ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 313

จิ่นอวี๋หรี่ตาลงเล็กน้อย เพ่งมองไปที่คนสองคนที่ออกไปด้วยกัน และอดมิได้ที่จะมีรอยยิ้มเย็นๆ ที่มุมปากของนาง

ไต้มั่วปรากฏตัวขึ้นมาข้างหลังนางอย่างงียบเชียบ

จิ่นอวี๋กดเสียงต่ำ “เห็นแล้วสินะ?”

ไต้มั่วรับคำ “อืม” ในลำคอเบาๆ “เห็นแล้วเจ้าค่ะ”

“รู้สึกว่ามิค่อยชอบมาพากลหรือไม่?”

“มิปกติมากๆ จริงๆ เจ้าค่ะ”

“คนผู้นี้เป็นใครกัน”

“ได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่า เหลิ่งชิงหลางเดินไปมาใกล้ๆ กับจวนรองเสนาบดี ในจวนก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าๆ ออกที่เรือนจื่อเถิงอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นนาง”

“แล้วนางมาทำกระไร?”

ไต้มั่วส่ายหน้า “มิทราบเลยเจ้าค่ะ ทุกคราที่ไปที่เรือนจื่อเถิง เหลิ่งชิงหลางมักจะก็ไล่คนในลานบ้านออกไป”

จิ่นอวี๋เพ่งไปยังทางที่ทั้งสองเดินออกไป “ดูเหมือนว่าการที่ตาบอดก็มีข้อดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยๆ ปีศาจบางตัวก็จะทำตัวกำเริบเสิบสานต่อหน้าเจ้า แล้วเผยธาตุแท้ของตนออกมา หรือว่าเหลิ่งชิงหลางนั่นจะทนกับความเปล่าเปลี่ยวหัวใจมิไหว ก็เลยไปมีความสัมพันธ์ที่มีลับลมคมในกับสาวใช้งั้นหรือ?”

“ได้ยินมาว่าในหลายๆ ตำหนัก ขาดมิได้อยู่แล้วที่จะมีการแก้กำหนัดความใคร่ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงนี้ มิใช่เรื่องแปลกอันใด”

“เคยได้ยินข่าวนี้มาก่อน แต่มิเคยเห็นมาก่อนเลย วันนี้ข้าได้รู้ได้เห็นกระไรเยอะขึ้น มินึกเลยว่าเหลิ่งชิงหลางจะเป็นคนเยี่ยงนี้ มิแปลกใจเลยที่จือฉิวจะมิใช่แค่สาวใช้ห้องข้างของท่านพี่เท่านั้น แต่นางถึงกับพาลโกรธจนลงมือสังหาร คนผู้นี้ในตอนนี้ตัวสูงเพรียว ดูเหมือนจะยิ่งคล้ายกับผู้ชายเข้าไปอีก”

“ก็จริง มองจากด้านหลัง ท่วงท่าและอิริยาบถเหมือนกับขันทีน้อยในตำหนักเจียนเจีย มิใช่ผู้ชายแต่ก็มิใช่ผู้หญิง”

จิ่นอวี๋ยิ้มเยาะอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ขันทีงั้นรึ? ข้าควรจะไปพบพวกนางหรือไม่?”

“ยายหลิงกำชับไว้ว่า ดวงตาของจวิ้นจู่เพิ่งจะดีขึ้น จะต้องใส่ใจดูแลให้ดี ห้ามกระทำอันใดบุ่มบ่ามมุทะลุเป็นอันขาด”

จิ่นอวี๋ยกมือขึ้นมาโบกไปมาตรงหน้าของนางเอง “เหลิ่งชิงหลางตัวกระจ้อย จะยอมเสี่ยงมาทำศึกสงครามกับข้างั้นรึ? นางยังมิคู่ควรหรอก”

ไต้มั่วพยักหน้า “ยายหลิงยังพูดอีกว่า พักนี้นางค่อนข้างมีปัญหาที่นั่น ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด จึงอยากจะขอให้จวิ้นจู่หาที่อยู่อาศัยที่พอจะอยู่รอดได้สักที่หนึ่งเจ้าค่ะ”

จิ่นอวี๋ขมวดคิ้วไม่พอใจเล็กน้อย “ไปบอกนางเสียว่ายามนี้เหลิ่งชิงฮวนอาศัยอยู่ที่บ้านพักบนภูเขา มันเป็นโอกาสทองเสียด้วย นางจะพลาดไปมิได้เป็นอันขาด หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ข้าจะหาทางจัดการให้นางหลบหนีกลับไปที่วังสักระยะหนึ่ง”

ไต้มั่วพูดเสียงเรียบ “ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

จิ่นอวี๋ยิ้มน้อยๆ “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าจะไปดูความสามารถของแม่สาวคนนั้นเสียหน่อย”

ณ เรือนจื่อเถิง

ประตูและหน้าต่างปิดทึบ

ฟังผิ่นจืออดใจรอไม่ไหวแล้ว จึงโอบกอดเหลิ่งชิงหลางเอาไว้

แต่เหลิ่งชิงหลางยกมือขึ้นปราม “หมอหลวงบอกว่า อวัยวะภายในของข้าได้รับความเสียหาย ทารกในครรภ์ยังมิคงที่ กำลังเลี้ยงครรภ์อยู่ เจ้าต้องหยุดกวนข้า มิเช่นนั้น ถ้าลูกข้าเป็นกระไรขึ้นมา แผนของเราสองคนก็จะพังไปด้วย”

ฟังผิ่นจือปล่อยมืออย่างมิเต็มใจนัก “แล้วเมื่อครู่นี้เจ้าจะทำไม้ทำมือยั่วยวนข้าทำไมกัน?”

เหลิ่งชิงหลางยกมือขึ้นมาจิ้มหน้าผากเขา “พอเห็นผู้หญิง เจ้าก็ทำตัวเหมือนหมาบ้า มองไปที่เรือนร่างของนางอย่างอดใจมิไหว ถ้ามิให้หยิกเจ้า แล้วจะให้ข้าไปหยิกใคร?”

“ต่อหน้าจวิ้นจู่จิ่นอวี๋ เจ้าช่างกล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก มิกลัวว่าจะถูกจับได้บ้างรึ? มันมิใช่เรื่องง่ายเลยที่เราสามารถกำจัดจือฉิวออกไปได้”

“ถึงนางจะอยากเห็น แต่ตานางบอดมองมิเห็นแม้แต่แสง จะมีกระไรให้ต้องกลัว? แค่หวังว่าตาของนางจะบอดไปตลอดชีวิต เฉกเช่นเดียวกับของที่ชำรุดผุพังเช่นนี้ มู่หรงฉีแต่งงานกับนางก็คงแปลก วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา ก็เพราะมีเรื่องที่ต้องทำ คิดๆ ดูว่าวันหลังควรจะทำเรื่องอันใดดี? ต้องมีข้อบังคับกันหน่อย”

“ยังจะต้องคิดอีกรึ? เพียงแค่เจ้าให้กำเนิดบุตรชายได้ ตำแหน่งพระชายารองก็จะตกเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน มิแน่ว่าในอนาคตก็อาจจะมีตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีกขั้น มิใช่สิ สองขั้นไปเลย ขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งสูงสุด”

“แล้วถ้าเป็นลูกผู้หญิงล่ะ?” เหลิ่งชิงหลางถาม “กลยุทธ์เช่นเดียวกัน จะสำเร็จได้ภายในคราเดียวเท่านั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา