ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 529

เสิ่นหลินเฟิงจูงสุนัขตำรวจของเขามา ที่ด้านหลังของเขามีทหารราชองครักษ์ที่อยู่ในชุดเกราะติดอาวุธ คนสนิทของฮ่องเต้อย่างลู่กงกงก็วิ่งตามมา เขาหอบหายใจไม่ทันเนื่องจากเดินตามไม่ทัน

ราชองครักษ์ยื่นเรียงแถวหน้ากระดานและปิดประตูจวนอ๋องฉีเอาไว้

องครักษ์ของจวนอ๋องฉีเองก็ไม่กล้าเข้ามาห้าม เสิ่นหลินเฟิงถือป้ายพกไว้ในมือแล้วจูงสุนัขบุกเข้าไปยังตำหนักเฉาเทียน

เหลิ่งชิงฮวนกำลังเล่นไพ่กระดาษอยู่กับลูก พวกเขากำลังเล่นไพ่โป๊กเกอร์ชนิดหนึ่งกันอยู่ ต่างคนต่างมีแผ่นกระดาษยาวแปะไว้บนหน้าคนละแผ่น

สุนัขน้อยฮวนฮวนลุกขึ้นมาทันทีและจ้องไปที่หน้าประตูอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็เข่นเขี้ยวเห่าออกมาเสียงดัง

สุนัขตำรวจที่เสิ่นหลินเฟิงจูงมาเมื่อมาที่หน้าประตูก็กลัวจริงๆ หางของมันลู่ตกและเอาแต่อยู่ติดกับเสิ่นหลินเฟิงไม่ไปไหน ท่าทางอันสง่างามเมื่อครู่นี้ได้หายไปหมด

“พี่สะใภ้ ข้าได้รับราชโองการให้สืบคดี” เสิ่นหลินเฟิงทำท่าเป็นการเป็นงานอย่างเที่ยงธรรมไม่เข้าข้างใคร “”ท่านพี่ล่ะขอรับ ไม่อยู่ที่จวนหรือ

เหลิ่งชิงฮวนเอาแถบกระดาษที่แปะอยู่บนหน้าออกแล้วหันไปถามอย่างใจเย็นว่า “หลินเฟิงงั้นหรือ ท่านพี่ของเจ้าวันนี้มีธุระเลยออกไปทำข้างนอก เจ้ากลับมาที่เมืองหลวงเมื่อไรกัน”

“เพิ่งกลับมาวันนี้ขอรับ”

“เพิ่งจะกลับมาก็ทำคดีเสียแล้ว เหนื่อยเจ้าแล้ว เป็นคดีอะไรกัน”

เสิ่นหลินเฟิงส่งสุนัขตำรวจให้กับราชองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เดินเข้าไปในตำหนักเฉาพเทียนกับลู่กงกงและเข้าไปรวบมือของเธอเอาไว้ “ฝ่าบาททำของสำคัญชิ้นหนึ่งหายไปจึงได้มีรับสั่งให้ข้าออกตามหา แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าสุนัขตำรวจจะดมกลิ่นแล้วตามมาจนถึงที่นี่”

ลู่กงกงถามอย่างยิ้มๆว่า “ฝ่าบาทตรัสว่าตอนที่ของสำคัญหายไปมีเพียงแค่พระราชนัดดาที่อยู่ด้วย รบกวนพระชายาฉีถามหน่อยเถิดว่าเป็นเพราะเด็กเห็นว่ามันเป็นของแปลกถึงได้เอาติดมือไปที่ไหนหรือเปล่า”

เหลิ่งชิงฮวนวางไพ่กระดาษในมือลงแล้วเอาแถบกระดาษวางลงด้วยกันทั้งหมด จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ไม่ต้องถามหรอก นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดี หลังจากที่พวกเรารู้เรื่องแล้วเดิมทีก็จะเข้าไปที่วังหลวงเพื่อขอรับโทษจากเสด็จพ่อ ผลคือทหารราชองครักษ์ที่อยู่หน้าประตูเข้ามาขวางไว้ไม่ให้เข้าไป พอข้าคิดดูก็คิดว่าจะเอามันไปคืนให้กับเสด็จพ่อที่วังในวันหลัง”

นางปลดกระเป๋าเงินออกจากตัว จากนั้นก็เปิดมันออกแล้วนำไข่มุกตะวันที่เสี่ยวอวิ๋นเช่อยึดเอามาให้กับลู่กงกง “รบกวนลู่กงกงทูลเสด็จพ่อทีว่า เด็กน้อยใจกล้าอวดดี ข้าได้สั่งสอนแล้ว ในภายหน้าจะเข้มงวดกับเขาเจ้าค่ะ”

ลู่กงกงกับเสิ่นหลินเฟิงสบตากัน แล้วลอบยิ้มออกมาอย่างระมัดระวัง “พระชายาฉีเข้าใจผิดแล้ว ของสำคัญที่ฝ่าบาทตามหาไม่ใช่ไข่มุกตะวัน แต่เป็นตราพระราชลัญจกร”

“อะไรนะ” เหลิ่งชิงฮวนตกใจเป็นอย่างมาก “ตราพระราชลัญจกรของเสด็จพ่อหายไป?”

“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทคงไม่จำเป็นต้องระดมคนออกมามากมาย ท่านว่าเช่นนั้นหรือไม้”

เหลิ่งชิงฮวนหันไปถามเสี่ยวอวิ๋นเช่อ “เจ้าขโมยตราพระราชลัญจกรของเสด็จปู่ไปหรือไม่”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อทำหน้าตาไม่เข้าใจ “ตราพระราชลัญจกรคืออะไรกันขอรับ”

ลู่กงกงคิดว่าสองแม่ลูกช่างแสดงได้เก่ง การแสดงของพวกเขาถึงแม้ว่าจะทำได้มากเกินไปหน่อย แต่สำหรับเด็กคนหนึ่งแล้วถือว่าทำได้ดีมาก พระชายาฉีช่างมีวิธีในการสั่งสอน

เขาหัวเราะฮิออกมา “ก็ก้อนหยกที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วด้านบนมีมังกรอยู่ตัวหนึ่ง ส่วนที่ด้านล่างมีตัวหนังสืออยู่ไง”

เสี่ยวอวิ๋นเช่ออ้าปากกว้าง จากนั้นก็หันไปมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างหวาดกลัว จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะเล็กๆลง

เหลิ่งชิงฮวนถลึงตาใส่เขา “สรุปว่าเคยเห็นไหม”

สายตาของเสี่ยวอวิ๋นเช่อล่องลอยแล้วชี้ไปยังห้องตัวเองอย่างหวาดกลัว เขาพูดตะกุกตะกักบอกว่า “ขอรับ ดูเหมือนว่าข้าจะเอามา”

“เจ้า เจ้าลูกไม่รักดี! เจ้าคิดจะเป็นกบฏหรือไง”

เหลิ่งชิงฮวนลมแทบจับ เธอโกรธจนตัวสั่น “เจ้ามันรนหาที่ตาย วันนี้ใครก็อย่ามาห้ามข้า มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเจ้ากระต่ายน้อยนี่อย่างไร!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา