ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 320

สองข้างทางคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อรถม้าวิ่งเข้ามาในเขตเมือง กลิ่นหอมของซาลาเปาและเกี๊ยว หรือโจ๊กธัญพืชร้อนๆ ที่คุ้นเคยก็ลอยเข้ามา นี่แหละคือกลิ่นแห่งความรุ่งโรจน์ของมวลมนุษยชาติ

เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลา เหลิ่งชิงฮวนจึงลงจากรถม้า โดยตั้งใจว่าจะนำของกินที่เด็กๆ ชอบไปฝากชิงฮว่า แต่แล้วก็กลับบังเอิญได้พบกับเหลิ่งชิงเหยาที่เพิ่งออกมาจากร้านผ้าไหมพร้อมกับสาวใช้ของนาง อีกฝ่ายเมื่อได้พบนางก็ตัดพ้อหาว่านางลำเอียงแล้วบอกว่าจะขอตามไปที่จวนอ๋องด้วย

เหลิ่งชิงฮวนเองก็อยากจะถามไถ่นางเรื่องตระเตรียมสินเดิมว่าไปถึงไหนบ้างแล้ว ดังนั้นจึงส่งสาวใช้กลับไปก่อน แล้วพาเหลิ่งชิงเหยากลับจวนอ๋องด้วยกัน

เหลิ่งชิงฮวนพาเหลิ่งชิงเหยาเข้าไปในจวนก่อนที่น่าจาอี๋นั่วจะมาถึง ในขณะที่นางหันหลังกลับไปเพื่อกำชับสั่งการกับทหารยามหน้าประตู ก็ได้เห็นหญิงสาวสวยตัวสูงโปร่งสวมชุดสาวใช้นางหนึ่งกำลังถือตะกร้าและเดินบิดเอวก้าวขึ้นบันไดหน้าประตูจวนอ๋อง พลางโบกผ้าเช็ดหน้าในมือทักทายพวกทหารอารักขาอย่างกระตือรือร้น

เห็นได้ชัดว่าพวกทหารอารักขาก็คุ้นเคยกับนางเป็นอย่างดี พวกเขาพากันพูดจาหยอกล้อแทะโลม ทั้งยังปล่อยให้นางเข้าไปด้านในโดยไม่ได้ไต่ถามใดๆ เลย

หญิงสาวนางนั้นเอาแต่หันหน้าไปยั่วยวนเหล่าทหารอารักขาจนไม่ได้สนใจด้านหน้าและเกือบจะชนเข้ากับเหลิ่งชิงฮวนแล้ว ยังดีที่เหลิ่งชิงเหยาหยุดนางไว้ได้ทัน

“สาวใช้ที่ใดกัน เหตุใดถึงได้เลินเล่อเช่นนี้ หากชนคนเข้าจะทำเช่นไรเล่า”

หญิงสาวนางนี้ก็คือฟังผิ่นจือที่แต่งตัวเป็นหญิง เมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นเหลิ่งชิงฮวน เขาจำนางได้เพราะเคยเห็นนางจากระยะไกลๆ มาก่อนบ้าง จึงรีบก้มศีรษะลงและย่อตัวทำความเคารพ “พระชายาโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วย”

เหลิ่งชิงฮวนมองเขาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าเป็นสาวใช้ของผู้ใดกัน”

เหลิ่งชิงเหยาพินิจมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความงุนงง “เหตุใดจึงได้คุ้นตานัก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”

ฟังผิ่นจือรู้สึกสะดุ้งในใจ พลางบีบเสียงให้เล็กลง “บ่าวนามว่าเสี่ยวจือ เป็นสาวใช้ในจวนรองเสนาบดี ข้าน้อยรับคำสั่งให้นำของมาส่งให้พระชายารองเจ้าค่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เอะใจ เหลิ่งชิงหลางและจวนสกุลจินเคยไปมาหาสู่กันมาเสมอ การส่งของกำนัลให้แก่กันก็เป็นเรื่องสมควร บางทีอาจจะเคยพบเจอกับเหลิ่งชิงเหยาที่จวนมหาเสนาบดีก็เป็นได้ นางจึงพยักหน้า “ไปเถอะ”

ฟังผิ่นจือรีบก้มศีรษะแล้วสับเท้าไปยังเรือนด้านหลังด้วยความหวั่นวิตก

เหลิ่งชิงเหยามองตามหลังของเขาพลางกะพริบตาปริบๆ “ข้ารู้สึกว่ามันแปลก แต่บอกไม่ได้ว่าที่ใดกัน”

ทันทีได้ยิน โตวโตวและแม่หวังก็รีบออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยความเปรมปรีดิ์ เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกเหนื่อยล้าไม่อยากออกไปไหน จึงให้โตวโตวพาเหลิ่งชิงเหยาเดินเล่นไปรอบๆ

ทว่า แค่ผ่านไปชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย ทหารก็เดินนำน่าจาอี๋นั่วที่มาถึงตรงตามเวลานัดเข้ามาในจวน เพื่อไม่ให้จิ่นอวี๋ทันได้ตั้งตัว เหลิ่งชิงฮวนจึงรีบพานางไปยังเรือนอรุโณทัยทันที

จิ่นอวี๋ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าเหลิ่งชิงฮวนกลับมาถึงจวนอ๋องแล้ว แต่นางไม่คิดว่าเหลิ่งชิงฮวนจะพาคนมาถึงที่พำนักของนาง ตอนที่ไต้มั่วพยุงนางออกมา ยังคงมีผ้าฝ้ายพันอยู่รอบศีรษะของนางชั้นหนึ่ง อย่างน้อยๆ ก็พอจะช่วยบดบังบาดแผลบนศีรษะของนางได้

แม่หวังกระซิบบอกกับเหลิ่งชิงฮวนว่า “ได้ยินว่าท่านอ๋องฉีกลับมาเมื่อคืนนี้ แล้วทำร้ายนางเข้า นางร้องไห้จนถึงกลางดึก แต่กลับไม่ได้ไปฟ้องพระสนมฮุ่ยเฟย”

แน่นอน เพราะนางไม่มีเหตุผลน่ะสิ โดนตีเสียเปล่าเลย

อย่างไรก็ตาม ยายหลิงก็เป็นคนของนาง ในตอนแรกก็เป็นนางที่จงใจปล่อยให้ยายหลิงหนีไป โดยเฉพาะครั้งก่อน เมื่อมู่หรงฉีใช้กลยุทธ์ทุกข์กาย พระสนมฮุ่ยเฟยก็เย็นชากับนาง นางจะมีหน้าไปหาเรื่องลูกชายของพระนางได้อย่างไรกัน

แม้ว่าพระสนมฮุยเฟยจะเลอะเลือนไปบ้าง แต่เวลานี้นางก็ควรจะเข้าใจได้แล้วว่าจวิ้นจู่ผู้ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันกับลูกชายของนางเลย ถูกลูกชายของนางกับสลัดทิ้งไปไกลถึงแปดร้อยแปดพันโยชน์โน่น

มู่หรงฉีผู้นี้ทำดีไม่เอาหน้า รู้จักทำตามตัวอย่างที่ดีแบบเหลยเฟิง เมื่อคืนนี้ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับตนเลยนี่นา

ความขุ่นเคืองที่อัดแน่นอยู่ในใจมาหลายวันได้มลายหายไปโดยไม่รู้ตัว

เหลิ่งชิงฮวนไม่เสียเวลาพูดพร่ำกับจิ่นอวี๋ “ข้าได้เชิญท่านผู้หยั่งรู้มาช่วยจวิ้นจู่จิ่นอวี๋ตามหายายหลิง จำต้องเข้าไปดูที่ห้องของยายหลิงด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา