ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 314

ในลานบ้านมิมีห้องส้วม เพราะหลีกเลี่ยงการเกิดกลิ่นมิพึงประสงค์ ปกติแล้วเหลิ่งชิงหลางจะใช้ถังสะอาด และคนรับใช้จะต้องเดินไปในที่สำหรับถ่ายหนักถ่ายเบาที่อยู่มิไกลเพื่อจัดการกับมัน

เหลิ่งชิงหลางออกปากไล่แขกอย่างเขาไปตรงๆ “วันนี้เจ้าก็มานานแล้วด้วย อย่าโยกโย้ ประเดี๋ยวจะมีใครมาพบเข้า รีบๆ ออกจากจวนไปเสียเถิด”

ฟังผิ่นจือก็รู้สึกแบบเดียวกัน ตนเองแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสตรี หากไปห้องส้วมสตรี แล้วถูกใครพบเข้าคงมิดีแน่ จึงกล่าวลาเหลิ่งชิงหลางแล้วออกจากจวนไป

เมื่อเลี้ยวขวาออกมาเดินผ่านไปได้สองแยก ก็รู้สึกทนมิไหว จึงมองหาตรอกซอกซอยแล้วสอดส่องดูทุกซอกทุกมุมมองซ้ายมองขวา เมื่อมิมีใครก็ปลดกางเกงออกแล้วเริ่มละเลงทันที

ในระหว่างที่กำลังฉี่อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีคนทำเสียงดุขึ้นมาจากด้านหลัง “เฮ้ย ทำกระไรวะ?”

เขาตกใจสะดุ้งรีบยกกางเกงขึ้นมา เมื่อหันหน้าไปมองก็เห็นคนเดินตรงมาที่ที่ตนอยู่ จึงรีบจ้ำอ้าวหนีไปอย่างเร่งรีบ

ณ เรือนอรุโณทัย ไต้มั่วเข้าไปในห้องของจิ่นอวี๋

จิ่นอวี๋ที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งมองซ้ายมองขวา ได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง แต่มิได้หันกลับมา “เป็นเยี่ยงไรบ้าง”

“เป็นจริงดั่งที่จวิ้นจู่เดาไว้ไม่ผิดเจ้า นังเด็กจวนจินรับประทานอาหารกลางวันอยู่ในห้องของเหลิ่งชิงหลาง เนื่องจากอาหารมีรสเค็มเกินไป ทำให้ดื่มน้ำมาก ดังนั้นเมื่อออกจากจวนมาก็อดไม่ได้ที่จะไปหาที่ฉี่ คนของเราเห็นเต็มตาว่าเขายืนฉี่”

จิ่นอวี๋ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เหลิ่งชิงหลางนี่ช่างกล้าดีเสียจริง ตอนแรกนึกว่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนังเด็กนั่นเพื่อแก้กระหายเสียอีก แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นชู้รัก และใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล”

“ท่านว่า เขามีกระไรกับพระชายารองรึเจ้าคะ?”

“ยังจะต้องพูดอีกรึ? มีใครบ้างที่เรามิเคยเห็นตอนอยู่ในวัง? แต่คนในวังและทหารอารักขาก็มีความหมายเพียงเล็กน้อยปานนั้น จะแอบเล่นหูเล่นตา ก็มิใช่เรื่องปกติของเหลิ่งชิงหลางหรอกรึ? คนผู้นี้มักจะเข้าๆ ออกๆ จวนท่านอ๋องอยู่บ่อยๆ และทำตัวลับๆ ล่อทุกครั้ง อีกทั้งยังให้แม่จ้าวช่วยเฝ้าประตูไว้ด้วย ถ้ามิใช่คบชู้แล้วมันจะเป็นอันใดได้อีก?”

“นางจะมิกล้าดีไปหน่อยรึ? หากท่านอ๋องรู้เข้า สองชีวิตนั้นคงหาไม่?”

“จริงๆ ถ้าเหลิ่งชิงฮวนอยู่ ในมิช้าก็เร็ว นางก็คงมิมีทางรอดเช่นกัน เพราะความเสน่หาของชายหญิงเป็นสิ่งเสพติด ในโลกนี้มีเรื่องฉาวโฉ่ที่มิมีทางจะฟื้นคืนได้ แล้วคนเล่นชู้กันกี่คนกันเล่า? อีกอย่าง วิธีที่ทั้งสองคนใช้นั้นใกล้ชิดกันจริงๆ แม้ว่ามู่หรงฉีหรือเหลิ่งชิงฮวนมาเห็นกับตา ใครจะสงสัยเล่าว่าคนที่เหมือนก้อนแป้งนั่นจะเป็นชายชาตรี?”

