ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 365

สองสามวันต่อมา องค์ชายแห่งมั่วเป่ยในตำนานได้เข้าสู่เมืองหลวงแล้ว ผู้ที่รับผิดชอบในการออกมาต้อนรับก็คืออ๋องเฮ่า

อ๋องเฮ่าเป็นคนรอบรู้ เป็นบุรุษผู้มีรูปลักษณ์สดใส นิสัยอ่อนโยน ฮ่องเต้นั้นช่างเก่งเรื่องการใช้ประโยชน์จากคนและสิ่งของเป็นที่สุด หากปล่อยให้มู่หรงฉีรองรับทูตด้วยใบหน้าที่เป็นอัมพาตครึ่งซีก เกรงว่าพูดได้มิกี่คำจะทำให้เขากลับมั่วเป่ยไป

กับญาติพี่น้องก็ยังมิได้ตัดสินใจ มิมีผู้ใดรู้ว่าฮ่องเต้กำลังคิดอันใดอยู่ ตรงข้างๆ เข่าก็มีเหล่านางสนมขององค์หญิงต่างอกสั่นขวัญหาย มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทำให้ตกอกตกใจ องค์หญิงสองสามท่านที่มิได้ออกมาจากในวังก็รู้สึกราวกับมีมีดมาจ่อที่คอ เกรงว่าตนจะถูกองค์ชายเห็นและตกหลุมรักเข้าโดยมิทันระวัง อยากพากลับไปแต่งงานกลายเป็นพระชายา

พวกนางก็มิรู้เช่นกันว่าได้ยินใครพูดมาจากที่ใด พูดคุยกันอย่างออกรส และมั่วเป่ยก็ได้รับการกล่าวขานว่าน่ากลัวเป็นอย่างมาก

พวกนางพูดว่ามั่วเป่ยมีพายุทรายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง สามารถสร้างกองภูเขาได้ภายในชั่วพริบตาและฝังคนทั้งเป็น ยังว่ากันว่าสตรีที่มั่วเป่ยปีหนึ่งจะอาบน้ำสักหนหนึ่งก็ยังทำมิได้ เนื่องจากที่นั่นเป็นประเทศที่ขาดแคลนน้ำมากที่สุด ยังพูดอีกว่าประเพณีที่นั่นช่างเข้มงวด ชายที่มีครอบครัวยากจนมิสามารถแต่งงานมีภรรยาได้ มักจะใช้ภรรยาคนเดียวกับพี่น้องครอบครัวเดียวกัน

คนจำนวนมากสีหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินจิ่นอวี๋พูด มั่วเป่ยก็ยิ่งเป็นสิ่งที่มิน่าสนใจ คิดหาข้อบกพร่องของตนเองจนสมองแทบแตก อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น พลาดไปกระแทกเชิงเทียนบนโต๊ะล้ม จนไฟไหม้ผ้าปูโต๊ะ หรือ เดินแล้วขาข้างหนึ่งลื่นลงไปในบ่อน้ำที่ไกลแปดฟุต เห็นได้ชัดเจนว่านางแสดงความไร้หนทางและไร้ประโยชน์ตลอดเวลา

หากตนจะฆ่าตัวตาย ใครก็ห้ามมิได้เช่นกัน ทำให้นางกำนัลที่คอยรับใช้อยู่ใกล้ตัวนางต้องเดือดร้อน ถูกเฆี่ยนตี มีคนส่งเสียงมิพอใจ

ครั้งหนึ่งฮ่องเต้สั่งให้บรรดาหมอหลวงตรวจดวงตาของนางอย่างละเอียด มิมีผู้ใดบอกได้ว่าเพราะเหตุใด และหมดปัญญาสู้ไปโดยปริยาย

เหลิ่งชิงฮวนรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ ดวงตาของจิ่นอวี๋มิดีมาสักระยะหนึ่งแล้ว ฮ่องเต้คงมิสามารถให้จวิ้นจู่ตาบอดออกเรือนไปมั่วเป่ยได้ใช่หรือไม่? จะแตกคอกับองค์ชายแห่งมั่วเป่ยที่นี่มิได้?

เหลิ่งชิงฮวนชอบช่วยเหลือผู้คน แต่จิ่นอวี๋ก็ระแวดระวังนางเป็นอย่างมาก มิให้นางเข้ามาใกล้ตนเองในระยะสามฟุต และปฏิเสธ “การรักษาที่ดี” ของนางอย่างตรงไปตรงมา

เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย เหลิ่งชิงฮวนจึงมิได้เข้าไปใกล้นาง แต่เมื่ออาศัยอยู่ในลานบ้าน มักจะได้ยินเสียงนางร้องไห้สะอึกสะอื้น เหมือนมีผีผู้หญิงสิงอยู่ และมิรู้เช่นกันว่าฮุ่ยเฟยจะใจอ่อนด้วยการร้องไห้หรือไม่

ต่อมาก็ได้ยินข่าวมาจากนางกำนัลที่รับใช้อยู่ใกล้ฮุ่ยเฟย ว่ากันว่าจิ่นอวี๋ดูเหมือนจะตกลงเลือกสามีอย่างหมดหนทาง

นี่เป็นเพราะความฉลาดของชายชราผู้เป็นฮ่องเต้ หากมิทำให้นางตกใจกลัว เกรงว่าจะไร้ยางอายเกินไปหากมิแต่งงาน

เหลิ่งชิงฮวนถามนางกำนัลว่า “องค์ชายของเจ้าเคยขอให้ฝ่าบาทจัดงานแต่งงานพระราชทานแล้วรึ กำหนดวันแต่งงานไว้หรือยัง”

นางกำนัลส่ายหน้า “ยังมิได้ผูกดวงชะตาเพคะ ตอนนี้องค์ชายทั้งสองมิได้อยู่ในเมืองหลวง พระสนมฮุ่ยเฟยต้องการที่จะเห็นหน้าด้วยตาตนเอง เพื่อความสบายใจ เทียวไปเทียวมาเกรงว่าคงจะเร็วเกินไป”

เกรงว่านี่จะเป็นแผนถ่วงเวลาใช่หรือไม่?

องค์ชายแห่งมั่วเป่ยเข้าสู่เมืองหลวงแล้ว พิธีเสกสมรสกระชั้นชิดเข้ามา รอจนผู้ที่ฮ่องเต้เลือกให้แต่งงานมาถึง อาจจะลอบทำอันใดแผลงๆ อยู่เบื้องหลังจิ่นอวี๋ก็เป็นได้

เจ้าบอกว่าส่งไป นั่นมันเป็นการช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ ปล่อยให้จิ่นอวี๋ทำลายลูกหลานที่ดีของตระกูล

แต่ถ้าหากมิสนใจ พลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ไป หันหลังกลับมาก็ยังเหลือหายนะให้ตนอยู่ดี

มิเช่นนั้น หากไปเพิ่มไฟอยู่ใกล้ๆ ฮุ่ยเฟย ถือโอกาสตีช่วงที่เหล็กกำลังร้อนให้จิ่นอวี๋ออกเรือนไป ท้ายที่สุดแล้ว มิใช่ว่าองค์ชายแห่งมั่วเป่ยจะพิจารณาได้ดี การคัดเลือกบุคคลมาเป็นน้องเขยเป็นสิ่งที่ดีระดับหนึ่ง

เหลิ่งชิงฮวนยังมิได้ตัดสินใจ ลี่ว์อู๋มาถึงหน้าประตูด้วยใบหน้าระทมทุกข์ เมื่อเห็นนางร้องห่มร้องไห้ นางก็ตกใจขึ้นมา

“เป็นกระไรไป มีใครแย่งน่องไก่ท่านไปรึ?”

ลี่ว์อู๋เม้มปาก “ข้าจะมาบอกลาเจ้า”

“ท่านจะไปไหนรึ?”

“ข้าอยากหนีออกจากวังไปให้ไกลๆ ”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหน้าอย่างจริงจัง “เกรงว่ามันจะยาก เป้าหมายของท่านมันค่อนข้างชัดเจน”

ลี่ว์อู๋สูดจมูก “มันก็ดีกว่าการออกเรือนไปอยู่มั่วเป่ย”

เหลิ่งชิงฮวนประหลาดใจเล็กน้อย “เมื่อวานท่านยังมิคิดกระไรมากเลย มันมิง่ายเลยนะที่เสด็จพ่อเลี้ยงเจ้าโตมาเช่นนี้ ลูกสาวคนเดียวอย่างท่านสามารถรับผู้อื่นได้ตั้งสองสามคน เสด็จพ่อคงมิทำเรื่องขาดทุนหรอกใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา