ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 384

“นายพลใหญ่ฉู่รักฉู่รั่วซีดั่งแก้วตาดวงใจไม่ใช่หรือ คงจะหาลูกเขยที่น่าพอใจในเมืองหลวงไม่ได้ แต่ทำไมต้องถึงขั้นส่งนางเข้าวังด้วย”

เหลิ่งชิงเฮ่อถอนหายใจเบา ๆ “เพราะท่านพ่อเป็นคนก่อเรื่องน่ะสิ ทั้งเจ้าและชิงเหยาต่างก็แต่งงานเข้าพระราชวัง ท่านพ่อคงจะไปพูดจาโอ้อวดต่อหน้านายพลใหญ่ ฉู่รั่วซียังเด็ก ไม่ยอมแต่งงานมา แต่ใครจะรู้ว่านายพลฉู่จะกล้าเอาชนะโดยการส่งนางเข้าวังในฐานะพระสนม แบบนี้เขาจะได้มีตำแหน่งที่สูงกว่าท่านพ่ออีกด้วย”

หลังจากฟังจบ เหลิ่งชิงฮวนก็พูดไม่ออก เธอเคยได้ยินคนอื่นพูดกันว่ายิ่งแก่ยิ่งเหมือนเด็ก ทั้งพ่อของเธอและนายพลฉู่นี่แหละถือเป็นตัวอย่างของคำพูดนั้นโดยชัดเจน

“แล้วอย่างไรต่อ”

“แน่นอนว่าฉู่รั่วซีปฏิเสธที่จะเข้าวัง นางขอให้ใครบางคนนำจดหมายมาส่งให้พี่โดยบอกว่าอยากจะนัดเจอ แต่พี่ไม่ได้ไปตามนัด”

พี่ชายคนโตของเธอเป็นแค่ท่อนไม้ ทำเป็นเพียงแต่กตัญญูและทำตามที่พ่อบอก

“ดังนั้นฉู่รั่วซีก็เลยสาดโคลนใส่ท่านหรือ”

เหลิ่งชิงเฮ่อพยักหน้า “วันนี้ตอนเดินทางกลับจากวัง นายพลฉู่มาขวางขบวนของท่านพ่อระหว่างทาง จากนั้นก็ต่อยพี่โดยไม่พูดอะไรสักคำ โชคดีที่คุณชายตระกูลฉู่ทั้งสองมาห้ามไว้ ท่านพ่อโต้เถียงกับเขา จนกระทั่งเขาชี้หน้าด่าพี่ว่าทำลายชื่อเสียงของลูกสาวเขาและจะเอาชีวิตพี่ให้ได้

แน่นอนว่าท่านพ่อไม่เชื่อ บอกว่าลูกสาวของเขาขายไม่ออกจึงจะผลักภาระนั้นมาให้กับพี่ นายพลฉู่โต้กลับว่าฉู่รั่วซีเป็นคนยอมรับด้วยตัวเอง ตอนนั้นพี่ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่สามารถปฏิเสธได้จึงทำให้ท่านพ่อต้องขายหน้า”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหลิ่งชิงฮวนก็เข้าใจทันที

ฉู่รั่วซีชอบพี่ชายของเธอ แต่พี่ชายไม่อยากยอมรับฉู่รั่วซีเพราะความบาดหมางของพ่อกับนายพลฉู่ จึงไม่สนใจความรักและความชื่นชมที่นางมีให้

ฉู่รั่วซีไม่เข้าใจได้ว่าพี่ชายของเธอคิดอะไรอยู่และไม่ต้องการเข้าวัง ตอนแรกนางรวบรวมความกล้าเพื่อถามพี่ชาย แต่พี่ชายของเธอกลับไม่รู้

บวกกับการบีบบังคับของนายพลฉู่ ทำให้นางรีบโกหกและพยายามบังคับให้เหลิ่งชิงเฮ่อตัดสินใจ

แต่นายพลฉู่เป็นคนอารมณ์ร้ายแต่เดิม ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจและโต้เถียงกันริมถนน หากพี่ชายของเธอปฏิเสธที่จะยอมรับในตอนนั้น ท่านพ่อของเธอคงเยาะเย้ยเขาและไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนายพลฉู่ที่ต้องเสียหน้า แต่ชื่อเสียงของฉู่รั่วซีจะถูกทำลายจนย่อยยับ ไม่ต้องพูดถึงการเข้าวัง แม้แต่การแต่งงานก็ยาก

แต่ทำไมเขาไม่คิดว่าการที่ยอมรับแบบนี้ก็เป็นการทำลายชื่อเสียงของนางเช่นกัน นอกจากต้องแต่งงานกับเขาแล้วจะหนทางไหนอีก

หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนสั่นไหว ลึกๆ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ท่านสงสารนาง ไม่อยากให้นางเข้าวังหรือ”

เหลิ่งชิงเฮ่อชะงักไปครู่หนึ่ง “เปล่า ไม่มีอะไรมากหรอก พี่แค่รู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะท่านพ่อ ทำให้รู้สึกผิดและทำอะไรไม่ถูก”

เหลิ่งชิงฮวนพูดอย่างจริงจัง “ข้าคงจะไม่วิจารณ์เกี่ยวกับนิสัยสวยตัวของฉู่รั่วซีหรอก เพราะว่าไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่หญิงคนหนึ่งที่สามารถกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ ถึงขั้นแบกหน้ามาขอร้องท่าน หากท่านรู้สึกดีกับนางอยู่บ้างก็ลองทบทวนดู อย่าได้ตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบจนทำให้ตนเองต้องเสียใจในอนาคต”

“ท่านพ่อกับนายพลฉู่คงไม่เห็นด้วย นายพลฉู่บอกว่าเขายอมให้ลูกสาวอยู่บ้านไม่แต่งงานดีกว่ายกลูกสาวให้พวกเรา” เหลิ่งชิงเฮ่อกล่าวอย่างจริงจัง

“ท่านเด็ดขาดและโปร่งใสในเรื่องอื่นเสมอ แต่ทำไมถึงไม่มีความกล้าในเรื่องของตัวเองเลยล่ะ ไม่ต้องกังวล ท่านพ่อน่ะร่างกายแข็งแรงมาก ขนาดเสด็จพ่อของข้าแกขนาดนั้นยังแข็งแรง ท่านพ่อเองก็คงเหมือนกัน หากเขาไม่ต้องการท่านแล้ว อย่างมากก็แค่มีลูกอีกคนที่เชื่อฟังกว่าท่าน”

เธอพูดติดตลกในขณะคุยเรื่องจริงจัง เหลิ่งชิงเฮ่อไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ก้มหน้าลงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“จะเอาอย่างไรท่านก็พูดมา” เหลิ่งชิงฮวนเร่งเร้า “หากท่านตกลง ข้าจะเข้าวังวันพรุ่งนี้ไปคุยกับเสด็จพ่อ ข้าเชื่อว่าเสด็จพ่อไม่อยากเห็นนายพลหมางเมินแบบนี้ไปตลอด หากพระองค์สนใจฉู่รั่วซี อยากได้นางเป็นพระสนมอีกคน งั้นก็ถือว่าข้าไม่เคยพูดแล้วกัน”

หลังจากถูกกดดันเป็นเวลานาน เหลิ่งชิงเฮ่อก็เข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้จนได้ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ “ก็ดี”

ระหว่างท่านพี่กับฉู่รั่วซีต้องมีบางอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นหญิงสาวจะยอมทำลายชื่อเสียงตัวเองแบบนี้ได้อย่างไร

ไม่ธรรมดา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา