ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 254

เหลิ่งชิงฮวนคิดจะปล่อยให้เรื่องสงบลง “ข้าอยากจะขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือเมื่อครู่ ข้ามาเพื่อขอบคุณ แต่ดูเหมือนแม่นางฉู่จะเข้าใจผิด เช่นนั้นพวกเราค่อยคุยกันวันหลังแล้วกัน"

เธอหันหลังเดินกลับไปแต่ฉู่รั่วซีกลับโกรธเพราะรู้สึกว่ากำลังโดนดูถูก นางสะบัดมือของมารดาออกก่อนจะปรี่เข้าไปหาเหลิ่งชิงฮวนและมองอย่างเหยียดหยาม

“หากรู้ว่าคนนั้นเป็นเจ้าข้าก็คงไม่เข้ามายุ่งหรอก เคยได้ยินว่าพระชายาของอ๋องฉีนั้นมากความสามารถไร้ผู้ใดเทียบได้ วันนี้ได้เจอแล้วก็ไม่เห็นเป็นดังว่า”

เหลิ่งชิงฮวนยกยิ้มเบาๆ แผ่ความกดดัน “ได้ยิน? ข้าไม่ชอบอ่านตำรา ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน แต่กลับมีคนยกยอข้าเช่นนั้นเลยหรือ?”

“พระชายาถ่อมตัวเกินไปแล้ว สามารถเปิดสถานศึกษาซ้ำยังเกิดในตระกูลนักปราชญ์ หนึ่งตระกูลสองท่านฮวา ผู้คนต่างก็พากันยกยอแล้วยังจะเก็บซ่อนไม่เปิดเผยไปทำไมล่ะ เพราะเช่นนั้นถึงได้หยิ่งยโสและดูถูกข้า”

ทำไมคนคนนี้ถึงได้ใจแคบยิ่งนัก? เธอก็แค่แย่งกิจการของนาง ทำไมถึงต้องมาพูดจาอะไรแบบนี้

เหลิ่งชิงฮวนยังคงยกยิ้ม “แต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกัน ข้าเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบทกวี แม่นางฉู่ประเมินค่าสูงเกินไปแล้ว”

“พระชายาพยายามหลบเลี่ยงเพราะว่าใช้วิธีการสกปรกไม่กล้าเปิดเผย หรือว่าดูถูกข้าจึงไม่อยากแข่งกับข้า?”

เหลิ่งชิงฮวนพยายามยอมถอยแต่นางกลับพุ่งเข้ามา รอบข้างมีคนมากมายที่เฝ้าดูความสนุกนี้โดยไม่สนว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนมารดาของนางก็ยืดดูอยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ถูก

“อย่างไรเสียพระชายาก็ถือว่าเติบโตในตระกูลผู้นับถือของจื๊อ อีกทั้งความสามารถก็ไม่ด้อยไปกว่าท่านฮวา ทำไมไม่แสดงฝีมือวันนี้เลยล่ะ”

องค์หญิงหรูอี้หยอกเล่น “แม่นางรั่วซีจะท้าให้นางแข่งขันจริงหรือ? ข้าเกรงว่านางคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเขียนบทกวีของขงจื๊ออย่างไร แล้วนางจะกล้าทำให้ตัวเองขายหน้าได้อย่างไร"

ฉู่รั่วซีเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีเลศนัย “ฉิน หมากรุก เขียนพู่กัน วาดภาพ ดาบ ปืน กระบี่ ง้าว จะแข่งอะไรพระชายาเลือกได้เลย ข้าแล้วแต่"

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจเบาๆ “อย่าเอาความสามารถของตนไปเปรียบเทียบกับความด้อยของผู้อื่น แม่นางบอกว่าจะแข่งตำราก็ดูมั่นใจ ซึ่งมันน่าประทับใจมาก แต่หากข้าบอกว่าแข่งทักษะทางการแพทย์ ท่านจะกล้าไหม?”

ฉู่รั่วซีพูดไม่ออก

องค์หญิงหรูอี้อยากเห็นเหลิ่งชิงฮวนขายหน้า “ในเมื่อเป็นการแข่งขัน เช่นนั้นก็ต้องชนะสองในสาม แม่นางรั่วซีก็ยอมแพ้ในนางในรอบนี้เป็นอย่างไร? แม้ว่าจะเหลือเพียงสองรอบก็มั่นใจได้ว่าจะชนะ”

ฉู่รั่วซีเข้าใจทันที “ได้ รอบแรกแข่งทักษะทางการแพทย์ ข้ายอมแพ้ อีกสองรอบที่เหลือขอพระชายาช่วยชี้แนะด้วย”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าในเมื่อเธอได้เกิดใหม่อายุยี่สิบกว่าปี เมื่อมองดูพวกเด็กสาวอายุสิบกว่าปีพวกนี้ ทำไมถึงได้ไร้สาระกันจัง? ยืดคอจ้องมองราวกับไก่ชน ทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้เลยหรือ? ทำไมต้องแข่งกันไปแข่งกันมาให้คนอื่นดูด้วย

เช่นนั้นเธอก็จะลองใช้เกลือยี่สิบกว่ามีมาเทียบกับข้าวสวยสิบกว่าปีของนางดู

เธอยิ้มเบาๆ “หากท่านยังพูดเช่นนี้แล้วข้าไม่ตอบตกลง ก็จะกลายเป็นว่าข้ากลัวท่าน เช่นนั้นจะแข่งอะไร?”

“แล้วแต่”

หรูอี้รับช่วงต่อ “รอบแรกแข่งทักษะทางการแพทย์ที่พระชายาเชี่ยวชาญ แม่นางฉู่ขอยอมแพ้ เช่นนั้นรอบที่สองก็แข่งการวาดภาพที่แม่นางฉู่เชี่ยวชาญเถอะ พวกท่านใช้วัสดุในท้องถิ่น คัดลอกภาพเหมือนของกันและกัน ใครก็ตามที่วาดภาพได้ชัดเจนกว่าจะเป็นผู้ชนะ ยุติธรรมไหม”

ทั้งสองคนไม่มีความเห็นอะไร ก่อนจะสั่งให้คนรับใช้ไปนำพู่กัน หมึกและกระดาษมา เก็บโต๊ะอาหารแล้วเริ่มลงมือฝนหมึก

ในเวลานี้ฮ่องเต้และนางสนมทั้งหมดยังไม่มา ดังนั้นทุกคนจึงสบายๆ เมื่อได้ยินว่าพระชายาอ๋องฉีกำลังจะแข่งขันกับสตรีที่มีความสามารถมากที่สุดในเมืองหลวงพวกเขาก็มารวมตัวกันทันที

เหลิ่งชิงเฮ่อที่นั่งอยู่ฝั่งผู้ชายได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ขมวดคิ้วทันที เขายังว่าเหลิ่งชิงฮวนมีความสามารถเพียงใด นางวาดภาพเหมือนได้ที่ไหน เกรงว่านางจะวาดฉู่รั่วซีออกมาเป็นหญิงร้ายน่ะสิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา