ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 402

สรุปบท ตอนที่ 402 ปกป้องภรรยาอย่างไม่มีขีดจำกัด: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 402 ปกป้องภรรยาอย่างไม่มีขีดจำกัด จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 402 ปกป้องภรรยาอย่างไม่มีขีดจำกัด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

มู่หรงฉียกมือขึ้นสูงแล้วปรบมือเสียงดังอยู่นาน และไม่กล้าที่จะหยุดลงมันดีเสียจนหลอดลมแทบอักเสบ

องค์ชายอันต๋าที่อยู่ด้านข้างก็ทำตัวไม่ถูก จะเตือนก็ไม่ได้ ไม่เตือนก็ไม่ได้

“ไม่กี่วันมานี้ข้าได้พักอยู่ที่จวนอ๋องและได้รบกวนมากมายจนทำให้พระชายาไม่สะดวก ที่จริงแล้ววันนี้ข้ายินดีที่จะขอลากับท่านอ๋องฉี”

มู่หรงฉีตกใจ “เหตุใดจึงได้กะทันหันเช่นนี้ ท่านอย่าไปฟังที่หญิงปากจัดคนนี้พูดไร้สาระ เหลิ่งชิงฮวนยังไม่รีบขอโทษองค์ชายอีก”

เสียงร้องไห้อาละวาดของเหลิ่งชิงฮวนหยุดลงทันที

องค์ชายอันต๋ากระแอมออกมาเบาๆอย่างเขินอาย “เมื่อวานนี้มั่วเป่ยได้ส่งจดหมายมาบอกว่าพายุหิมะลูกแรกอาจมาเร็วให้ข้ารีบกลับไปที่มั่วเป่ยเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเดินทางในอนาคต”

มู่หรงฉีรู้สึกเสียใจมาก “พบคนรู้ใจดื่มกันพันจอกยังว่าน้อย ยากนักที่จะได้พบคนใจตรงกัน ข้ากับท่านยังไม่เสร็จกัน”

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ไม่ร้องไห้แล้ว เธอเช็ดน้ำตาแล้วลุกยืนขึ้น และพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ตายจริง เรื่องในจวนนั้นวุ่นวายมาก สินสอดทองหมั้นของจิ่นอวี๋ยังเตรียมไม่เสร็จเลย”

องค์ชายอันต๋าโบกปัดอย่างไม่ใส่ใจ “องค์หญิงจิ่นอวี๋แต่งให้กับข้าที่มั่วเป่ย นางต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแน่ นางะจะไม่ได้รับความลำบากแม้เพียงสักนิด พระชายาฉีอย่าได้เกรงใจไป น้ำใจนี้ข้าจะรับไว้”

เหลิ่งชิงฮวนรีบปีนขึ้นไปด้านบนทันที “งั้นต้องขออภัยแล้วเพคะ”

องค์ชายอันต๋ายกมือขึ้น “เป็นข้าที่ไม่ดีเองที่รบกวนพระชายามานาน”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มแห้ง “เมื่อครู่นี้หม่อมฉันไม่ได้มีเจตาจะทะเลาะกับท่าน ที่จริงแล้วหม่อมฉันโมโหเลยใจร้อนไปหน่อยจึงได้พูดจาไม่ดีออกไป”

“พระชายาฉีอย่าเกรงใจไป ข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย ข้าขอเชิญท่านกับท่านอ๋องฉีอย่างจริงใจว่าหากมีโอกาสก็ไปที่มั่วเป่ยสักครั้ง ให้ข้าได้ใช้บ้านเกิดของข้าเป็นสถานที่แห่งมิตรภาพ”

เหลิ่งชิงฮวนลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก การเชิญเทพเจ้ามาเป็นเรื่องง่ายแต่การให้เทพกลับไปนั้นเป็นเรื่องยาก ในที่สุดองค์ชายอันต๋าผู้นี้ก็ยกมือของเขาขึ้นและปล่อยเธอกับมู่หรงฉีไป ไม่ง่ายเลยจริงๆ

บางครั้งน้ำตาของผู้หญิงนั้นมีอานุภาพมหาศาล

วันถัดมาองค์ชายอันต๋าก็รีบเข้าวังเพื่อบอกลากับฮ่องเต้

ฮ่องเต้แสดงออกอย่างมความสุขและรับปากยอมรับเรื่องคำขอผ่านแดนให้ทั้งสองประเทศเป็นมิตรต่อกันในการทำการค้า ฮ่องเต้ได้ออกคำสั่งและประทับตราทันทีจากนั้นก็มอบมันให้จิ่นอวี๋เพื่อเป็นสินเดิมในการแต่งงานเพื่อส่งมอบให้กับกษัตริย์ของมั่วเป่ย

สิ่งนี้คือควาสมุขของทุกคน

เหลิ่งชิงฮวนแอบหนีไปทันทีและห่อสินสอดเตรียมไว้ให้จิ่นอวี๋ล่วงหน้า จากนั้นก็ส่งจิ่นอวี๋เดินทางไกลไปมั่วเป่ยเช่นเดียวกับส่งเทพเจ้าแห่งโรคระบาด

พระสนมฮุ่ยเฟยร้องไห้ เหลิ่งชิงฮวนเองก็เป็นห่วง เป็นห่วงว่าจิ่นอวี๋เอาของตนไปตั้งมากมายขนาดนั้น ของพวกนั้นใช้เงินซื้อมาทั้งนั้นเลยนะ

ถึงแม้จะบอกว่ามู่หรงฉีแทบไม่มีเงินแต่ก็มีสิ่งที่เอาไว้แก้เบื้อเรียดว่าฮัวจื่อ สิ่งนี้เองก็มอบให้เธอไป

จิ่นอวี๋ที่สวมมงกุฎหงส์และอยู่ในชุดปักลายดอกไม้มองดูแล้วสง่างามซึ่งดูโดดเด่นกว่าคนในวังที่แต่งงานคนอื่น เรียกได้ว่างามเสียจนใจกระตุก โดยเฉพาะใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยแป้งหน้าและคิ้วที่เขียนอย่างประณีต ช่างดูประณีตไร้ที่ติด โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ดูราวกับกับม่านน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำใสมองดูน่าทะนุถนอม

น่าสงสารที่ดอกไม้งามถูกปักอยู่บนเขาควาย และจะถูกทำลายโดยชายร่างเตี้ยอย่างองค์ชายอันต๋า

วันนี้ไม่ค่อยดี ลมเหนือที่มีหิมะตกลงมาแสดงให้เห็นว่าฤดูหนาวกำลังมาถึงแล้ว

ขุนนางและเหล่าฮูหยินที่มาส่งนางจำนวนมากต่างหดคอซุกอยู่ในเสื้อเพื่อกันไม่ให้ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในคอเสื่อ มีเพียงดวงตาจากฝูงชนที่บอกให้นางออกไปจากเมืองโดยเร็ว พวกเขาเองก็จะได้กลับไปที่จวนเพื่อผิงถ่านและจิบชาได้

พระสนมฮุ่ยเฟยยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองดูอยู่ไกลๆ นางหยุดเดินและไม่สามารถไปส่งที่หน้าประตูเมืองได้ด้วยตัวเอง

มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนอยู่บนม้าพวกเขาใช้เสื้อคลุมคลุมกายเอาไว้และส่งหนางออกไปไกลจนถึงด่านสุดท้าย

ขบวนค่อยๆหยุดลง จิ่นอวี๋ที่ถูกไต้มั่วประคองลงจากรถม้าก็ยืนอยู่ตรงหน้ารถม้าอันหรูหรา นางมองไปรอบทิศก็ไม่มีเสียงใดๆ นางหาคนที่นางจะสามารถพึ่งพาได้พบ

นางเดินไปด้วยตัวเอง พระสนมฮุ่ยเฟยทำได้แค่แกล้งทำเป็นเสียใจให้ฮ่องเต้ดู จากนั้นก็เปลี่ยนอารมณ์เสียใจของฮ่องเต้ได้ถือเป็นความโปรดปรานที่นางจะได้รับ

คำพูดนี้ถูกพูดออกมาอย่างเศร้าๆ และเหลิ่งชิงฮวนที่ถูกเมินเฉยอยู่ด้านข้างก็ไม่พอใจ จะแต่งงานอยู่แล้วยังจะมาอ่อยสามีของเธออีก

แต่เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารเมือนกับว่าต้องการพลีชีพให้กับมู่หรงฉีแล้วเธอก็กลั้นเอาไว้ ไม่ให้กระทบกระทั่งกัน

มู่หรงฉีอดกลั้นอยู่นาน แต่ก็กำชับไปว่า “ถึงมั่วเป่ยแล้วอย่าทำตัวได้ใจเหมือนตอนอยู่ฉางอันเด็ดขาด อย่าทำอะไรไม่คิด ที่นั่นไม่มีคนคอยให้ท้ายเจ้า”

จิ่นอวี๋รู้สึกหายใจไม่ออกกับคำพูดของเขา นางตัวสั่นจนแทบตาเหลือกแล้วเป็นลมไป

เหลิ่งชิงฮวนแทบหัวเราะออกมา ในที่คำพูดเจ็บแสบนี้ก็ถูกใช้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเธอ เห็นได้ชัดว่าความต้านทานของจิ่นอวี๋มีไม่มากเท่าเธอถึงแม้ว่าเธอจะหน้าหนาก็ตาม

เธอไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะแต่จิ่นอวี๋กลับไม่ปล่อยเธอไป “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าขอพูดอะไรกับพี่สะใภ้สักสองสามประโยคได้ไหมเจ้าคะ”

มู่หรงฉีส่ายหน้าอย่างลังเล “ไม่ได้”

คำเดียวเลย หล่อ

จิ่นอวี๋ยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าตกต่ำลงขนาดนี้แล้วไม่ได้มีอำนาจอะไร ท่านพี่ยังไม่วางใจอีกหรือเจ้าคะ”

มู่หรงฉีโอบเอวอวบของเหลิ่งชิงฮวนเอาไว้ “เจ้าทำร้ายคนเจ้าไม่เคยลงมือด้วยตัวเอง”

สองคำคือ หล่อมาก

“วันนี้เป็นนางที่ทำร้ายข้า ทั้งหมดเป็นเป็นเพราะนางวางแผน ท่านไม่เห็นหรือเจ้าคะ”

“ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเจ้าอยากทำร้ายคนอื่น มันจะลงเอยเช่นนี้หรือ”

คำพูดนี้พูดออกมาอย่างสมเหตุสมผล เขาปกป้องภรรยาอย่างไร้ขีดจำกัดแบบนี้ สามคำ หล่อเป็นบ้า!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา