เหลิ่งชิงฮวนถามโตวโตว ผู้ดูแล และคนอื่นๆ ในเรื่องทั่วๆ ไป ช่วงนี้ตนไม่อยู่จวน จวนคงจะสงบ คำพูดสองสามคำง่ายๆ จัดการเรื่องเล็กๆ น้อย
ทางรองแม่ทัพรีบเดินทางมาหลังจากได้ยินข่าว ชักช้าอืดอาด และกระเถิบมาข้างหน้าด้วยความไม่สบายใจ
เหลิ่งชิงฮวนยกกระโปรงขึ้น วนรอบตัวเขา ทำท่ายกเท้าไปทางเขา ไม่เจอตำแหน่งลงฝีเท้าที่เหมาะสม จึงล้มเลิกไป
ทางรองแม่ทัพหัวเราะ ‘ฮี่ฮี่’ “เรื่องนี้จะโทษผู้ที่ทำตัวฉลาดมิได้ แต่ก่อนลิงกังตัวนั้นก็เคยเข้าออกวังหลวงเพื่อส่งจดหมายให้ท่านอ๋องหลายครา ท่านอ๋องไม่ชอบที่ภายในวังจัดวางกำลังป้องกันไม่แน่นหนาพอ ดังนั้นจึงวางกับดักศัตรูเพิ่ม มิฉะนั้น ลิงของพวกเราคงไม่ถึงขั้นถูกฝ่าบาทจับไว้”
พูดแบบนี้แสดงว่าหัวโจกคือมู่หรงฉีอย่างนั้นหรือ รองแม่ทัพโยนความผิดให้คนอื่นได้ดีทีเดียว
เดิมเหลิ่งชิงฮวนแค่วางมาดเพื่อตบตา ไม่ได้คิดหยุมหยิมเลยแม้แต่น้อย ฮ่องเต้อยากจับความผิดของตนเอง อย่างไรก็หาข้อแก้ตัวได้
ยังเป็นเรื่องสำคัญ
นางสั่งโตวโตวกับคนอื่นๆ ออกไป และให้แม่นมเตียวไปทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อให้ตนเองกิน แล้วจึงปิดประตูห้อง
รองแม่ทัพเกิดอาการประหม่า
“เกิดเรื่องใหญ่อะไรขอรับ เห็นท่านจริงจังแบบนี้ ข้ากลัว”
เหลิ่งชิงฮวนแสดงป้ายอาญาสิทธิ์ต่อหน้ารองแม่ทัพด้วยท่าทางจริงจัง “สืบคดีตามคำสั่งของฮ่องเต้ ดังนั้นเจ้าต้องซื่อสัตย์กับข้า อย่าปิดบัง มิฉะนั้น จะมีความผิดเหมือนหลอกลวงกษัตริย์”
รองแม่ทัพมองป้ายอาญาสิทธิ์ ทำไมถึงคิดว่าเป็นป้ายห้อยเอวเข้าออกธรรมดาล่ะ พระชายาของตนโดนฮ่องเต้หลอกลวงหรือ หรือว่านางกำลังหลอกลวงตนเอง รังแกเด็กซื่อสัตย์ที่ไม่เคยเปิดหูเปิดตาของพวกเราหรือ
เหลิ่งชิงฮวนกระแอมเบาๆ “มู่หรงฉีตรวจสอบองครักษ์อินทรีตลอดใช่หรือไม่”
รองแม่ทัพชะงัก ตามด้วยพยักหน้าด้วยความสบายใจ “ใช่ขอรับ”
“เกี่ยวกับองครักษ์อินทรี พวกเจ้ารู้มากน้อยเพียงใด”
รองแม่ทัพส่ายหัว “เรื่องนี้ท่านอ๋องล้วนจัดการด้วยตัวเอง รวมถึงองครักษ์สัตย์จริงด้วย ดังนั้นจึงผู้น้อยไม่ทราบเลยแม้แต่น้อย”
คำพูดนี้ หากไม่ใช่เพราะวันนั้นพบศพแม่ชีในค่ายทหาร และเขาบุกเข้าไปในตำหนักฉาวเทียนอย่างตื่นตระหนก เหลิ่งชิงฮวนเกือบจะเชื่อเสียแล้ว
นางหยิบหลอดเข็มฉีดยาออกมาจากแขนเสื้ออย่างช้าๆ “เจ้าจะสารภาพเองด้วยความซื่อสัตย์ หรือว่าจะสารภาพด้วยการใช้วิธีลงโทษรุนแรง”
รองแม่ทัพจ้องหลอดเข็มฉีดยาอันนั้น และกลืนน้ำลายลงไปอย่างลำบาก “หากท่านอ๋องกลับมาและเอ่ยปากถาม ท่านต้องรับผิดชอบผู้น้อยโดยบอกว่าข้าโดนบีบบังคับ”
“อย่าพูดเพ้อเจ้อ บอกมา! องครักษ์อินทรีมีภูมิหลังอย่างไรกันแน่”
“อันที่จริง กระหม่อมทราบไม่มากนัก ท่านอ๋องของกระหม่อมจับตาดูองครักษ์อินทรีมาหนึ่งปีกว่าแล้ว แต่อีกฝ่ายลึกลับมาก อยากจับเบาะเล็กน้อยยังยาก”
“จนกระทั่งต้นฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ เพิ่งจะความคืบหน้าที่เป็นสาระสำคัญเล็กน้อย ท่านอ๋องใช่กลยุทธ์ดึงเจ้าสำนักอินทรีทองซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขาออกมา ซ้ำยังเคยประมือกับเขาด้วย แต่น่าเสียดายเขาหลบหนีเสียก่อน อีกฝ่ายปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากอินทรีทองเสมอ ทั้งยังเปลี่ยนเสียงอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นจึงไม่ทราบสถานะของเขาเลย”
“เช่นนั้นมู่หรงฉีพุ่งความสนใจไปที่สำนักแม่ชีหนานซานได้อย่างไร”
รองแม่ทัพแปลกใจเล็กน้อย เหลิ่งชิงฮวนรู้ได้อย่างไร หรือว่าท่านอ๋องเคยสารภาพออกไปตรงๆ แล้ว
“ผู้น้อยทราบเพียงว่า เหมือนว่าสำนักแม่ชีหนานซานจะเป็นจุดติดต่อสื่อสารสำหรับการเดินสายขององครักษ์อินทรีกับคนหนานจ้าว องครักษ์อินทรีปรากฏตัวที่นั่นบ่อยๆ ดังนั้นท่านอ๋องจึงส่งคนไปสอดแนม ปลอมเป็นแม่ชีโกนผมบวช และเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวภายในสำนักแม่ชี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...