ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 296

ซื่ออี๋เหนียงลนลานขึ้นมาในทันที เธอตีมือของชิงฮวาและจับแขนเสื้อเอาไว้แน่น “ดีขึ้นตั้งนานแล้วแผลเล็กๆแค่นี้เอง อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่สิ”

ชิงฮวาส่งเสียงออกมาอย่าไม่พอใจ เธอปล่อยมือออกอย่างเสียใจ เห็นได้ชัดว่าเธอถูกตีจนเจ็บ เธอพ่นพึมพำออกมาเบาๆ “เห็นๆอยู่ว่าเลือดออกตั้งมากจนาดนั้น”

เหลิ่งชิงฮวนมองไปที่เธอ ดวงตาของเธอมีประกายบางอย่างวาบขึ้นมา “ชิงฮวาช่างเอาใจใส่แบบนี้ ช่างเป็นบุญของซื่ออี๋เหนียงเสียจริง”

ต่อหน้าเธอแล้วซื่ออี๋เหนียงทำเหมือนกับกำลังซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ ราวกับว่าความลับนั้นกำลังถูกเธอมองจนทะลุปรุโปร่ง ซื่ออี๋เหนียงก้มหน้าลงไปมือไม้ของเธอเริ่มลนลาน

“ที่คุณหนูใหญ่ไม่รังเกียจชิงฮวาถึงจะนับว่าเป็นบุญของนางค่ะ เมื่อก่อนข้าเลอะเลือนไปหน่อยุคงได้ทำเรื่องไม่ดีกับท่านขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่ไม่ถือสาเอาความ และยังมาที่นี่ด้วยตัวเองโดยเฉพาะ”

เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงสิ่งที่เจ้าของคณะละครพูด “เป็นเรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น เป็นตัวของซื่ออี๋เหนียงเองที่เก็บมาใส่ใจ และเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องบางเรื่องลืมได้ก็ควรลืมเสีย วางลงได้ก็ควรวางเสีย”

ไม่ว่าความหมายที่เหลิ่งชิงฮวนต้องการจะสื่อคืออะไรแต่ที่ซื่ออี๋เหนียงได้ยินกลับรู้สึกกินใจจนทำให้นางตกใจจนใจเต้นรัว

“ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่ชี้แนะ”

เหลิ่งชิงฮวนจึงแกล้งถามออกไปว่า “ซื่ออี๋เหนียงรับใช้จินอี๋เหนียงมานาน ชิงเจียวกับท่านก็น่าจะสนิทสนมกันใช่ไหมคะ”

ซื่ออี๋เหนียงนึกขึ้นมาได้ว่าเธอแอบได้ยินมาถึงสิ่งที่เหลิ่งชิงฮวนพูดกับมู่หรงฉี เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น

“ไม่ถือว่าสนิทสนมอะไรเจ้าค่ะ อย่างมากก็คงมองว่าข้าเป็นบ่าวรับใช้ใกล้ตัวเจ้าค่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเล็กน้อย “เด็กคนนี้สมควรถูกสั่งสอน ถ้าหากว่าซื่ออี๋เหนียงว่างก็ให้ดูแลเขาหน่อยนะคะ ข้าหวังว่าชิงหลางจะสั่งสอนเขา แต่ดูเหมือนว่าจะพึ่งพาไม่ได้เท่าไรนัก”

คนพูดนั้นไม่ได้ตั้งใจจะพูด แต่คนฟังนั้นกลับร้อนตัว ซื่ออี๋เหนีบงกำชับปากแขนเสื้อของเธอแน่น “ข้ามีสิทธิ์หรือเจ้าคะ”

เหลิ่งชิงฮวนลูบหัวชิงฮวา “น้องสี่ถูกท่านเลี้ยงดูมาอย่างดีทั้งฉลาด ทั้งใจดี อีกทั้งยังเชื่อฟัง”

“กล่าวเกินไปแล้วจ้าค่ะ” นางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และพูดออกมาอย่างหนักแน่น

เหลิ่งชิงฮวนมีสีหน้าเข้าใจ “ในเมื่อท่านไม่เป็นไร งั้นข้าจะไปหาท่านพ่อ”

เมื่อเธอเดินไปถึงประตูก็หันหลังกลับมาและพูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าหากว่าถูกแมวข่วนจริง งั้นก็ต้องระวังนะคะ อาจจะติดเชื้อเอาได้”

เธอพูดออกมาอย่าสองแง่สองง่ามอีกครั้ง ซื่ออี๋เหนียงจิตใจสั่นไหว ดวงตาของเธอเลื่อนลอยออกไปไกลและไม่กล้ามองเหลิ่งชิงฮวน

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แผลดีขึ้นนานแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนจึงหัวเราะออกมาน้อยๆ แล้วจากไป

ซื่ออี๋เหนียงทรุดตัวลงบนเก้าอี้ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทั่วทั้งร่างของนางมีเหงื่อซึมออกมาจนเปียกชุ่ม

ชิงฮวาเข้าไปใกล้นางอย่างกระอักกระอ่วน “อี๋เหนียงเจ้าคะ ทำไมท่าถึงไม่ให้พี่ใหญ่ดูอาการให้ท่านล่ะเจ้าคะ พี่ใหญ่เป็นคนดีนะเจ้าคะ”

ความรู้สึกของซื่ออี๋เหนียงผสมปนเปกันไปหมด ต่อหน้าลูกสาวของนางแล้วนางก็ไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไรดี นางจึงลูบหัวของเหลิ่งชิงฮวา “เจ้าชอบพี่ใหญ่ของเจ้ามางั้นหรือ”

ชิงฮวาพยักหน้าอย่างแข็งขัน “ในบรรดาพี่สาวทั้งสามคน พี่ใหญ่ดีต่อข้าที่สุดเจ้าค่ะ พี่รองกับพี่สามต่างดูถูกข้า”

ซื่ออี๋เหนียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ที่แท้สายตานางก็สู้เด็กคนหนึ่งไม่ได้ ใครดี ใครเลว สายตาของเด็กน้อยเป็นอะไรที่ใสซื่อที่สุดจนมองออกอย่างชัดเจน

เธอพูด “อืม” ออกมาเบาๆ “งั้นหลังจากนี้เจ้าต้องดีกับพี่ใหญ่ของเจ้าให้มาก”

ชิงฮวายิ้มกริ่ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความยินดี “แน่นอนว่าข้าต้องดีกับอี๋เหนียงที่สุด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา