ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 406

อิ่นจันซื่อกล่าวด้วยความจริงจังว่า “ได้ยินเสนาบดีเหลิ่งพูดแบบนี้ ข้าก็วางใจ ไม่ขอปิดบังท่าน ความจริงลูกสาวของข้าก็มิได้ชอบคุณชายเช่นกัน นางบอกว่าอายุน้อยเกินไปมั่นคงไม่พอ เทียบกับบุคลิกกล้าหาญชาญชัยอันบุรุษเพิ่งมีอย่างที่เสนาบดีเหลิ่งมีมิได้ ดังนั้น เหอะๆ ผู้น้อยขอถามอย่างหน้าไม่อายว่า เสนาบดีเหลิ่งมีแผนแต่งงานใหม่หรือไม่”

เสนาบดีเหลิ่งซึ่งเพิ่งจิบชาพ่นชาออกมาจากปากและจมูก แสบจมูกจนหายใจลำบาก

“พี่อิ่นหมายความว่าอะไร”

อิ่นจันซื่อเองก็รู้สึกไม่สบายใจ “ใช่ว่าข้าอยากเอาเปรียบท่าน อันที่จริงลูกสาวของข้า นางรสนิยมแตกต่างจากคนจำนวนมากเล็กน้อย นางบอกว่าท่านเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง มีความสามารถในการปกครองแผ่นดิน ตัดสินเรื่องต่างๆ ตามความดีความชั่ว ถึงจะเป็นสามีที่คุ้มค่าแก่การฝากชีวิตไว้ด้วย”

ท่านจะเป็นพ่อตาของเขาอยู่แล้ว ยังมิใช่เอาเปรียบเขาอีกหรือ สู่ขอเพื่อเกี่ยวดองกันไม่มีการสู่ขอเช่นนี้

เสนาบดีเหลิ่งลุกขึ้นด้วยความเป็นกังวล “ท่านกับข้าเป็นขุนนางราชสำนักเดียวกัน ทั้งยังเป็นจิ้นซื่อวิชาเดียวกัน มีมิตรภาพต่อกันมาสิบปี ทำไมท่านถึงเลอะเทอะเช่นนี้ ข้าอายุสี่สิบแล้วนะ เป็นผู้อาวุโสของลูกสาวท่าน เด็กไม่ประสีประสา ท่านก็ไม่ประสีประสาไปกับนางด้วยหรือ มีอย่างที่ไหนกัน!”

“มันมีปัญหาหรือ อายุจะเป็นปัญหาอะไร โลกนี้เรื่องต้นดอกสาลี่ข่มต้นไห่ถางมีถมเถไป คนชราแต่งเมียใหม่กับคนวัยสาวเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เสนาบดีเหลิ่งกำลังเป็นวัยสง่าผ่าเผย ข้างกายจะขาดสตรีปูเตียงพับผ้าห่มได้อย่างไร”

“เหลวไหล ช่างเหลวไหลจริงๆ!” เสนาบดีเหลิ่งไล่ตะเพิดอิ่นจันซื่อ “ลูกเอาแต่ใจ ท่านก็ยุ่งวุ่นวาย ออกไป ออกไป กลับไปเสาะหาครอบครัวที่เหมาะสมกับลูกสาวท่าน และแนะนำลูกดีๆ เถิด”

เหลิ่งชิงฮวนเอามือกุมท้องอยู่ทางด้านหลัง หัวเราะจนหายใจลำบาก เรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนของพระเจ้าจริงๆ สองพ่อลูกตระกูลอิ่นเป็นตัวตลกจริงๆ ไม่สนใจอายุที่เหมาะสม ไม่ถูกใจคนโดดเด่นอย่างเหลิ่งชิงเฮ่อ กลับหมายปองคนอย่างท่านพ่อเสียได้

พอนางนึกถึงตอนที่ท่านพ่อต้องก้มหัวเรียกเพื่อนร่วมชั้นคนสนิทว่าพ่อตาอย่างจริงจัง ก็หัวเราะจนเกือบเจ็บหน้าอก อย่างไรก็ตาม ท่านพ่อของตนยังรู้จักลำดับความเหมาะสมเล็กน้อย ไม่ได้ร่วมก่อความวุ่นวาย มิฉะนั้น ตนต้องเรียกหญิงสาวที่อายุต่างกับตนไม่มากว่าท่านแม่ อ้าปากไม่ออกจริงๆ

เรื่องนี้ทำให้นางนึกถึงเรื่องตลกในยุคปัจจุบันขึ้นมาได้ “ฉันขอสาบาน จะต้องปรากฏบนสมุดทะเบียนบ้านของครอบครัวคุณแน่นอน หากเป็นภรรยาไม่ได้ ฉันก็จะเป็นแม่ของคุณ”

คุณหนูใหญ่ตระกูลอิ่นกล้าหาญจริงๆ กับคนชราก็ไม่ปล่อย

นางกำลังกุมท้อง กลับไปที่ห้องตำราของเหลิ่งชิงเฮ่ออย่างเหนื่อยหอบ จับวงกบประตู ยังไม่ได้อ้าปาก ก็หัวเราะจนยืดตัวตรงไม่ได้ น้ำตาไหลออกมาแล้ว

มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงเฮ่อกำลังพูดคุยการบริหารบ้านเมือง หันหน้ามาเห็นท่าทางของนางยังคิดว่าเกิดอาการท้องแข็ง ตกใจไม่น้อย

มู่หรงฉีดีดตัวจากเก้าอี้ กังวลจนหน้าเปลี่ยนสี โอบกอดเหลิ่งชิงฮวนด้วยความเป็นห่วง และพูดกลับหัวกลับหาง “เป็นอะไร … เจ้า…”

“ท้อง เจ็บท้อง”

มู่หรงฉีร้อนรนทันที หัวใจเต้น หายใจลำบาก มือสั่น รวมถึงเป็นตะคริว “ต้อง ต้องทำอย่างไง”

เหลิ่งชิงเฮ่อยังพอมีสติ ทำเหมือนมีประสบการณ์มาก “เร็วเข้า รีบพยุงนางไปที่เตียงนอน ข้าจะไปหาหมอตำแย”

วิ่งโซเซออกไปข้างนอก ร้อนรนจนขาเป็นตะคริว ฝีปากไม่ว่องไว เกือบจะสะดุดข้าเสียแล้ว

ยังไม่ถึงเวลามิใช่หรือ ทำไมจะคลอดแล้วล่ะ ตนยังเตรียมตัวเป็นคุณลุงไม่พร้อมเลย

“อย่างเพิ่ง!” เหลิ่งชิงฮวนคว้าเขาไว้ “เรียกหมอตำแยมาทำไม”

“คลอดลูกอย่างไรเล่า พวกเราทำไม่เป็น” เหลิ่งชิงเฮ่อสลัดมือนาง พลันปลอบโยนด้วยใบหน้าทุกข์ระทม “เจ้าไม่ต้องกลัว อย่าตื่นเต้นเด็ดขาด ไม่เป็นอะไรหรอก”

“ใครจะคลอดลูกกัน”

เหลิ่งชิงฮวนประหลาดใจ

ใบหน้าสงบของนาง ทำให้ชายหนุ่มแสนวุ่นวายสองคนชะงักงัน ต่างคนต่างมองตากัน “เจ้าเกิดอาการท้องแข็งเลยเจ็บท้องมิใช่หรือ”

เหลิ่งชิงฮวนหลุดขำ ‘พรืด’ หัวเราะจนเกือบหายใจไม่อิ่ม “ใครท้องแข็งหรือ หม่อมฉันหัวเราะจนเจ็บท้องต่างหาก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา