ เพราะเรื่องโกลาหลใหญ่โตถึงขนาดนี้ได้มีบ่าวไพร่รีบไปที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดกับจินฮูหยินและจินซ่างซูตั้งนานแล้ว

จินฮูหยินตกใจอย่างมากที่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในวันมงคล และเรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย ไม่อาจละเลยได้ หากดูแลไม่ทั่วถึง ก็สามารถสร้างหายนะมาเยือนได้ หลังจากได้พูดคุยหารือกับจินซ่างซูแล้ว พวกเขาจึงส่งคนไปแจ้งเหลิ่งชิงฮวนกับพระชายาเฮ่าอย่างเงียบๆ

ที่นั่งของพระชายาทั้งหลายอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก เมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และรีบลุกออกไปยังเรือนด้านหลังอย่างรีบร้อน ยังคิดอยู่เลยว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับหรูอี้เป็นแน่ ต่างพากันสบตากันไปมา จากนั้นบรรดาพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้อีกหลายคนก็พากันตามไปด้วย

ในเรือนด้านหลังกำลังวุ่นวายอลหม่านกันอย่างหนัก หรูอี้ทำราวกับว่าจะเอาไฟโกรธและความคับข้องใจทั้งหมดที่มีในวันนี้ระเบิดใส่ร่างเหลิ่งชิงเหยา พูดไม่ลงรอยกันก็ก้าวเข้าไปฉุดกระชากทุบตี ทำให้เหลิ่งชิงเหยาผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพดูเวทนาอย่างมาก

คุณชายสามตระกูลจินไม่กล้าเข้าไปห้าม อ๋องเฮ่าก็ทั้งอายทั้งโกรธ รู้สึกว่าตัวเองหลงกลแผนการของเหลิ่งชิงเหยาเข้าแล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ได้ยืนเฉยๆ แต่ก็ทำเพียงวางท่าทีเท่านั้น ทำให้เหลิ่งชิงเหยาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ไม่น้อย

เมื่อเหลิ่งชิงฮวนมาถึง หรูอี้กำลังคว้าคอเสื้อของเหลิ่งชิงเหยากฉุดกระชากทุบตีอยู่พอดี เหลิ่งชิงเหยาไม่มีที่ให้หลบ จึงยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อป้องกันใบหน้าเอาไว้ ที่คอถูกจับจนมีรอยขีดข่วนและมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว

“หยุดมือเดี๋ยวนี้!” เหลิ่งชิงฮวนตะคอกเสียงดัง

หรูอี้ทำเป็นหูทวนลม ตบตีไปพลางเอ่ยด่าไปพลาง “ข้าจะตีเจ้าให้ตายนางจิ้งจอก รู้อยู่แล้วว่าลูกสาวตระกูลเหลิ่งไม่มีดีอะไรสักคน ทั้งสองคนล่อลวงพี่สามของข้าไปแล้วก็แล้วไปเถอะ เจ้ายังกล้ามาล่อลวงพี่รองของข้า แต่ละคนแต่งงานออกไปไม่ได้หรืออย่างไร? ถึงได้มาตามจับผู้ชายเช่นนี้”

คำด่าเช่นนี้ค่อนข้างแรงเกินไป เป็นการไม่ไว้หน้าเหลิ่งเซียอย่างยิ่ง

มู่หรงเฮ่าเอ่ยพูดให้หยุดมืออย่างไม่พอใจ “พอได้แล้วหรูอี้ หยุดอาละวาดได้แล้ว!”

หรูอี้เป็นเหมือนคนบ้า ไหนเลยจะหลงเหลือท่าทางและกิริยาที่องค์หญิงพึงมีได้อีก ไม่ต่างอะไรกับแม่หญิงปากตลาดที่อาละวาดอยู่ข้างถนน

เหลิ่งชิงฮวนก้าวเดินไปข้างหน้า คว้าข้อมือของหรูอี้เอาไว้ และตะคอกด้วยความโกรธ “หม่อมฉันบอกให้พระองค์หยุดมือไงเพคะ พระองค์ฟังไม่ได้ยินหรืออย่างไร?”

“เจ้าบังอาจตะคอกใส่ข้างั้นหรือ เจ้าคิดว่าเป็นใครห๊ะ?”

หรูอี้กำลังระเบิดอารมณ์อยู่จึงโจมตีใส่นางอย่างไม่มีเหตุผล เพียงเพราะได้ยินนางทำท่าทางวางอำนาจ จึงปล่อยเหลิ่งชิงเหยาผู้ไร้เดียงสาลงและกระโจนเข้าใส่เหลิ่งชิงฮวนแทน

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าแม่นางคนนี้ไม่ใช่แค่น่ารำคาญธรรมดา พวกดื้อรั้นก้าวร้าวเจอมาเยอะแล้ว แต่ก็ควรจะรู้จักมีเหตุผลบ้างสิ นี่มันวันงานมงคลของตัวเองแท้ๆ ยังจะเอะอะอาละวาดไปทำไมกัน?

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ตอบโต้กับอย่างไม่ออมมือเช่นกัน เมื่อจับข้อมือได้ ก็เอาแขนของหรูอี้พลิกไปล็อกเอาไว้ที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้หรูอี้เจ็บปวดจนต้องโกงเอว ร้อง “โอ๊ย” ออกมา

“หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้สามของท่าน ฐานะนี้เพียงพอที่จะสั่งสอนท่านได้หรือไม่?”

หรูอี้ถูกล็อกตัวเอาไว้ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้กลับ แต่ปากของนางยังคงปากเก่งไม่ยอม “น้องสาวของเจ้าล่อลวงพี่รองของข้า นางหน้าไม่อาย เจ้ายังจะปกป้องนางอยู่อีกหรือ!”

พระชายาเฮ่าได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าก็เปลี่ยนไปซีดเซียวไม่มีเลือดฝาดขึ้นมาชั่วขณะ พระนางมองไปที่อ๋องเฮ่าพร้อมกับเซถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่เชื่อ แต่พระชายารุ่ยได้ช่วยประคองตัวเอาไว้ได้ทัน

“ข้าเปล่านะ!” เมื่อเหลิ่งชิงเหยาหันไปเห็นเหลิ่งชิงฮวน ทันใดนั้นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ และโผล่เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของนางในทันที “เมื่อครู่นี้องค์หญิงหรูอี้ให้ข้าดื่มเหล้าเป็นเพื่อนนาง ดื่มติดต่อกันไปหลายแก้วจนข้ารู้สึกมึนหัวและตาลาย ร่างกายร้อนอึดอัด จำได้รางๆเพียงว่าองค์หญิงหรูอี้ให้สาวใช้ช่วยพยุงข้ามาที่นี่เพื่อรอให้สร่างเมา หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นข้าก็ไม่รู้แล้ว”

“ดื่มเหล้า?” เหลิ่งชิงฮวนได้กลิ่นเหล้าที่ลอยออกมาจากลมหายใจของนาง จึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยและหันหน้าไปสอบถามหรูอี้ “ท่านให้น้องสาวของหม่อมฉันดื่มเหล้าอะไรไป?”

“ไม่รู้!”

“ไม่รู้หรือ?” ในใจของเหลิ่งชิงฮวนมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ จึงเพิ่มแรงบิดอีกนิด “จะพูดหรือไม่?”

หรูอี้ร้องครวญครางเสียงดัง “พี่สะใภ้ใหญ่ ช่วยข้าด้วย!”

พระชายาเซวียนก้าวเข้ามาและพูดอย่างไม่พอใจ “พระชายาฉี ท่านจะปกป้องน้องสาวของตัวเองข้าเองก็ไม่อยากที่จะสนใจ แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีคำว่าเหตุผลไปได้ เจ้าไม่ควรปฏิบัติกับหรูอี้อย่างโหดร้ายเช่นนี้ได้”

เหลิ่งชิงฮวนปล่อยมือที่ล็อกหรูอี้เอาไว้ หรูอี้ถูกทำให้เจ็บปวด จึงไม่กล้าหาเรื่องทำอะไรบุ่มบ่ามอีก แต่ก็ยังไม่วายที่จะยุแยงพระชายาเฮ่า “นางอาศัยว่าดื่มเหล้าเมาเลยทำเป็นแกล้งบ้า ตั้งใจล่อลวงเสด็จพี่รองของข้า”

พระชายาเฮ่ามีนิสัยอ่อนโยน สุขุมสง่างาม จึงไม่อาจทำเหมือนนางที่ร้องไห้เอะอะโวยวายเสียงดังได้ ทำได้เพียงมองไปยังอ๋องเฮ่าแล้วกัดริมฝีปากล่างแน่น ขอบตาแดงก่ำ

อ๋องเฮ่ารีบเอ่ยอธิบายอีกครั้งอย่างร้อนรน “ข้าแค่อยากจะช่วยพยุงคุณชายจินกลับมาเท่านั้น และกำลังรออยู่ที่ลานด้านนอกเรือน แต่เมื่อได้ยินคนในห้องนี้ร้องอุทานอย่างตกใจ และประตูห้องยังถูกเปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งจึงเห็นว่าคนข้างในสวมชุดสีแดงทั้งชุด ข้าเลยคิดว่าเป็นหรูอี้ที่ตกใจอะไรเข้า จึงได้ถือวิสาสะบุกเข้ามา

หลังจากเข้ามาในห้องก็เห็นตัวต่อเกาะอยู่บนตัวนางหนึ่งตัว นางกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ด้วยความหวังดีจึงเข้าไปช่วยไล่ ใครจะรู้ว่านางกำลังเมาเหล้าจนสติสัมปชัญญะไม่มี หรือบางทีอาจถูกทำให้ขวัญเสียจริงๆถึงได้กระโจนเข้ามาในอ้อมแขนของข้า จากนั้นคุณชายจินก็เข้ามาเห็นพอดี พวกเราล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

เรื่องราวความเป็นมาของเรื่องนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งขึ้นแล้ว น่าจะเป็นเพราะคุณหนูสามตระกูลเหลิ่งผู้นี้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อีกทั้งยังเมาเหล้าอยู่ด้วย จึงกระทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกมาจนเกิดเรื่องเข้าใจผิดเช่นนี้ขึ้น

“เมาเหล้าอะไรกัน? เห็นชัดๆว่านางจงใจ พี่สาวคนโตของนางไม่รู้จักเก็บเนื้อเก็บตัว แอบไปมีความสัมพันธ์ลับกับเสด็จพี่สามของข้าจนตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน และยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไปคลุกคลีอยู่กับพวกโจรตั้งหลายวัน สร้างความวุ่นวายไปทั่วทั้งเมือง

พี่สาวคนรองก็จงใจตกน้ำ เปิดเนื้อหนังมังสาล่อลวงเสด็จพี่สามของข้า จนได้ตำแหน่งพระชายารองมาครอบครอง สะบัดยังไงก็สะบัดไม่หลุด

เป็นน้องสาวแน่นอนว่าย่อมเดินตามรอยอยู่แล้วไม่มีทางดีไปกว่ากันได้ ช่างไร้ยางอายจริงๆ ทำเพื่อที่จะแต่งเข้าเป็นเชื้อพระวงศ์ แม้แต่ชื่อเสียงก็ไม่สนใจเสียแล้ว จวนมหาเสนาบดีของเจ้าช่างอบรมสั่งสอนออกมาได้ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เมื่อข่าวลือถูกระเบิดออกมา ทุกคนต่างนึกถึงงานเลี้ยงในพระราชวังครั้งที่แล้ว เรื่องที่เหลิ่งชิงฮวนตั้งครรภ์แต่ไม่กล้าที่จะเปิดเผยออกมา ความลับที่ถูกเก็บซ่อนไว้กลับถูกหรูอี้เปิดเผยออกมาจนหมด ที่แท้ก็สูญเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงานนั้นเอง ทำไมถึงได้ไม่รักนวลสงวนตัวเช่นนี้ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมา เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ล้วนมีสีหน้าดูถูกและเหยียดหยามขึ้นมาพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย

พระชายารุ่ยไม่แม้แต่จะปิดบังความรังเกียจของตัวเองที่มีต่อเหลิ่งชิงฮวนแต่อย่างใด พูดอย่างเหยียดหยามออกมาอย่างรุนแรง “ช่างทำให้เชื้อพระวงศ์ของข้าขายหน้ายิ่งนัก ตระกูลไม่ได้เรื่อง! การอบรมสั่งสอนจึงไม่เข้มงวด พี่สะใภ้รองอย่าได้เอามาใส่ใจเลยนะ ก็คิดเสียว่าพี่รองถูกแมลงหวี่แมลงวันตอมก็แล้วกัน นางมาถวายตัวถึงหน้าประตูขนาดนี้ ไล่ยังไงก็ไม่ไปหรอก”

คนอื่นๆยังไม่กล้าออกตัวแรง และไม่กล้าเอ่ยพูดอะไรออกมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนัก

อยู่ ๆสองพี่น้องก็กลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนไปเสียได้ สายตาของทุกคนเหมือนดั่งคมดาบกวาดตามามองพวกนางทั้งสองคน

เหลิ่งชิงเหยาร้องไห้อย่างกระวนกระวาย “ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้ทำอย่างนั้น ข้าบอกไปแล้วว่าข้าดื่มเหล้าไม่แข็ง แต่ว่าองค์หญิงหรูอี้ก็พูดตื๊อไม่ยอมแพ้ ขอให้ข้าดื่มเป็นเพื่อนนาง”

เหลิ่งชิงฮวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ได้ ในเมื่อองค์หญิงหรูอี้พูดมาเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกันดูดีไหม ข้อแรกท่านให้น้องสาวของหม่อมฉันดื่มเหล้าอะไรไป? กล้าทำก็ต้องกล้าที่จะยอมรับออกมา อย่าได้ทำแบบขอไปทีกับข้าเด็ดขาด เห็นชัดๆว่าในกลิ่นเหล้านี้มีกลิ่นยาสมุนไพรบางอย่างอยู่อย่างชัดเจน”

“มีอะไรไม่กล้าพูดกัน ก็แค่เหล้ามงคลเข้าหอธรรมดาเท่านั้น”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา สายตาของคุณชายจินและจินฮูหยินก็เกิดล่อกแล่กขึ้นมา ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเสียเท่าไร

“หากข้าพูดไม่ผิด ในเหล้านี้ต้องมีอิ๋นหยางฮั่ว โร่วฉงหรง หยางฉี่สือ โต่วต๋ง และส่วนประกอบอื่นๆผสมอยู่ด้วย ทั้งหมดเป็นวัตถุดิบสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นฮอร์โมนทางเพศ ไม่ใช่น้ำเหล้าธรรมดาๆ”

เหลิ่งชิงฮวนพูดออกมาอย่างมั่นใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา