ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 260

แม้ว่าแสงจันทร์ริมทะเลสาบจะงดงามมากแค่ไหน ทว่าที่นั่นก็มียุงเป็นจำนวนมาก คนขับรถม้านั่งอยู่ข้างทางพลางตบยุงและคิดในใจว่าเหตุใดคนหนุ่มสาวเหล่านี้ถึงมีความรักอย่างสุดซึ้งกระทั่งวิ่งแล่นมาที่ป่ากลางดึกเพื่อแสดงความรักต่อกัน โดยปล่อยให้ตัวเขากลายเป็นอาหารยุงอยู่ตรงนี้

เมื่อได้ยินเสียงเรียกของมู่หรงฉี เขารีบตอบสนองและวิ่งออกไปทันที ทำให้เห็นเหลิ่งชิงหลางซึ่งแต่งตัวเต็มยศเช่นกันโผล่หัวออกมา

เขาเริ่มคิดในใจ... ว่าแล้วเชียว ทำไมวันนี้พระชายาเอกถึงกะตือรือร้นพาท่านอ๋องออกมาทำเรื่องน่าอายที่ป่าข้างทางแบบนี้ ที่แท้ก็เป็นพระชายารองนี่เอง!

ตอนอยู่หน้าประตูวังข้าตาฝาดไป? คนที่ขึ้นรถม้าคือพระชายาเอกนี่นา

มองไปยังใบหน้ามืดมนของมู่หรงฉีราวกับถูกหมูแย่งไปกิน เขาก็แอบถอนหายใจอย่างลับๆ

“ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ”

“ส่งชายารองไปที่หมู่บ้านใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านไหนก็ได้ บอกผู้จัดการในหมู่บ้านดูแลนาง และอย่าให้นางก้าวออกจากหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า!”

เหลิ่งชิงหลางที่อยู่ในรถตื่นตระหนกเมื่อได้ยิน นางสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดออกจากรถม้าและคุกเข่าลงต่อหน้ามู่หรงฉี “ท่านอ๋อง ไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเถิด หม่อมฉันทำผิดจริง ทว่าที่หม่อมฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะรักท่านนะเจ้าคะ ท่านจะส่งชิงหลางไปหมู่บ้าน ชิงหลางไม่ได้กลัวความยากลำบากทว่ากลวที่จะไม่ได้เจอกับท่านอ๋องอีก”

มู่หรงฉีมองนางอย่างเย็นชา “เหลิ่งชิงหลาง ข้าจำได้ว่าข้าเตือนเจ้ามากกว่าหนึ่งหรือสองครั้งแล้ว ขอแค่เจ้าอยู่อย่างสงบสุข ข้ารับปากว่าข้าจะดูแลความเป็นอยู่ของเจ้าไปตลอดชีวิต ทว่าเจ้ากลับท้าทายข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าทำลายดวงตาของจิ่นอวี๋ยังพอทนได้ แต่เรื่องในวันนี้...ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอีก! ต่อจากนี้อย่าหวังว่าจะได้เจอข้าอีก! เจ้ากลับไปสำนึกเสีย อย่าบังคับให้ข้าทำอะไรที่โหดร้ายมากไปกว่านี้”

ก่อนที่เขาจะสะบัดเหลิ่งชิงหลางออกและหันหลังเดินจากไป

เหลิ่งชิงหลาทรุดลงกับพื้น นางคิดว่ามู่หรงฉีอาจจะโกรธเพราะความอับอายและลงโทษนาง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะใช้วิธีโหดร้ายเช่นนี้

ภาพลวงตาสุดท้ายของมู่หรงฉีค่อยๆ แตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนฟองสบู่

เหลิ่งชิงหลางลูบหน้าท้องแบนราบของนางอย่างช้าๆ พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ย

ข้าจะกลับไปที่จวนอ๋องฉี ข้าจะกลับไปอย่างยิ่งใหญ่ มู่หรงฉี รอก่อนเถิด ข้าไม่ต้องการความโปรดปรานจากท่าน ข้าต้องการแค่จวนอ๋องฉีเท่านั้น

เมื่อเหลิ่งชิงฮวนกลับมาที่จวนอ๋องฉี ผู้ดูแลบอกเธอว่ามู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงหลางยังไม่กลับมา

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกงงงวยเล็กน้อยไม่รู้ว่าทั้งสองคนหายไปไหน ก่อนจะรู้สึกกังวลอย่างแปลกๆ และค่อนข้างไม่พอใจกับพฤติกรรมของมู่หรงฉีที่ทิ้งเธอไว้ข้างหลัง

เธอกลับไปตำหนักฉาวเทียนด้วยสีหน้าบูดบึ้งและพักผ่อนหลังจากอาบน้ำ

ช่วงหลายวันมานี้เธอมักจะมีมู่หรงฉีคอยอยู่ด้วยเสมอ แต่วันนี้เธอต้องนั่งมองดวงจันทร์นอกหน้าต่างเพียงลำพังด้วยความรอคอย ทว่าไม่นานนักเธอก็รู้สึกง่วงมาก เปลือกตาของเธอหนังอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพิงขอบเตียงหลับไป

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากที่มู่หรงฉีอาบน้ำเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปพร้อมกับความชื้นทั่วร่างกายอย่างลังเล ราวกับมีบางอย่างพันธนาการเท้าเขาเอาไว้ เขาลงข้างเหลิ่งชิงฮวนอย่างเงียบๆ พลางมองไปยังใบหน้าหลับใหลอันบริสุทธิ์ของเธอ อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นและสัมผัสใบหน้าของเธอเบา ๆ

เหลิ่งชิงฮวนซึ่งเข้าสู่ห้วงนิทรา ขนตาของเธอกระพือเล็กน้อยก่อนจะตื่นขึ้นและยื่นแขนออกไปหาเขา “ทำไมถึงเพิ่งกลับมา มากอดหน่อย”

มู่หรงฉีถอดรองเท้าพลางนอนลงช้าๆ และสวมกอดเหลิ่งชิงฮวน ทว่าเขาไม่ได้กอดเธอไว้ในอ้อมแขนเหมือนเคย เขากลับเอาหัวมุดเข้าไปในอ้อมแขนของเหลิ่งชิงฮวนแทน

เหลิ่งชิงฮวนมองเขาด้วยความสงสัย คิดว่าเขากำลังยุ่งกับเธอพลางพึมพำด้วยเสียงต่ำ “จั๊กจี้ อย่านะ...”

มู่หรงฉีตอบกลับด้วยเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย “ชิงฮวน ข้าขอโทษ”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ยิน เธอหายใจอย่างสม่ำเสมอและหลับไปอีกครั้ง

มู่หรงฉีโอบเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับกลัวว่าสูญเสียเธอไป

เช้าวันรุ่งขึ้น

เหลิ่งชิงฮวนยื่นมือออกไปเพื่อเคราของเขาที่งอกออกมาอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน พลางคิดอย่างเงียบๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา