ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 355

วันถัดมา เสวยอาหารกลางวันเสร็จ ฝ่าบาทก็ส่งคนมาหาเหลิ่งชิงฮวนและพาไปยังห้องทรงพระอักษร

พอมาถึง เสิ่นหลินเหิงก็อยู่ด้วย

ฝ่าบาททำหน้าขรึม และสั่งเสิ่นหลินเฟิงว่า “บอกผลการตรวจสอบของเมื่อวานให้พระชายาฉีทราบที”

พอเสิ่นหลินเฟิงได้รับคำแนะนำ จึงแสดงสีหน้าเคารพอย่างสุดซึ้งกับเหลิ่งชิงฮวน แต่ทว่า ก็มีความตื่นเต้น

“พอเมื่อวานได้รับคำแนะนำจากพี่สะใภ้ ข้าจึงรีบมาที่กรมข้าราชการข้าราชพลเรือนและกรมทหารเพื่อตรวจสอบรายชื่อขุนนางที่ใต้เท้าทั้งสองคนแนะนำภายในสองปีนี้ พบว่าขุนนางที่พวกเขาเตรียมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนอกเมืองหลวง พอตรวจสอบตามแผนที่ มีความเชื่อมโยงจากเมืองหลวงไปสู่ซีหนานพอดี โดยเฉพาะด่านชายแดนซีหนานกับหนานจ้าว ทั้งหมดแทบจะเป็นคนของพวกเขา”

“ดังนั้นพวกเราจึงมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าพวกเขาสองคนมีความเป็นไปได้มากที่จะขายชาติ สมรู้ร่วมคิดกับหนานจ้าว แอบจัดเตรียมหนอนบ่อนไส้ และให้หนานจ้าวจู่โจมฉางอันของข้า”

คำพูดของเสิ่นหลินเฟิง ทำให้หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนสั่นสะท้านทันที

บนโลกใบนี้มีคำคำหนึ่ง เรียกว่าตีเบี้ยวกลับตีถูก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นจริง ตนแค่คาดเดาอย่างควบม้าสวรรค์ทะยานฟ้า อยากนำคดีความนี้ขึ้นมาวิเคราะห์การต่อสู้ทางชนชั้นกับการต่อสู้ทางการเมืองระกับสูง จึงโยนความผิดให้องครักษ์อินทรี แบบนี้ ฝ่าบาทต้องอยากกวาดล้างองครักษ์อินทรี จึงซักถามนางเกี่ยวเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับองครักษ์อินทรี

ตนก็จะบอกว่าไม่ทราบได้อย่างมีเหตุผล หรือมู่หรงฉีอาจจะทราบเล็กน้อย ฮ่องเต้ก็จะสั่งย้ายมู่หรงฉีกลับเมืองหลวงตามขั้นตอนแล้ว

แต่ทว่า ใครบอกข้าได้บ้าง ว่าการตีเบี้ยงกลับตีถูกมันเกี่ยวข้องกับคดีขายชาติได้อย่างไร อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับหนานจ้าวด้วย

เช่นนั้นฮ่องเต้พาข้ามาทำอะไร

ฮ้องแต่เห็นนางทำหน้าประหลาดใจ “ข้าคิดว่าพระชายาฉีน่าจะมีความคิดเห็นที่ปราดเปรื่องกับคดีนี้”

ไม่มี ไม่มีจริงๆ ข้าเป็นแค่แมวตาบอดเจอหนูตาย เพื่อสนองเจตนาส่วนตัวเท่านั้นจริงๆ

นางปกปิดความประหมาของตนเองไม่ได้เลยสักนิด นางกล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า “หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่รู้ว่าจะร้ายแรงเช่นนี้ หม่อมฉัน หม่อมฉันแค่พูดออกมาโดยไม่คิด”

“แล้วเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์อินทรี เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนแกล้งมึนงงต่อไป “เรื่ององครักษ์อินทรี ข้าแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น คดีนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับองครักษ์อินทรีจริงๆ”

“ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ แคว้นของข้าไม่สามารถทนต่อมอดแบบนี้ได้ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าบีบบีงคับขุนนางและประชาราษฎร์ของข้า ไม่รู้ว่าแอบทำเรื่องชั่วๆ ลับหลังมาเท่าไหร่แล้ว! สองคนนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ปรากฏให้เห็น เมื่อเจ้ากับฉีเอ๋อร์รู้ถึงการมีอยู่ขององครักษ์อินทรี ทำไมถึงไม่รายงานรายละเอียด”

จบเห่ สร้างปัญหาอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง อยู่ต่อหน้าจิ้งจอกเฒ่าอย่างฮ่องเต้ตนไม่สามารถแสร้งทำเป็นฉลาดได้ ความคิดของเขาละเอียดรอบคอบ วงจรสมองแตกต่างกัน อาจจะจับจุดอ่อนของเจ้าได้

“เสด็จพ่อทรงงานยุ่ง หากไม่มีเรื่องสำคัญจะกล้ารบกวนท่านได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้น เรื่องนี้ท่านอ๋องไม่กล้าหละหลวมแม้แต่น้อย ตรวจสอบไปตามเบาะแสอย่างละเอียดมาโดยตลอด ส่วนรายละเอียดเฉพาะเจาะจงหม่อมฉันไม่ชัดเจนนัก แค่ได้ยินคนอื่นพูดแบบนี้เป็นบางครั้งบางคราว จึงคาดเดาอย่างฉาบฉวย”

“เจ้าบอกว่าฉีเอ๋อร์ตรวจสอบเรื่องนี้มาโดยตลอด

“คงเป็นเช่นนั้นเพคะ แต่องครักษ์อินทรีลึกลับเกินไป ยามมาไร้เงายามไปไร้ร่องรอย มีเบาะแสเท่าไหร่คงจะมีแค่ท่านอ๋องเท่านั้นที่รู้”

ฮ่องเต้ชี้จมูกเหลิ่งชิงฮวน หลังจากชี้อยู่นาน ก็กลืนคำพูดลงไป

เหลิ่งชิงฮวนรู้ดีว่าสิ่งที่เขากลืนลงไปคือคำว่าอะไร เขาคาดเดาวัตถุประสงค์ของตนเองได้แล้ว ต้องการยืมโอกาสนี้เรียกมู่หรงฉีกลับเมืองหลวง ดังนั้น เขาจึงไม่ยินยอม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา