มู่หรงฉีกำแส้ในมือแน่น “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“หลังจากชิงฮวนกลับจวนแล้วไม่ได้บอกเจ้าหรือ?”
“บอกอะไร?”
โฉวซือเส่าตวัดปลายดาบชี้ไปที่มู่หรงฉีก่อนจะเอ่ยอย่างร้อนรน “องครักษ์อินทรีต้องการฆ่าปิดปาก! วันนี้ชิงฮวนกับข้าไปสืบหาร่องรอยขององครักษ์อินทรีที่สำนักแม่ชีเขาหนานซาน ระหว่างทางที่กลับมาก็เจอกับสหายของเจ้า”
“ชิงฮวนสงสัยว่าผู้นำที่แท้จริงขององครักษ์อินทรี ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉีจิ่งอวิ๋น ในเวลานั้นชิงฮวนกลัวว่าฉีจิ่งอวิ๋นจะลอบโจมตีนาง นงจึงขอให้ข้าไปส่งนางที่จวน บอกว่าต้องรีบกลับไปปรึกษากับเจ้า”
มูหรงฉีตะลึงงัน
ชิงฮวนเคยพูดกับเขาสองสามครั้งว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยแต่กลับถูกเขาขัดจังหวะ เขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่นางไปเจอกับโฉวซือเส่าในวันนี้ จึงไม่เปิดโอกาสให้นางได้พูดอะไรเลย
มิน่านางถึงต้องการหนีออกจากจวนเพื่อไปหาเสิ่นหลินเฟิง นี่มันเรื่องใหญ่มากจะยืดเยื้อไม่ได้
มู่หรงฉีสำนึกผิดจนกัดฟันกรอดเขามันสารเลว!
โฉวซือเส่าเห็นปฏิกิริยาของมู่หรงฉีก็รู้ทันที ดาบในมือสั่นเล็กน้อย
“มู่หรงฉี หากไม่ใช่ว่าการตามหาตัวชิงฮวนสำคัญกว่า วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก!”
เขาพลิกตัวและกระโดดลงมาจากหลังคา ก่อนจะเอ่ยสั่งเฒ่าแก่ “รีบแจ้งทุกคนในเมืองหวง และใช้ทุกช่องทางเพื่อหาเบาะแสทันที”
ในตอนนี้เฒ่าแก่ไม่ได้เหล่ตาหรือก้มเอวอีกต่อไป ใบหน้าของเขาเร่งขรึมและเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสีงยินดี
มู่หรงฉีก็ขึ้นม้าอย่างมั่นคและสั่งรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด “ถ่ายทอดคำสั่งของข้าปิดทางแยกทั้งหมด ตรวจสอบยานพาหนะและคนเดินเท้าที่ผ่านไปมาอย่างเคร่งครัด ปราบองครักษ์อินทีย์ให้ราบคาบ”
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดน้อมรับคำสั่ง
ผู้คนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันน่าหวาดกลัว ราวกับเมฆฝนที่กำลังก่อตัวจนพวกเขาต้องกดเสียงกระซิบกัน
มู่หรงฉีสะบัดบังเหียนม้าและทะยานออกไปราวกับลูกธนู มุ่งตรงไปยังจวนท่านเคาท์ทันที
คนในจวนท่านเคาท์ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับร่องรอยของฉีจิ่งอวิ๋น ล้วนแต่ถามแล้วไม่รู้อะไรทั้งนั้น
ราวกับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของมู่หรงฉีหนักอึ้ง หัวใจเขาพะว้าพะวงราวกับปลาที่ติดแห
เหลิ่งชิงฮวนพยายามอย่างมากกว่าจะออกจากจวนได้
มู่หรงฉีไม่ได้อยู่ที่จวน องครักษ์บอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน
สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอรู้วิธีการทำงานขององครักษ์อินทรีแล้ว มันโหดเหี้ยม ตรงไปตรงมาและไม่เหลือร่องรอยเลยแม้แต่น้อย
หากไม่ฉวยโอกาสลงมือก่อนก็อาจจะพลาดโอกาส และไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เธอเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของเธอตอนที่ออกมาจากจวน แต่ท้องเก้าเดือนของเธอไม่สามารถซ่อนมันได้ หลังจากที่ออกมาจากจวนเธอก็ไปที่ศาลาว่าการก่อน แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว
หลังจากลังเลเล็กน้อย เธอตัดสินใจกลับไปที่จวนมหาเสนาบดี ตอนนี้คนเดียวที่จะช่วยเธอได้ก็คือครอบครัวของเธอ
เมื่อใกล้จะถึงจวนวมหาเสนาบดี รถม้าคันหนึ่งก็หยุดตรงหน้าเธอ ชายแปลกหน้าคนหนึ่งลงจากรถม้ามาขวางทาง
“พระชายา นายของข้าน้อยให้มาเชิญขอรับ”
เหลิ่งชิงฮวนระวังตัวขึ้นมา หยิบยาออกมาจากแหวนนาโนโดยไม่ลังเลและกำมันไว้ในฝ่ามือแน่น ตราบใดที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ เธอจะยกมือขึ้นและปล่อยมันไปโดยไม่ลังเล
“นายของเจ้าคือใคร”
“ไปถึงแล้วท่านจะรู้เอง”
“หากข้าไม่ไปล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...