เมื่อเดินมาถึงประตูห้อง เหลิ่งชิงฮวนก็หันกลับมาพูด “ที่แท้ก็อยากที่จะเชิญจิ่นอวี๋จวิ่นจู่มาชิมเต้าหู้เหม็นพระชายาที่ลื่อชื่อเลื่องลือใครจะรู้ว่าจะถูกท่านทำกระจายหมด ไว้วันหลัง หม่อมฉันจะซื้อมาเยอะกว่านี้
จิ่นอวี๋ได้กลิ่นเหม็นขยะแขยงของตัวเอง ก็นั่งร้องไห้โฮอยู่ที่พื้น คราวนี้หากยังไปมาหาสู่กับมู่หรงฉีอีก ก็คือการหยามเหยียดตัวเอง ได้แต่ให้ไต้มั่วพยุงตัวเองกลับห้องไป จากนั้นต้มน้ำ อาบน้ำ เอาเสื้อผ้าที่เปลี่ยนนั้นทิ้งไปให้หมด
มู่หรงฉียืนอยู่ด้านข้าง เพียแค่ยืนมองดูความสนุกเพียงเท่านั้น เขาเห็นว่าของอย่างหนึ่งย่อมพิชิตอีกอย่างหนึ่งได้เสมอ ตนเองวางแผนกลยุทธ์สนามรบ สามารถเอาชนะข้าศึกที่อยู่ห่างไกลออกไปนับพันลี้ ทว่าท่าทีไม่ยอมแพ้ของจิ่นอวี๋นั้นเหมือนอยู่ภายใต้แรงกดดัน พอตอนกลับมาถึงก็ยิ่งกังวล อยู่ร่วมชายคาเดียวกับจิ่นอวี๋ จะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
ตอนนี้ดูเหมือนว่า ตนเองนั้นจะคิดมากเกินไปเสียแล้ว ภายภาคหน้าจิ่นอวี๋ยังคงอยู่ที่ตำหนักฉาวเทียน เกรงว่าจะขวัญหนีดีฝ่อ ไม่เกินสองวัน ก็จะยอมย้ายออกไปเอง
คิดไม่ถึงเลยว่า เหลิ่งชิงฮวนนั้นหลีกเลี่ยงความรุนแรง ขับไล่คนไม่ดี ไล่คนสนิทออกไป นางเป็นคนจริงถ้าใครไม่รุกรานฉัน ฉันก็ไม่รุกรานเธอ หากใครมายั่วยุนาง บทเรียนที่จะได้รับจะไม่ใช่แค่ความดุร้ายเท่านั้น
ทั้งลานบ้านมีกลิ่นเต้าหู้เหม็นคลุ้งตลบอบอวลไปหมด ท่านฉีอ๋องมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ภาพจำยังคงชัดเจน
เรือนจื่อเถิง
เหลิ่งชิงหลางพักอยู่ในวังหลวงมาสองวันแล้ว รู้สึกแทบจะเป็นบ้าแล้ว
อยู่ดีกินดีมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยต้องปรนนิบัติใครๆ ยิ่งไม่ต้องได้รับความเดือดร้อนอะไร แต่อยู่ต่อหน้าจิ่นอวี๋ ความทุกข์ทรมานทั้งสองสิ่งนี้ก็ประดังเข้ามาจนจะระเบิดแล้ว
เพื่อที่จะช่วยให้เธอสนับสนุน เหลิ่งชิงหลางจําเป็นต้องปรนนิบัติเธออย่างระมัดระวังและกระตือรือร้น เสิร์ฟชา ส่งน้ำ ป้อนข้าว แม้แต่พวกน้ำล้างเท้า ก็ต้องกัดฟันอดทนเอา
จิ่นอวี๋ตอนอยู่ต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟยดูท่าทางใจกว้าง ลับหลังกับพูดจาใจร้าย วางอํานาจบาตรใหญ่ จนแทบอยากจะฉีกเธอออกเป็นสองส่วนเพื่อระบายอารมณ์
เธอฝืนทนปวดเมื่อยไปทั้งตัว กัดฟันจนเลือดซิบ อีกทั้งยังหวาดกลัว
ถ้าหาก ตาของจิ่นอวี๋มองไม่เห็นจริงๆ หากมู่หรงฉีไม่แต่งนางเข้าจวน ตัวเองก็คงต้องถูกควักลูกตา แต่หากแต่งเข้ามา จิ่นอวี๋ก็จะเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับตนเอง ไม่เช่นนั้นตรเองต้องก้มหน้าปรนนิบัติเธอไปจนชั่วชีวิตเลยหรือ?
จุดจบทั้งสองอย่างนี้ ตนเองไม่ต้องการมัน เธอฝากฝังความหวังทั้งหมดไว้กับเหลิ่งชิงฮวน หวังว่านางจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม สามารถที่จะรักษาดวงตาทั้งสองข้างของจิ่นอวี๋ได้
เมื่อคิดแล้ว ก็เกิดความกังวลขึ้นสองประการ :
ประการแรก เพื่อที่จิ่นอวี๋จะแต่งเข้าจวนฉีอ๋อง แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะกลับมามองเห็นแล้ว แต่ก็ยังยืนกรานไม่ได้จะทำอย่างไร?
ประการสอง เหลิ่งชิงฮวนสามารถรักษาดวงตาของจิ่นอวี๋ได้ แต่หากไม่ยอมที่จะรักษา แบบนั้นตนเองและจิ่นอวี๋ก็จะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง นางกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้าน
ถึงอย่างนั้นตนเองตายแน่นอน
เธอยืนตัวสั่นหงึกๆ คิดฟุ้งซ่ายมากมาย อับจนหนทางอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้จะไปขอความเห็นจากใคร
จือชิวความคิดผิดแปลกเยอะแยะ เสียดายที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับตนเองแล้ว กลัวว่าจะเป็นการซ้ำเติมอีก
แม่จ้าวหนักแน่น แต่เตือนตัวเองหลายครั้งก็ไม่ยอมฟัง ตอนนี้ขอให้เธอตัดสินใจ เธอกลัวว่าจะบ่นความโง่เขลาของตัวเอง
ตนเองเดินมาถึงทางตันได้อย่างไรกัน? ไม่มีแม้แต่คนอยู่เคียงข้างที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ในเวลานี้ เธอก็นึกถึงฟังผิ่นจือ
ผู้ชายคนนี้บางทีอาจจะไม่มีความรับผิดชอบและหน้าที่ แต่ เขามีความรู้มากมาย เผื่อจะมีข้อแนะนำอะไรให้ได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...