ไต้มั่วเงียบไปสองจิตสองใจอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นท่านว่า ปกติแล้วท่านอ๋องมิเคยก้าวเข้าไปในเรือนจื่อเถิงเลย แล้วจะบังเอิญไปทำพระชายารองมีครรภ์ได้เยี่ยงไร?”

จิ่นอวี๋ยิ้มเยาะ “เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ”

“แล้วเราจะทำเยี่ยงไรกันรึเจ้าคะ? จะเปิดเผยนางต่อหน้าท่านอ๋องหรือไม่?”

“เหตุใดจะต้องเปิดเผยด้วยเล่า? เหลิ่งชิงหลางกำลังมีครรภ์ แต่ทำกับเหลิ่งชิงฮวนเหมือนกับโดนคันศรนับพันทิ่มแทงใจ ท่านอ๋องจะโกรธแค่ไหนกัน ดูแล้วก็ยังตื่นเต้นมิพอ ถ้าเหลิ่งชิงหลางจบเห่แล้ว คนที่ดีใจที่สุดมิใช่เหลิ่งชิงฮวนรึ? สำหรับจวิ้นจู่อย่างข้า เหลิ่งชิงหลางแข่งกับข้ามิได้หรอก ชีวิตความเป็นความตายของนาง มิได้เกี่ยวอะไรกับข้าอยู่แล้ว”

“แล้วจะปล่อยให้นางสุขสมหวังไปเช่นนี้รึ? อีกทั้งยังเหยียบหัวท่านจวิ้นจู่ด้วย ท่านดูที่นางพูดวันนี้สิ ช่างน่าโมโหเสียจริง”

จิ่นอวี๋ถอดปิ่นปักผมทองออกจากมวยผม แล้ววางเล่นในมือ “แน่นอนว่าไม่ ข้าจะทำให้นางกลายเป็นมีดในมือของข้า แทงเข้าไปในหัวใจของเหลิ่งชิงฮวนอย่างแรง ไปกันเถิด ไปบอกเหลิ่งชิงหลางว่าจวิ้นจู่อยากจะเชิญนางไปฟังงิ้ว ฟังงิ้วดีๆ สักเรื่องหนึ่ง”

เหลิ่งชิงหลางเมื่อได้ยินว่าจิ่นอวี๋ต้องการเชิญนางไปดูงิ้วก็แปลกใจเล็กน้อย

ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็มิได้ลงรอยกัน นางจะใจดีขนาดนั้นได้เยี่ยงไร เชิญตนไปฟังงิ้วรึ? ต้องมีเจตนาอะไรแอบแฝงแน่ๆ เมื่อคิดแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็นหลุมพรางอย่างแน่นอน

ทว่าตอนนี้เหลิ่งชิงหลางมีบางอย่างที่จะต้องพึ่งพาอาศัย มิมีอันใดให้ต้องเสี่ยง และรีบตกลงอย่างได้ใจ

การแสดงของจิ่นอวี๋ดูเรียบง่าย เวทีก็มิมีเช่นกัน แล้วก็ส่งคนไปที่โรงละครเพื่อเชิญนักแสดงสองคนมาที่นี่ และยังมีนักดนตรีอีกสองคนด้วย ตระเตรียมขนมและผลไม้ไว้ที่สวนอรุโณทัย ทั้งสองนั่งอยู่ข้างหน้า นักแสดงที่แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มร้องเสียงเจื้อยแจ้ว

จิ่นอวี๋ใช้เล็บเรียวยาวแกะเมล็ดฟักทอง หรี่ตาดูเหมือนจะฟังอย่างเอร็ดอร่อย

เหลิ่งชิงหลางเคยฟังเรื่องนี้มาก่อน มันมีชื่อว่า เหลียงซานปั๋วกับจู้อิงไถ

นางร้องเสียง “จิ๊” “เหลียงซานปั๋วกับจู่อิงไถ ไหนจะฮวามู่หลานอีก ข้าล่ะปวดหัว หญิงปลอมตัวเป็นชาย ปะปนอยู่กินกับผู้ชาย มิมีใครรู้ได้เยี่ยงไรว่านางเป็นหญิง? หากเป็นเช่นนี้ จะต้องมีรูปร่างที่สูงใหญ่ คิ้วเข้ม จมูกเป็นสันเยี่ยงชายชาตรีอย่างแน่นอน แล้วจะสามารถยั่วยุให้ชายสองคนแย่งชิงได้เยี่ยงไรกัน?”

เหลิ่งชิงหลางได้ฟังละครเสียที่ไหนกันเล่า? นางยิ้มด้วยความมิเต็มใจอย่างยิ่ง “จวิ้นจู่จิ่นอวี๋กำลังล้อข้าเล่นสินะ? ในโลกนี้จะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร? หากเจ้าอยากจะฟัง ก็ฟังไปคนเดียวเถิด ถึงอย่างไรข้าก็มิสนใจอยู่แล้ว ข้าไปก่อนล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา