ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 404

“คนหนึ่งใต้คนหนึ่งเหนือ ทำให้พวกเราดูแลไม่ทั่วถึงพอดี”

มู่หรงฉีย่นคิ้ว “หากเป็นเช่นนั้นจริง คงท่าไม่ดีแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนหดคอลง นางไม่กล้าบอกว่าในใจของยางยังการคาดเดาอีกหนึ่งอย่างที่ยิ่งไม่ดี

ทำไมถึงมีคนเชื่อเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ คิดว่าภาชนะอาหารนั้นจะเป็นของล้ำค่าหรืออย่างไร ทำไมพวกเขาต้องเปลืองแรงมากมายขนาดนี้ เพื่อเห็นวิชาแพทย์ของตนด้วยตาตนเองเล่า

ละทิ้งเทววิทยายิ่งเป็นวิทยาศาสตร์ นอกจากว่าในหมู่พวกเขา อาจมีคนรู้หลักการอวกาศนี้

ตั้งแต่องค์ชายอันต๋ามองออกว่าตนเองเขียนเลขอารบิกคราวก่อน นางจึงระมัดระวังใต้เท้าหลู่ที่อยู่ข้างกายองค์ชายอันต๋าคนนั้น

ประกอบกับอันต๋าใช้ระเบิดในค่ายพยัคฆ์สิงห์ ท่าทีตอบสนองของใต้เท้าหลู่ในตอนนั้น และครั้งแรกที่เขาเห็นยาม่วง นึกไม่ถึงว่าไม่มีความแปลกใจเลยสักนิด ยิ่งไม่มีการซักถามวิธีการใช้งาน ก็หยิบเอาไปใช้กับองค์ชายอันต๋าทันที

เขาจะเป็นคนข้ามเวลาเหมือนกับข้าหรือเปล่านะ ตอนเขาได้ยินวิธีการรักษาคนของตนเอง หลังจากเห็นยาแผนปัจจุบันที่นางใช้ช่วยคน ก็มองความเป็นมาของตนเองออกแล้ว ซ้ำยังเชื่อมั่นว่าบนตัวของตนเองต้องพกของล้ำค่าอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงย้ายสายตาไปมองบนกล่องอาหารที่ตนใช้ปิดหูปิดตาคน

ถึงอย่างไร พระชายาฉีผู้สง่างาม แม้แต่กล่องยาได้มาตรฐานยังไม่มี ถือภาชนะอาหารซอมซ่อเข้าออก เดิมก็แปลกประหลาด

สมมุติว่าการคาดเดาเป็นจริง ใต้เท้าหลู่คนนี้ยังชำนาญการสร้างอาวุธทางทหารกับปรับปรุง นำอาวุธแบบทันสมัยพวกนี้มาประยุกต์ใช้ในสงคราม นำมาแผ่ขยายอาณาเขตมั่วเป่ย เพื่อตอบสนองความโหดร้ายคนมั่วเป่ย นี่นำมาซึ่งหายนะ

เหลิ่งชิงฮวนถึงกับเคยลงมือฆ่าด้วยเจตนา แต่ทว่า เขาเป็นราชทูตแห่งมั่วเป่ย หากเกิดเรื่องที่ฉางอัน จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนมากมาย ดังนั้นนางจึงไม่กล้ากระทำผลีผลาม

ยิ่งกว่านั้น นี่ล้วนเป็นการคาดเดา ใต้เท้าหลู่คนนั้นพูดน้อย พูดจาไร้ช่องโหว่ ตนก็ไม่มีวิธีหาหลักฐานพิสูจน์ หรือว่าสร้างสรรค์ปืนพก กดบนศีรษะของเขา และดูการตอบสนองของเขาอย่างนั้นหรือ

ดังนั้น นางอดไม่ได้ที่จะตักเตือน “เกี่ยวกับมั่วเป่ย อย่าชะล่าใจเด็ดขาด”

มู่หรงฉีผงกหัว “ข้าทาสที่ติดตามเจ้าสาวไปอยู่บ้านเจ้าบ่าว เสด็จพ่อตระเตรียมรอบคอบกว่าปกติ เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของคนมั่วเป่ย”

เหลิ่งชิงฮวนแอบถอดหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ส่งจิ่นอวี๋ตัวหายนะคนนี้ไปได้ สมควรแก่การสุขใจและแสดงความยินดี คนทั่วแคว้นร่วมกันเฉลิมฉลอง พรุ่งนี้ควรจะกลับไปจวนเสนาบดี ดูว่าเรื่องของพี่ชายกับฉู่รั่วซีเป็นอย่างไรบ้าง

เมืองหลวงในขณะนี้

ข่าวลือเกี่ยวกับเหลิ่งชิงเฮ่อกับฉู่รั่วซีแพร่ออกไปอย่างครึกครื้น กระทั่งข่มเรื่ององค์หญิงสมรสเพื่อสันติภาพกับมั่วเป่ย

บนราชสำนักมีคนขี้นินทา ไปหาอิ่นจันซื่อเพื่อสอบถามสถานการณ์ในวันนั้น

อิ่นจันซื่อไม่อาจปล่อยว่าที่เครือญาติโดยแต่งงานในอนาคตประสบกับความอยุติธรรมที่ไม่ได้รับการแก้ไข พอถูกคนถามถึง จึงแก้ไขอย่างสมเหตุสมผลและถูกต้อง

ตอนทุกคนทราบว่าความจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองคน และเป็นเพียงความเข้าใจผิด จึงผิดหวังเล็กน้อย เลยมีคนเริ่มเปลี่ยนความคิด มิน่าเล่าอิ่นจันซื่อจึงรีบร้อนเกี่ยวสัมพันธ์เครือญาติ ดูเหมือนว่าจวนมหาเสนาบดีคิดจะให้เหลิ่งชิงเฮ่อเสนอการแต่งงานจริงๆ

ครอบครัวหนึ่งมีลูกสาวหลายร้อยครอบครัวมาขอแต่ง เช่นเดียวกัน ชายหนุ่มคนนี้โดดเด่น จึงมีคนจับจ้องมากมายเช่นกัน

วันนี้ขณะที่เหลิ่งชิงเฮ่อกำลังกลับจวน ก็ถูกกลุ่มแม่สื่อล้อมไล่ตามและสกัดกั้นบนถนนใหญ่ ไม่เพียงแต่แม่สื่อ ยังมีชายแปลกหน้าสองคน คนหนึ่งดึงแขน คนหนึ่งดึงขา บอกว่าเป็นจิ้นชื่อวิชาเดียวกันกับเหลิ่งชิงเฮ่อ ขอเชิญเขาไปดื่มชาคุยเรื่องอดีต

เหลิ่งชิงเฮ่อคือบัณฑิตอ่อนแอ หลายเดือนมานี้กินบำรุงร่างกายมากมาย แต่ไม่มีเนื้อเพิ่มสักนิด ยังคงซูบผอมเช่นเดิม ลมพัดผ่านก็หกล้ม จะทนต่อการลากดึงของกลุ่มคนได้อย่างไร โดยเฉพาะแม่สื่อเหล่านั้นล้วนรุนแรงกว่าบุรุษ

เขาร้อนใจจนเหงื่อเต็มหัว แต่ก็สลัดไม่พ้น อยากงอกสามเศียรหกกรและเหยียบวงล้อไฟแทบรอไม่ไหว

ร้องทุกข์อย่างต่อเนื่อง ได้ยินเสียงมีดดาบแส้สม่ำเสมอ มีคนเปล่งเสียงตวาดด้วยความโกรธอย่างเอาจริงเอาจัง “ยื้อแย่งชายหนุ่มพื้นฐานครอบครัวดีบนถนน ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม”

กลุ่มคนหยุดการกระทำทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา