ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 232

เมื่อเดินมาถึงประตูห้อง เหลิ่งชิงฮวนก็หันกลับมาพูด “ที่แท้ก็อยากที่จะเชิญจิ่นอวี๋จวิ่นจู่มาชิมเต้าหู้เหม็นพระชายาที่ลื่อชื่อเลื่องลือใครจะรู้ว่าจะถูกท่านทำกระจายหมด ไว้วันหลัง หม่อมฉันจะซื้อมาเยอะกว่านี้

จิ่นอวี๋ได้กลิ่นเหม็นขยะแขยงของตัวเอง ก็นั่งร้องไห้โฮอยู่ที่พื้น คราวนี้หากยังไปมาหาสู่กับมู่หรงฉีอีก ก็คือการหยามเหยียดตัวเอง ได้แต่ให้ไต้มั่วพยุงตัวเองกลับห้องไป จากนั้นต้มน้ำ อาบน้ำ เอาเสื้อผ้าที่เปลี่ยนนั้นทิ้งไปให้หมด

มู่หรงฉียืนอยู่ด้านข้าง เพียแค่ยืนมองดูความสนุกเพียงเท่านั้น เขาเห็นว่าของอย่างหนึ่งย่อมพิชิตอีกอย่างหนึ่งได้เสมอ ตนเองวางแผนกลยุทธ์สนามรบ สามารถเอาชนะข้าศึกที่อยู่ห่างไกลออกไปนับพันลี้ ทว่าท่าทีไม่ยอมแพ้ของจิ่นอวี๋นั้นเหมือนอยู่ภายใต้แรงกดดัน พอตอนกลับมาถึงก็ยิ่งกังวล อยู่ร่วมชายคาเดียวกับจิ่นอวี๋ จะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ตนเองนั้นจะคิดมากเกินไปเสียแล้ว ภายภาคหน้าจิ่นอวี๋ยังคงอยู่ที่ตำหนักฉาวเทียน เกรงว่าจะขวัญหนีดีฝ่อ ไม่เกินสองวัน ก็จะยอมย้ายออกไปเอง

คิดไม่ถึงเลยว่า เหลิ่งชิงฮวนนั้นหลีกเลี่ยงความรุนแรง ขับไล่คนไม่ดี ไล่คนสนิทออกไป นางเป็นคนจริงถ้าใครไม่รุกรานฉัน ฉันก็ไม่รุกรานเธอ หากใครมายั่วยุนาง บทเรียนที่จะได้รับจะไม่ใช่แค่ความดุร้ายเท่านั้น

ทั้งลานบ้านมีกลิ่นเต้าหู้เหม็นคลุ้งตลบอบอวลไปหมด ท่านฉีอ๋องมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ภาพจำยังคงชัดเจน

เรือนจื่อเถิง

เหลิ่งชิงหลางพักอยู่ในวังหลวงมาสองวันแล้ว รู้สึกแทบจะเป็นบ้าแล้ว

อยู่ดีกินดีมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยต้องปรนนิบัติใครๆ ยิ่งไม่ต้องได้รับความเดือดร้อนอะไร แต่อยู่ต่อหน้าจิ่นอวี๋ ความทุกข์ทรมานทั้งสองสิ่งนี้ก็ประดังเข้ามาจนจะระเบิดแล้ว

เพื่อที่จะช่วยให้เธอสนับสนุน เหลิ่งชิงหลางจําเป็นต้องปรนนิบัติเธออย่างระมัดระวังและกระตือรือร้น เสิร์ฟชา ส่งน้ำ ป้อนข้าว แม้แต่พวกน้ำล้างเท้า ก็ต้องกัดฟันอดทนเอา

จิ่นอวี๋ตอนอยู่ต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟยดูท่าทางใจกว้าง ลับหลังกับพูดจาใจร้าย วางอํานาจบาตรใหญ่ จนแทบอยากจะฉีกเธอออกเป็นสองส่วนเพื่อระบายอารมณ์

เธอฝืนทนปวดเมื่อยไปทั้งตัว กัดฟันจนเลือดซิบ อีกทั้งยังหวาดกลัว

ถ้าหาก ตาของจิ่นอวี๋มองไม่เห็นจริงๆ หากมู่หรงฉีไม่แต่งนางเข้าจวน ตัวเองก็คงต้องถูกควักลูกตา แต่หากแต่งเข้ามา จิ่นอวี๋ก็จะเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับตนเอง ไม่เช่นนั้นตรเองต้องก้มหน้าปรนนิบัติเธอไปจนชั่วชีวิตเลยหรือ?

จุดจบทั้งสองอย่างนี้ ตนเองไม่ต้องการมัน เธอฝากฝังความหวังทั้งหมดไว้กับเหลิ่งชิงฮวน หวังว่านางจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม สามารถที่จะรักษาดวงตาทั้งสองข้างของจิ่นอวี๋ได้

เมื่อคิดแล้ว ก็เกิดความกังวลขึ้นสองประการ :

ประการแรก เพื่อที่จิ่นอวี๋จะแต่งเข้าจวนฉีอ๋อง แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะกลับมามองเห็นแล้ว แต่ก็ยังยืนกรานไม่ได้จะทำอย่างไร?

ประการสอง เหลิ่งชิงฮวนสามารถรักษาดวงตาของจิ่นอวี๋ได้ แต่หากไม่ยอมที่จะรักษา แบบนั้นตนเองและจิ่นอวี๋ก็จะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง นางกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้าน

ถึงอย่างนั้นตนเองตายแน่นอน

เธอยืนตัวสั่นหงึกๆ คิดฟุ้งซ่ายมากมาย อับจนหนทางอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้จะไปขอความเห็นจากใคร

จือชิวความคิดผิดแปลกเยอะแยะ เสียดายที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตนเองแล้ว กลัวว่าจะเป็นการซ้ำเติมอีก

แม่จ้าวหนักแน่น แต่เตือนตัวเองหลายครั้งก็ไม่ยอมฟัง ตอนนี้ขอให้เธอตัดสินใจ เธอกลัวว่าจะบ่นความโง่เขลาของตัวเอง

ตนเองเดินมาถึงทางตันได้อย่างไรกัน? ไม่มีแม้แต่คนอยู่เคียงข้างที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ในเวลานี้ เธอก็นึกถึงฟังผิ่นจือ

ผู้ชายคนนี้บางทีอาจจะไม่มีความรับผิดชอบและหน้าที่ แต่ เขามีความรู้มากมาย เผื่อจะมีข้อแนะนำอะไรให้ได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา