ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 383

เมื่อกลับมายังจวนท่านอ๋องได้ไม่นานนักก็มีคนวิ่งเข้ามารายงาน มีคนจากจวนมหาเสนาบดีไปที่นั่น เธอเดาว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อและพี่ชายของเธอเอง

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาเพิ่งเจอกันที่งานเลี้ยงในวังเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ แล้วจะมาที่นี่อีกทำไม

เธอลุกขึ้นเพื่อออกไปต้อนรับ ทว่าเกือบจะชนเข้ากับใครบางคนที่พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ต้องขอบคุณแม่หวังที่เดินตามหลังดึงแขนเธอไว้ ทำให้ไม่ชนกับอีกฝ่ายจนล้มลงกับพื้น

ขณะที่แม่หวังกำลังจะตะโกนว่า เมื่อได้เห็นใกล้ๆจึงโพล่งออกมาอย่างประหลาดใจ “คุณหนูสาม?”

คนที่มาคือเหลิ่งชิงเหยา นางวิ่งมาอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้าตัวของเหลิ่งชิงฮวน “พี่ใหญ่ กลับไปที่จวนมหาเสนาบดีกับข้าหน่อยได้ไหม”

“เกิดอะไรขึ้น” เหลิ่งชิงฮวนถามกลับ

“ตอนที่ท่านพ่อกลับมาจากงานเลี้ยงในวังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บังคับใช้กฎครอบครัวกับท่านพี่ในห้องโถงบรรพบุรุษ ข้ากับแม่ช่วยหยุดไว้ไม่ได้ หลังจากนั้นท่านพ่อก็โกรธมากจนหน้ามือล้มป่วย นอนอยู่บนเตียงลุกไม่ขึ้น” พ่อของเธอเป็นโรคความดันโลหิตสูง เหลิ่งชิงฮวนเคยตรวจร่างกายเขาเมื่อนานมาแล้ว และได้จ่ายยาลดความดันโลหิต กำชับให้เขากินยาตามกำหนดเวลาและห้ามโกรธ พยายามอารมณ์ดีเข้าไว้ วันนี้ความดันเลือดของเขาต้องพุ่งสูงขึ้นแน่ๆ

แล้วทำไมเขาถึงโกรธท่านพี่ขนาดนั้น

ท่านพี่มักจะปฏิบัติตามกฎเสมอและยังเป็นดาวเด่นในราชสำนัก พ่อภูมิใจในตัวเขามากโดยตลอด คนอย่างเขาจะสร้างปัญหาอะไรให้พ่อ

ครั้งล่าสุดที่เหลิ่งชิงเจียวก่อเรื่อง อย่างมากท่านพ่อก็แค่เตะเขาไปหนึ่งครั้ง

อีกอย่างงานเลี้ยงในวังเมื่อครู่ยังดูปกติดี สองพ่อลูกพูดคุยหัวเราะกันจนคนอื่นอิจฉา

ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อคิดดังนั้น เธอก็ไม่รอช้ารีบตามเหลิ่งชิงเหยากลับไปที่จวนมหาเสนาบดีทันที

อีกฝั่งในสนามหน้าจวน เซวียอี๋เหนียงกำลังเฝ้าอยู่ข้างนอก เมื่อนางเห็นเหลิ่งชิงฮวนจึงโบกมือและกระซิบเสียงเบาว่า “ยังโกรธอยู่เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเตียงเป็นเวลานานแล้ว ไม่เห็นมีท่าทีว่าจะหายโกรธเลย”

มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ

เหลิ่งชิงฮวนยกม่านและเดินเข้าไปด้านใน เสนาบดีเหลิ่งกำลังนอนหันหลังอยู่บนเตียง โดยมีเหลิ่งชิงเฮ่อนั่งคุกเข่าตัวตรงอยู่หน้าเตียง เขาหันหน้าไปมองเหลิ่งชิงฮวนเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง

เสื้อผ้าที่ใส่ในตอนเข้าสู่ฤดูหนาวนั้นค่อนข้างหนา จึงไม่อาจบอกได้ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ แต่บนใบหน้าของเขามีรอยฟกช้ำ 2 แห่งซึ่งทำให้เขาเสียโฉม นั่นไม่ใช่รอยตบแต่เป็นรอยจากการชกด้วยหมัดเต็มๆ

ใจร้ายมาก กล้าทำถึงขนาดนั้น

ทำอย่างกับว่าเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง

เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้าไปพร้อมกับเอ่ยปากเรียก “ท่านพ่อ”

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่” เสนาบดีเหลิ่งยังคงหันหลังด้วยความโกรธ

ยังไม่หายโกรธสินะก็เลยพาลมาโกรธฉันอีกคน

เหลิ่งชิงฮวนผลักเขาเบาๆ “อายุปูนนี้แล้ว ใกล้จะได้เป็นท่านตา ทำไมถึงยังโกรธเป็นเด็กๆ ไปได้ มีอะไรทำไมถึงไม่พูดคุยกันดีๆ หันกลับมาเร็ว ข้าจะตรวจอาการให้ท่านเสียหน่อย”

“ข้าไม่ได้ป่วย!” เสนาบดีเหลิ่งผลักกลับด้วยความโกรธ “พี่ชายของเจ้าต่างหากที่ไม่คู่ควร”

“คนอื่นโกรธมากแค่ไหนมันก็เป็นแค่ความโกรธ แต่ท่านทำแบบนั้นไม่ได้! ท่านความดันโลหิตคุณสูง เลือดพุ่งขึ้นไปบนหัว หากเส้นเลือดในสมองแตกหรืออุดตันจะแย่เอา ถึงเวลานั้นท่านจะเป็นอัมพาตครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดอ้อแอ้ น้ำลายไหลตลอดเวลา ทะเลาะกับใครก็ไม่มีวันชนะ”

ประโยคนั้นดูเหมือนจะเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเสนาบดีเหลิ่งเต็มๆ เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งพลางและทุบเตียงอย่างแรง “” ทะเลาะ? มีอะไรให้ทะเลาะ วันนี้ข้าถูกเจ้าดูหมิ่นจนแทบไม่มีอะไรเหลือแล้วข้าไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณลูกชายไม่รักดีอย่างมัน!”

เมื่อด่าจนหนำใจ เขาก็รู้สึกเวียนหัวอีกครั้งก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง จ้องมองเพดานด้วยสายตาราวกับกำลังรอความตาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เหลิ่งชิงฮวนเห็นพ่อของเธอโกรธจัด เขาดูเหมือนกบที่นอนหงายท้อง เธออยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้า ก่อนจะรีบวัดความดันโลหิต ตรวจหัวใจ หยิบยาออกมาให้เขากิน ลูบเขาด้วยความนุ่มนวล จากนั้นจึงถามอย่างระมัดระวัง “ท่านทะเลาะกับนายพลฉู่อีกแล้วหรือ”

เสนาบดีเหลิ่งสูดหายใจเข้าออกยาวๆ “อย่ามาถามข้า ได้ยินคำถามแบบนี้แล้วเวียนหัว ไปถามเขานู่นว่าทำเรื่องผิดศีลธรรมอะไรไว้”

ก่อกรรมทำเข็ญจริง ๆนั่นแหละ แต่ก็ทำดีกับบรรดาลูกไว้ไม่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา