โฉวซือเส่าพยักหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน “ใช่แล้ว แต่ข้าไม่ใช่คนในราชสำนัก ดังนั้นเจ้าอย่าได้คาดหวังมากเกินไปว่าข้าจะทำอะไรตามกฎ พี่ชายของเจ้าแย่งผู้หญิงของข้าไป หากข้าร้อนใจขึ้นมาก็อาจจะบีบคอเขาจนตายเหมือนกับบี้ขยี้มดตัวหนึ่งก็เป็นได้”
น่าจาอี๋นั่วเม้มริมฝีปากเข้าหากัน “ปล่อยท่านพี่ของข้าเดี๋ยวนี้ หัวใจของเขาไม่แข็งแรง ทนต่อการตกใจไม่ได้ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อเจ้าแม้แต่น้อย ข้ายินดีเป็นตัวประกันแทนท่านพี่เอง”
“ข้าเกือบจะถูกเจ้าทำให้ซึ้งใจเสียแล้ว” โฉวซือเส่าส่ายหน้า “แต่น่าเสียดาย ที่เจ้าไม่ได้เป็นองค์หญิงที่สูงส่งน่าเคารพเสียแล้ว ชาวหนานจ้าวจะยินดียอมจำนนเพื่อท่านอยู่อีกงั้นหรือ? เจ้ามีค่าไม่เท่าพี่ชายที่เหมือนจะตายรอมร่อผู้นี้”
น่าจาอี๋นั่วรีบควานหายาออกมาหนึ่งเม็ดอย่างลนลาน และก้าวขึ้นไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวาย “อาการป่วยของเขาอันตรายจริง ๆ นี่เป็นยาที่ปกติท่านพี่ของข้าจะกินประทังชีวิต ข้าขอร้องเจ้าให้เขากินยานี้ก่อนเถอะ ขอเพียงท่านพี่ของข้าปลอดภัยไม่เป็นอะไร ข้าจะยอมรับปากเจ้าทุกเงื่อนไข”
เสิ่นหลินเฟิงชำเลืองมองไปที่คนป่วยที่หมดสติเล็กน้อย เขาเองก็ไม่อยากให้มีการตายเกิดขึ้นเช่นกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาขึ้นมาจริง ๆ ก็จะยุ่งยากอย่างมาก
“ท่านถอยหลังไปสามก้าว และโยนยามาทางนี้”
น่าจาอี๋นั่วทำตามเขาพูดอย่างเชื่อฟัง ยกมือขึ้นแล้วโยนเม็ดยาไปทางโฉวซือเส่า
โฉวซือเส่ายกมือขึ้นมาเพื่อรับยา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าที่ปลายนิ้วรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนมีเข็มทิ่ม อดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา และก้มลงไปมองดูที่ปลายนิ้วของเขาที่กำลังบวมเปล่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เห็นชัด ๆ ว่าถูกวางยาพิษเข้าเสียแล้ว
และสิ่งที่น่าจาอี๋นั่วโยนมานั้นไม่ใช่เม็ดยา แต่เป็นหนอนสีดำที่ขดตัวเป็นก้อนกลม ๆ
ถูกหลอกเข้าแล้ว น่าจาอี๋นั่วช่างเจ้าเล่ห์เสียจริงๆ
โชคยังดีที่โฉวซือเส่าเคยถูกแมลงพิษของชิงฮวนทำร้ายอยู่หลายครั้ง จึงรู้วิธีปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน แม้จะไม่สามารถกำจัดพิษออกจนหมดได้ แต่ก็สามารถลดพิษให้ออกฤทธิ์น้อยที่สุดได้
ขณะเดียวกันคนป่วยผู้นั้นที่อยู่ในอาการสลบก็ลืมตาขึ้นมา พอเขายกมือขึ้นลูกธนูไม้ก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขาพุ่งเป้าไปที่โฉวซือเส่า
โฉวซือเส่าเพียงแค่รู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย จึงทำได้เพียงหลบตัวเท่านั้น น่าจาอี๋นั่วฉวยโอกาสนี้จู่โจมเข้าไป
ถ้าหากถูกนางทำสำเร็จ สถานการณ์จะพลิกกลับอย่างแน่นอน
เหลิ่งชิงฮวนกับมู่หรงฉียืนรออยู่ที่ด้านล่างของเมือง มองดูโฉวซือเส่าที่สวมชุดเบาบางพลิ้วไหวอย่างกับเทพธิดาอยู่บนกำแพงเมืองอยู่ไกลๆ ชั่วขณะหนึ่งตอบสนองไม่ทัน
ท้องฟ้ามืดครึ้ม แสงบนกำแพงเมืองก็สลัวเกิน เมื่อรวมกับสิ่งกีดขวางการมองเห็นต่าง ๆ ที่ได้บดบังตัวเสิ่นหลินเฟิงเอาไว้ รองแม่ทัพอวี๋มองเห็นใบหน้าคนงามไม่ชัด เขาที่กำลังขี่อยู่บนหลังม้าจึงพยายามยืดคอมองดู ไม่รู้ว่าเป็นเทพธิดาที่ไหนลงมาจุติ
“แม่นางคนนี้เป็นใครกัน? คาดไม่ถึงจะมีความกล้าหาญและทักษะถึงกับจับองค์รัชทายาทหนานจ้าวเป็นตัวประกัน? ไม่ด้อยไปกว่าพระชายาท่านเลยนะ ข้าเหล่าอวี๋ชื่นชมจากใจจริง! อีกสักพักหากพังประตูเมืองจนแตกแล้วเข้าไปได้ ข้าจะรีบไปพบนางก่อน”
เหลิ่งชิงฮวนเคยเห็นโฉวซือเส่าในชุดผู้หญิงมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ถึงจะกะทันหันเล็กน้อย แต่ก็เม้มริมฝีปากยิ้มอย่างไม่รู้สึกแปลกใจอะไร “ถ้าหากเจ้าชอบ ข้าแนะนำนางให้เจ้าดีหรือไม่? จะบอกว่าเจ้าคิดถึงนางเข้าแล้ว”
รองแม่ทัพอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นมา ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกพลุกพล่าน “พระชายาท่านรู้จักนางด้วยหรือขอรับ?”
ได้ยินมาว่าพระชายามีข้าราชบริพารค่อยปรนนิบัติอยู่ข้างกายอยู่สามคน แต่ละคนล้วนมีวรยุทธ์สูงส่งและยังรูปงามอีกด้วย กลุ่มชายชาตรีกลุ่มหนึ่งมีการพูดแซวเล่นเป็นการส่วนตัวในกลุ่ม ทุกคนล้วนคิดถึงกันทั้งนั้น คงไม่ใช่พวกนางที่เร่งมาช่วยแล้วแอบแฝงตัวเข้าไปในด้านหนานจ้าวหรอกนะ?
มู่หรงฉีพูดอย่างเฉยเมย “ไม่เพียงนางรู้จัก กับเจ้าเองก็เป็นคนที่รู้จักมานานนมเช่นเดียวกัน”
รองแม่ทัพอวี๋ยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองอย่างงงงวย และก็ขยี้ตาอีกหลายครั้ง แต่ก็ยังมองไม่ออกอยู่ดี รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูน่าเกรงขาม ดูดีมีรัศมี รูปร่างเพรียวบาง ทำให้คนที่ได้มองเกิดใจเต้นแรงตั้งแต่แรกเห็น
เขายังไม่ทันได้ถามว่าเป็นพี่สาวท่านไหนเลย มู่หรงฉีก็เปลี่ยนสีหน้าทำเป็นเคร่งขรึม ยกมือขึ้นดึงธนูยาวข้างหลังออกมา และวางเข้ากับคันธนู
ตั้งแต่วินาทีที่พวกโฉวซือเส่าปรากฏตัวขึ้น เขาก็จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำของน่าจาอี๋นั่วตอนที่อยู่ข้านบนกำแพง เพราะหลังจากที่เคยปะทะกันอยู่หลายครั้ง ทำให้เขารู้ดีว่ายัยหนูคนนี้เจ้าเล่ห์มากแค่ไหน เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนางก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติดังนั้นจึงเล็งธนูแล้วยิงไปที่นางทันที
มู่หรงฉีมีกำลังที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แม้จะยืนอยู่ใต้กำแพงเมืองและอยู่นอกระยะยิงของทหาร ลูกธนูนี้ยังคงทะยานได้สูงและทรงไปด้วยพลัง แรงของมันเหมือนดั่งดาวตกพุ่งตรงไปยังน่าจาอี๋นั่ว ได้ยินเพียงเสียงของลูกศรที่เจาะทะลุเข้าไปในผิวหนัง ลงไปที่ไหล่ของนางพอดี
โฉวซือเส่ากับเสิ่นหลินเฟิงรีบกลั้นหายใจและหลบหนีทันที พวกทหารไม่สามารถหลบได้ทัน ดังนั้นก็ “ตุบ” ล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อม ๆ กัน มีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดและหมดลมหายใจลงในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...