แสงพระจันทร์เสี้ยวส่องอร่ามปกคลุมเก้าแคว้น บ้างสุขหทัยบ้างทุกข์ระทมใจปะปนกันไปตามแต่ละคูหา
สามีภรรยาบางคู่แอบอิงชิดใกล้ในกระโจมรวมชายคา บ้างก็มีบางคู่ต้องระเหเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางราตรี
เสียงของสาวงามร้องอย่างเศร้าระทมใจดั่งเสียงบรรเลงซอเอ้อร์หู ดังกังวานแผ่คลุมไปทั่วค่ายทหารจนถึงกลางดึกกลางดื่น ช่างเศร้าใจจนน้ำตาจะไหลและกวนใจเหล่าทหารกองทัพทั้งสามกระโจมจนเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มอยากจะต่อยคน
เมื่อแหวกผ้าม่านกระโจมออกด้วยความโกรธเคือง เพื่อชำเลืองมองก็เห็นโฉวซือเส่ากำลังกินเหล้านั่งเฝ้าหญิงงามอยู่ จึงหมุดศีรษะกลับเข้าไปอีกครั้ง
ได้ยินมาว่าคนผู้นี้หาเรื่องด้วยไม่ได้ แม้แต่ท่านอ๋องของตัวเองยังต้องกัดฟันด้วยความแค้นทำอะไรไม่ได้เลย
ท่านอ๋องฉีอิ่มอกอิ่มใจจนนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นก่อนฟ้าสว่างก็สั่งให้กองทัพไปเก็บข้าวของรื้อกระโจนเตรียมตัวเคลื่อนทัพไปยังด่านต่อไป
เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังด่านที่สองเป็นไปตามที่มู่หรงฉีกล่าวเอาไว้ไม่มีผิด มีป่าหนาทึบขึ้นกีดขวางทางเดินและห้อมล้อมไปด้วยภูเขาทั้งสองด้าน
สภาพอากาศของแคว้นหนานจ้าวนั้นร้อนชื้น มีหมอกควันพิษสีชมพูพวยพุ่งอยู่ทั่วบริเวณป่าอย่างหนาทึบในตอนเช้า หากไม่รู้วิธีทำลายค่ายกลหมอกพิษแห่งนี้และบุ่มบ่ามเข้าไปข้างในอาจถูกพิษจนถึงตายโดยไม่รู้ตัวเอาได้
นอกจากนี้ยังไม่รู้เส้นทางของที่แห่งนี้ดีนัก ข้างในอาจจะมีอันตรายที่ไม่คาดคิดมาก่อนแอบซ่อนอยู่อีกมากมาย
กองทัพของมู่หรงฉีหยุดฝีเท้าลงอยู่หน้าป่าทึบแห่งนี้
เหลิ่งชิงฮวนขี่ม้าตัวเดียวกับเขาและถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขน นางปวดเมื่อยร่างกายไปทั้งตัว และอ่อนเพลียจนไม่มีแรง อีกทั้งยังง่วงสะลึมสะลือเล็กน้อย
มู่หรงฉีดูแลปกป้องนางอย่างระมัดระวังมาตลอดการเดินทาง แม้แต่ตอนขึ้นไปบนหลังม้าเขาก็เป็นคนอุ้มขึ้นไป เหลิ่งชิงฮวนบอบบางและอ่อนแอเหมือนดั่งดอกบัวขาวที่หากถูกลมพัดโชยมาก็จะปลิวไปตามสายลม
เหล่าทหารม้าไม่กล้ามองพระชายาฉีไปมากกว่านี้ แต่ในใจเกิดคิดสงสัย เพราะตามคำร่ำลือที่ได้ยินมาพระชายาฉีนั้นเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ ทำไมเมื่อมองดูจากภาพลักษณ์ภายนอกแล้ว ดูเหมือนพวกหญิงงามที่มีร่างกายบอบบางอ่อนแอไม่เคยก้าวขาออกจากเรือนและไม่เคยออกไปพบเจอผู้คนภายนอกมาก่อนเช่นนี้
วันนี้เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำจริง ๆ เธอแค่เหนื่อยเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมาได้ ทั่วทั้งร่างกายเจ็บปวดราวเหมือนกับว่ากระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เธอเองก็รู้สงสัยเช่นกันทำไมมู่หรงฉีไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือไง เมื่อคืนออกแรงอย่างกระฉับกระเฉงตลอดทั้งคืน ดูอย่างไรก็มีชีวิตชีวาและดูดีมีออร่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ไปได้เล่า?
มู่หรงฉีมองดูเหลิ่งชิงฮวนที่มีใบหน้าง่วงนอนในอ้อมแขนของตัวเองด้วยความปวดใจเล็กน้อย “ข้างหน้าเกรงว่าจะมีภัยอันตราย ข้าจะส่งหน่วยสอดแนมสองสามคนเข้าไปตรวจสอบก่อน ถ้าเจ้าเหนื่อยก็ลงจากม้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
ตอนที่มู่หรงฉีช่วยพยุงเหลิ่งชิงฮวนลงจากม้า นางชำเลืองตรวจสอบเล็กน้อย ควันพิษนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น หมอกพิษนี้ก็จะเจือจางหายไปเองถึงเวลานั้นแค่ปิดปากและจมูกก็สามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือพวกแมลงพิษของน่าจาอี๋นั่ว
เธอเคยเห็นแมลงพิษในห้องเพาะพันธุ์พิษของเมืองปี้สุ่ย น่าจาอี๋นั่วผู้นั้นจะยอมปล่อยสถานที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเพาะเลี้ยงแมลงในป่าทึบแห่งนี้ไปได้อย่างไร? หากหนอนเลี้ยงโตง่าย ๆ พวกมันสามารถเป็นทหารรักษาการณ์พัน ๆ นายของเมืองหนานจ้าวได้เลย
เธออยากลองเข้าไปสำรวจด้วยตัวเอง
แน่นอนว่ามู่หรงฉีย่อมไม่มีทางยอมอยู่แล้ว นี่กำลังล้อเล่นอยู่หรือไง? ที่นี่มีเหล่าชายชาตรีมากมายกว่าห้าหมื่นนาย แล้วจะให้สตรีเพียงนางเดียวออกไปตกอยู่ในอันตรายได้เยี่ยงไร?
หน่วยสอดแนมออกตัวอาสาเข้าไป เหลิ่งชิงฮวนจึงนำชุดป้องกันและยาฉุกเฉินให้พวกเขา พร้อมกับสั่งกำชับให้ทำตามกำลังของตน สิ่งสำคัญก็คือการตรวจดูสถานการณ์อย่าได้ทำตัวอวดเก่งเป็นอันขาด
กลุ่มคนสองสามคนเข้าไปเพียงสักครู่ก็วิ่งออกมาด้วยใบหน้าที่มอมแมมสกปรกไปทั้งตัว อีกทั้งยังมีสีหน้าหวาดกลัว มีหนึ่งคนที่ถูกเพื่อนแบกหามออกมาใบหน้าบวมเป่งมีสีม่วงสาดขึ้นหน้า
เป็นอย่างที่เหลิ่งชิงฮวนว่าไว้ไม่มีผิด ในป่าทึบแห่งนี้มีหนอนและแมลงหลากหลายสี หลากหลายชนิด พอเห็นว่ามีคนเข้ามาก็ยกฝูงโจมตีเหมือนกับกำลังบุกเข้าไปในรังแตนก็ไม่ปาน
มิน่าล่ะแคว้นหนานจ้าวจึงไม่มีความเกรงกลัวเช่นนี้ ถึงแม้เหลิ่งชิงฮวนจะมีทักษะทางการแพทย์และสามารถขับไล่แมลงได้ แต่ชั่วขณะหนึ่งต้องมาควบคุมแมลงจำนวนมากเช่นนี้ นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแล้ว กองทัพต้องตั้งฐานประจำการชั่วคราวขึ้นและหาแนวทางในการทำลายค่ายกลก่อน เพราะแค่พูดน่ะง่ายแต่หากจะลงมือทำน่ะยาก?
รองแม่ทัพอวี๋ร้อนรนใจอย่างมาก อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยความยากลำบาก สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอ๋องของเขาบุกเข้าโจมตีเมืองขยายอาณาเขตได้อย่างเต็มที่ คาดไม่ถึงจะถูกแมลงแค่ไม่กี่ตัวมาขวางทางได้ รู้สึกน่าโมโหเสียจริง ๆ
ถ้าที่แห่งนี้ไม่ชื้นไปทุกหนทุกแห่งจนไม่สามารถจุดไฟติดได้ละก็ คงจะจุดไฟเผาป่าแห่งนี้ให้ราบคาบ ปัญหาต่าง ๆ จะได้หมดไปในที่สุด
แม้ว่าจะยืนอยู่ข้าง ๆ ป่า ก็ได้ยินเสียงในป่าดัง “หึ่งหึ่ง” ดังกังวานไปทั่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...