เมื่อนายพลฉู่ได้ระบายความโกรธออกมามากพอ เขาก็เก็บดาบกลับเข้าฝัก หันกลับมาด้วยสีหน้ามืดมนพร้อมกับเดินออกไปด้วยความโกรธ
เสนาบดีเหลิ่งรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายสิ่งของที่เพิ่งถูกทำลายไป แต่การได้เห็นนายพลฉู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟนั้นทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจยิ่ง
ชิงฮวนพูดถูก จุดสูงสุดของการทะเลาะไม่ใช่ความสะใจในเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นการได้อยู่เหนืออีกฝ่ายอย่างสงบนิ่งเช่นนี้ต่างหาก
เขาสั่งคนรับใช้อย่างใจเย็น “เอากระดาษมาจดสิ่งที่นายพลฉู่เพิ่งทำลายไป เราจะได้ชำระบัญชีกันในภายหลัง”
จากนั้นเขาก็ตบไหล่ของเหลิ่งชิงเฮ่อที่ตามมาทีหลังอย่างจริงจัง “ดูสิ ดูพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่งของพ่อตาเฒ่าของเจ้า ตระกูลฉู่น่ะยังมีลุงป้าน้าอาและพี่ชายอีกหลายคนนัก นับจากนี้เป็นต้นไปพ่อจะส่งเจ้าไปร่ำเรียนวิชาการต่อสู้ที่วัดเส้าหลินดีหรือไม่”
เขาพูดอย่างอารมณ์ดีหลังจากเอาชนะนายพลฉู่ได้และยังเล่นมุกตลกอีกด้วย
เหลิ่งชิงเฮ่อได้แต่ฝืนยิ้มตอบ
เขาไม่กลัวถูกทำร้าย แต่สิ่งที่เขากลัวก็คือ หากในอนาคตชายชราสองคนนี้เกิดทะเลาะกันขึ้นมา แล้วเขาจะช่วยใคร
นายพลฉู่ไปจวนมหาเสนาบดีโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อเขากลับไปที่จวนตนเอง เขาก็เอนกายลงบนเตียงและล้มป่วยด้วยความโกรธ
เขาอยู่ในสนามรบมาหลายปี แม้ว่าเขาจะแก่แต่ยังแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย ตอนนี้กลับใจร้อนดั่งไฟ ลุกไปเข้าราชสำนักไม่ได้ด้วยซ้ำ
นั่นทำให้เสนาบดีเหลิ่งมีความสุขมาก กินข้าวเพิ่มเป็นสองชามในมื้อเดียว
คนกลุ่มหนึ่งยืนล้อมรอบเตียงของนายพลฉู่เพื่อเกลี้ยกล่อมเขา ทว่ายิ่งเกลี้ยกล่อมแค่ไหนก็ไร้ผล
ฉู่รั่วซีรู้ว่าพ่อโกรธนางมาก ดังนั้นจึงไม่กล้ายุ่งวุ่นวายอีก ได้แต่ยกชาและน้ำมาให้อย่างเงียบๆ
นายพลฉู่มองไข่มุกมือแล้วน้ำตาไหล “รั่วซี ฟังพ่อนะ พ่อจะไม่บังคับเจ้าเข้าวังอีกต่อไป พ่อจะหาคนดีๆ ในค่ายทหารให้เจ้าสักคนดีหรือไม่”
ฉู่รั่วซีรู้สึกเสียใจจนหลั่งน้ำตาและก้มหน้าลง “ข้าไม่อยากเป็นเหมือนท่านแม่ ที่ต้องกังวลจนนอนไม่หลับทุกครั้งที่ท่านไปสนามรบ”
นายพลฉู่รู้สึกผิดต่อลูกสาวมาก “แล้วเจ้าปรารถนาสิ่งใดงั้นหรือ”
“คนแบบเหลิ่งชิงเฮ่อ”
“เจ้าจงใจทำให้ข้าโกรธ แค่กๆ ออกไป!”
“เขาไม่ดีตรงไหนหรือ”
“ไอ้เฒ่าเหลิ่งจะเลี้ยงลูกให้ได้ดีได้อย่างไร เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนั้นเขาได้รับอำนาจและทอดทิ้งลูกเมียตัวเอง พ่อเป็นอย่างไรลูกก็เป็นอย่างนั้น”
“หากเขากล้าทำแบบนั้นจริง ลูกจะไม่ให้วิชาการต่อสู้ที่เรียนมาเปล่าประโยชน์”
“เจ้าเด็กโง่ เขากำลังจะมีเมียใหม่แล้ว!”
“ถึงจะเป็นแค่นางบำเรอ ข้าก็จะแต่งงานกับเขา”
นายพลฉู่โกรธมาก คนบริเวณนั้นจึงรีบลากฉู่รั่วซีออกไป
ฉู่รั่วซีไปร้องไห้ต่อหน้าแม่ เมื่อร้องไห้จนพอใจ นางจึงไปร้องไห้กับพี่ชายและพี่สะใภ้ต่อจนทุกคนในบ้านรู้สึกว่าเหมือนได้ยินเสียงร้องไห้ก้องดังอยู่ในหูตลอดเวลาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นจึงคิดว่าหากนางแต่งงานกับนักปราชญ์มากความสามารถเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...