รถม้าจอดนิ่ง
แต่ชายคนนั้นกลับยกบังเหียน หันหัวม้า จากนั้นก็หายไปจากเงาไม้ตรงทางแยก
เหลิ่งชิงฮวนจับจ้องทิศทางที่คนคนนั้นหายตัวไป พลันกระโดดลงจากรถม้า ควักเงินออกมาจากแขนเสื้อและโยนให้คนขับรถม้า “ส่งตรงนี้เถอะ ข้าจะเดินไปเอง”
จำนวนเงินค่อนข้างมาก ตอนคนขับรถม้ากำลังลำบากใจว่าไม่มีวิธีทอนเงิน เหลิ่งชิงฮวนก็เดินเลี้ยวไปตรงทางแยกอย่างรีบร้อนเสียแล้ว
คนคนนั้นไม่ได้ไปไหนไกล อีกทั้งยังลงมาจากหลังม้า และเดินจูงบังเหียนม้าอย่างช้าๆ เหมือนกับว่ากำลังรอนาง
เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เดินจนเหนื่อยหอบเล็กน้อย และลืมไปเลยว่าอาจจะมีอันตราย
พออีกฝ่ายได้ยินเสียงฝีเท้าของเหลิ่งชิงฮวน ก็หันกลับมาช้าๆ และปล่อยบังเหียนม้าภายในมืออีกด้วย
เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้บุ่มบ่ามเอ่ยปาก คนคนนั้นก็ไม่พูดอะไร ทั้งสองคนสังเกตอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ครู่หนึ่ง
ชายหน้ากากนกอินทรีเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน “มาแล้วหรือ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำมาก เหมือนพยายามเปลี่ยนเสียงอย่างสุดความสามารถ จากสองคำง่ายๆ นี้ เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงคำทักทายของเพื่อนเก่าที่ได้พบกัน
เป็นเขาใช่ไหม เขารู้สถานะของตนจริงๆ
นางพยายามทำให้นำเสียงของตนเองเรียบนิ่งเล็กน้อย จะได้ไม่ตื่นเต้นเกินไป “มาแล้ว”
อีกฝ่ายหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังไตร่ตรองทุกคำพูดอย่างรอบคอบ
“ได้ยินว่าเจ้ากำลังตามหาข้า”
เหลิ่งชิงฮวนแอบกัดฟัน “ดังนั้น เจ้าจึงยอมปรากฏตัวอย่างนั้นหรือ”
อีกฝ่ายนิ่งเงียบ “ดูเหมือนเจ้ากำลังตำหนิข้า”
“เปล่านะ จะเป็นไปได้ยังไง” เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยถามอย่างผิวเผินว่า “แค่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นองครักษ์อินทรี”
อีกฝ่ายยกมือขึ้นมาลูบหน้ากากนกอินทรีบนใบหน้า “ขอโทษ ข้าไม่ได้พูดความจริงกับเจ้า ท่านอ๋องฉีคงจะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับข้าใช่ไหม”
“ยังไม่รู้ แต่ข้าคิดว่า ยังไงก็ต้องสารภาพกับเขาไม่ช้าก็เร็ว”
“แล้วเจ้าจะบอกเขาอย่างไร”
“แน่นอนว่าต้องพูดความจริง” เหลิ่งชิงฮวนก้าวไปข้างหน้า “มิฉะนั้นล่ะ”
อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง
“เจ้าไม่มีอะไรจะพูดใช่ไหม ไม่อยากอธิบายหรือ” เหลิ่งชิงฮวนซักถามด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ
“อธิบายอะไร” ชายนกอินทรีพูดออกมาอย่างช้าๆ “ข้าไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร”
“อย่างเช่น เจ้าจากไปโดยไม่ลา ทั้งยังหนีหน้าไม่พบเห็นมานานขนาดนี้”
ชายหนุ่มพูดอ้ำๆ อึ้งๆ “ข้ามีความลำบากใจ”
“ดังนั้น ข้าจะให้โอกาสเจ้า หวังว่าเจ้าจะให้คำตอบข้าได้”
ชายหนุ่มเงียบขรึมอีกครั้ง เหมือนกับสามีซึ่งนอกลู่นอกทางกำลังหาข้ออ้างอย่างบากบั่น
“ข้าเป็นองครักษ์อินทรี ข้ากลัวว่าจะทำให้เจ้าเดือดร้อน”
ทำให้เดือดร้อนอย่างนั้นหรือ เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเยาะในใจ ความรู้สึกซับซ้อน แต่บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยแสนลึกซึ้งและเข้มข้น “หากข้ากลัวเดือดร้อน คงจะไม่มาพบเจ้าแล้ว ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ไม่กอดกันสักหน่อยหรือ”
ชายนกอินทรีถอยหลังอย่างไม่เหลือร่องรอย เหมือนกับตกใจกลัว และทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาฉี กลางวันแสกๆ แบบนี้ คงไม่ไม่เหมาะสม”
เหลิ่งชิงฮวนเข้าใกล้อีกสองก้าว สะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือ เช็ดหางตาอันชุ่มชื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะเทือนใจและความโศกเศร้า “เจ้ากลัวหรือ”
“ข้ากลัวท่านอ๋องฉีจะรู้ถึงการมีอยู่ขององครักษ์อินทรี และทำลายทางรอดของข้า ข้ารู้สึกเหมือนเขารู้อะไรบางเสมอ แถมยังแอบค้นหาพวกเราตลอด
“เจ้ามาหาข้า เพื่อถามเรื่องพวกนี้หรือ คนของเจ้าคงจะไม่ได้สืบข่าวเกี่ยวกับข้อมูลของมู่หรงฉีและคิดจะหาช่องโหว่จากข้าใช่ไหม”
ชายนกอินทรีส่ายหัว “ข้าแค่อยากเจอเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...