ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 281

พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกลังเลที่จะเชื่อเหลิ่งชิงฮวนโดยคิดว่าอาจพูดเกินจริงไปบ้าง

นางสัมผัสใบหน้าของจิ่นอวี๋พลางถอนหายใจอย่างเป็นทุกข์ “เจ้าเด็กโง่เอ๋ย เจ้าจิตใจดีมากเกินไปแล้ว ข้าอยู่นี่ ข้าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องกล้ำกลืนฝืนทนหรอกนะ”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ขนลุกร่วงไปทั่วพื้น

เธอเรียกนางมาที่นี่เพื่อจะสนับสนุนและทำการลงโทษ นางกลับเชื่อคำพูดเจ้าเล่ห์แบบนั้นจริงเหรอเนี่ย เมื่อนึกถึงความสามารถของพระสนมฮุ่ยเฟยคนนี้ในการเอาชีวิตรอดจากกลอุบายต่างๆ ในพระราชวัง อาจเป็นเพราะนางได้รับความโปรดปรานและมีอำนาจในจวนอันกั๋วกง ทว่ายังคงห่างไกลจากฮองเฮาเป็นอย่างมาก

เธอค่อยๆ เยาะเย้ยขึ้น “ในเมื่อจวิ้นจู่จิตใจดีมีเมตตา เกลี้ยกล่อมไม่ให้พระสนมฮุ่ยเฟยต้องสิ้นเปลืองเวลาระดมคนมามากมาย เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงเชิญพระสนมมาที่นี่เป็นพิเศษล่ะ”

อยากทำชั่วแล้วได้หน้ามีตา ไร้ยางอายจริงๆ

ประโยคนั้นทำให้จิ่นอวี๋แทบสำลัก

“ข้ากลัว ข้าตกใจมากในตอนที่ได้ยินแม่ทัพอวี๋พูด แน่นอนว่าข้าย่อมคิดถึงญาติสนิทของตัวเองทันที”

พระสนมฮุ่ยเฟยซึ่งกำลังปกป้องจิ่นอวี๋ เมื่อได้ยินว่าคำพูดไม่รื่นหูของเหลิ่งชิงฮวน นางจึงตะคอกอย่างเย็นชา “ที่จิ่นอวี๋ส่งคนมาแจ้งข้าก็เพราะนางอยู่ในจวนฉีอ๋องอย่างลำบากใจ มีเพียงข้าเท่านั้นที่จะให้ความยุติธรรมกับนางได้ หากข้าไม่มาในวันนี้เกรงว่าเรื่องใหญ่อาจกลายเป็นเรื่องเล็กโดยฝีมือใครบางคน ดูเหมือนว่าพระชายาเอกจะไม่พอใจมากสินะ”

เป็นเรื่องจริง... ไม่ว่าเธอจะเอ่ยปากพูดอะไรก็ผิดทุกอย่าง

มู่หรงฉีเม้มปาก “หากเสด็จแม่รู้สึกว่าจิ่นอวี๋อยู่ที่จวนนี้อย่างลำบากใจหรือเราต้อนรับนางไม่ดี ก็พานางกลับเข้าวังเถิดขอรับ รอให้ผลการสืบสวนเรื่องนี้ออกมาแล้วลูกจะส่งคนไปแจ้งให้เสด็จแม่ทราบ”

พระสนมฮุ่ยเฟยโกรธจนมือสั่น นางชี้ไปที่มู่หรงฉีและเหลิ่งชิงฮวน “ได้ ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเจ้าไม่ชอบจิ่นอวี๋ คิดว่ารังแกนางได้ง่ายๆ เจ้าถือเอาโอกาสนี้ขับไล่นางออกจากจวน พอดีเลย วันที่ข้ากำหนดไว้ใกล้จะมาถึงแล้ว เจ้าจะเอาอย่างไร เจ้าจะยอมให้ควัดลูกตาของเหล่งชิงหลางมาชดใช้หรือจะแต่งงานให้สถานะกับจิ่นอวี๋”

เสิ่นหลินเฟิงยืนอยู่ด้านข้าด้วยความตกตะลึง

เขาเคยได้ยินเหล่าไท่จวินบ่นว่าท่านป้าแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่คิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้! เรื่องบังคับซื้อ-ขายเขาก็เคยได้ยินมาบ้าง บางคนที่บังคับให้ลูกชายแต่งงานก็มี แต่ไม่เคยได้ยินการข่มขู่ลูกชายตัวเองแบบนี้มาก่อน

เขามองไปที่เหลิ่งชิงฮวนอย่างเห็นอกเห็นใจ เหลิ่งชิงฮวนยักไหล่อย่างเงียบ ๆ อย่างหมดหนทาง

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปาก “ได้ ลูกจะสั่งคนให้ไปพาตัวเหลิ่งชิงหลางมาจากหมู่บ้าน เพื่อกลับมารับโทษตามที่เสด็จแม่ต้องการ”

พระสนมฮุ่ยเฟยยิ่งโกรธมากขึ้น “เจ้าที่ว่าข้าจะเห็นแก่หน้าเสนาบดีเหลิ่งไม่กล้าลงมือจริงๆ สินะ” มู่หรงฉีพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมาและตอบว่า “ใช่”

พระสนมฮุ่ยเฟยโกรธยิ่งกว่าเดิม “งั้นมาดูกันว่าข้าจะกล้าหรือไม่”

มู่หรงฉีเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกประโยคหนึ่ง “ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกอยู่แล้ว”

“พระนาง อย่าทำความสัมพันธือันดีกับท่านพี่เพียงเพราะจิ่นอวี๋เลยขอรับ จิ่นอวี๋ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงตาบอดชั่วคราว จิ่นอวี๋เสียใจที่ไม่ได้อยู่รับใช้ข้างกายพระนาง ต่อให้นางแต่งงานกับท่านพี่ มีแต่จะทำให้ท่านพี่รังเกียจมากขึ้น ท่านอย่าบังคับท่านพี่เลย ไม่อย่างนั้นจิ่นอวี๋จะไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปนะขอรับ”

ยังไม่กลับไปอีกหรือไง เจ้านี่มันไร้ยางอายที่สุด!

จิ่นอวี๋ก้าวไปข้างหน้าและขอร้องอย่างจริงจัง พระสนมฮุ่ยเฟยกล่าวต่ออย่างแน่วแน่ “ข้ารับปากแล้วว่าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้า ข้าไม่ผิดสัญญาแน่ ลูกสาวตระกูลเหลิ่งกลั่นแกล้งกันมากเกินไป!”

เมื่อเห็นเปลวไฟแห่งสงครามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จิ่นอวี๋จึงร้องไห้ออกมาอย่าหนัก ส่วนเหลิ่งชิงฮวนก็ยืนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบสงบ ในขณะที่เสิ่นหลินเฟิงพยายามปลอบประโลมไม่ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา