ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 535

เสี่ยวอวิ๋นเช่อที่เพิ่งตะโกนโห่ร้องด้วยความเบื่อเมื่อครู่ หน้าตาสดใสขึ้นมาทันควัน “การแสดงลิงมาแล้ว ข้าจะไปดูการแสดงลิง!”

เขาผละออกจากอ้อมแขนของเหลิ่งชิงฮวนและวิ่งออกไปข้างนอก โดยมีคนรับใช้รีบตามไปติดๆ พวกเขาไม่ยอมให้คุณชายน้อยท่านนี้เผยพิรุธเป็นอันขาด

เสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ปะปนไปกับเสียงประทัด

ดูเหมือนไม่ใช่การแสดงลิงเล่น แต่เหมือนมีคนจัดงานมงคลเสียมากกว่า วันนี้อาจจะเป็นวันฤกษ์ดี?

ฉู่รั่วซีวิ่งมาถึงขั้นบันไดเหนือหัวของเธออย่างเร่งรีบ

“นายหญิง ข้าตามหาท่านตั้งนาน นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมท่านยังวนเวียนอยู่แถวนี้อีก รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า ขบวนเสลี่ยงเกือบถึงหน้าประตูจวนแล้วนะ”

“เปลี่ยนเสื้อผ้า? ขบวนเสลี่ยงอะไร” เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างประหลาดใจ

ฉู่รั่วซีอดไม่ได้ที่จะจับมือเธอแล้วเดินกลับไป

“เดี๋ยวท่านก็รู้”

นางลากเหลิ่งชิงฮวนกลับไปยังห้องส่วนตัว ดวงตาของเหลิ่งชิงฮวนเบิกกว้างทันที เพราะสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ใช่ชุดธรรมดา แต่เป็นชุดมงกุฎหงส์อันเจิดจรัส!

ชุดนั้นปักด้วยผ้าไหมและดิ้นทอง ฝังด้วยลูกปัดมรกตและดอกโบตั๋น มงกุฎหงส์หวงนี้ไม่อาจประเมินค่าได้ ทั้งดูหรูหรา สง่างามและมีเกียรติอย่างยิ่ง

ชุดแต่งงานสีแดงสดทำจากผ้าทอหลิวอวิ๋นซึ่งปักด้วยด้ายสีทอง ประดับด้วยอัญมณีหลากสีขนาดเล็ก นกเฟิ่งหวงในแสงแดดยามเช้าประดับประดาอย่างเจิดจ้าจนผู้คนไม่อาจละสายตาได้

นี่มันอะไรกัน เล่นใหญ่กันขนาดนี้เลยเหรอ

เธอลูบมวยผมที่หญิงชราทำให้เมื่อครู่อย่างระมัดระวัง มันเข้ากับมงกุฎหงส์ได้เป็นอย่างดี ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของคนอื่นเสียแล้ว

คนเหล่านั้นกำลังเล่นละครเพื่อตบตาฉันสินะ

เธอชี้ไปที่ชุดมงกุฎหงส์ราคาแพง “นี่มันหมายความว่าอย่างไร ข้าเพิ่งกลับมากินข้าวที่บ้านได้สองวัน จะส่งข้ากลับไปแล้วหรือ”

ฉู่รั่วซียิ้มอย่างมีเลศนัย โดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม ก่อนจะสั่งโตวโตว แม่หวังและคนอื่น ๆ ข้างนอก “รออะไรอยู่อีก ขบวนเสลี่ยงเจ้าสาวมาถึงหน้าจวนแล้ว รีบเข้ามาเปลี่ยนชุดในพระชายาสิ”

ในวันมงคลเช่นนี้ คนรับใช้กลุ่มหนึ่งพากันเดินเข้าไปโดยไม่กลัวคำตำหนิของเหลิ่งชิงฮวน พวกนางกรูกันเข้าไปช่วยถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนเอียงตัวหลบพลางคว้าแขนเสื้อของฉู่รั่วซี “บอกข้ามานะว่านี่มันเรื่องอะไรกัน”

“จะอะไรอีกล่ะ น้องสาวแสนโง่เง่าของข้า ท่านฉีอ๋องอยากจะเข้าพิธีสมรสกับเจ้าอย่าสง่างามอีกครั้งน่ะสิ รู้หรือไม่ว่าท่านอ๋องเหนื่อยมากแค่ไหน ถนนทุกสายในเมืองหลวงล้วนถูกแขวนด้วยผ้าไหมแดงโดยเฉพาะเส้นทางระหว่างจวนมหาเสนาบดีไปยังไปจวนฉีอ๋อง 180 กว่าคนถือสินสอดทองหมั้นออกมากจาจวนท่านอ๋อง ทำเอาสาวๆ ในเมืองหลวงต่างพากันอิจฉาตาร้อน พิธีสมรสอันยิ่งใหญ่นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หายากในเมืองหลวง อาจกล่าวได้ว่าร้อยปีมีครั้งเลยทีเดียว ทำให้รู้ได้ว่าท่านอ๋องใส่ใจท่านมากแค่ไหน เอาล่ะ ต่อไปนี้ท่านเตรียมตัวเพลิดเพลินกับความสุขได้เลย”

เหลิ่งชิงฮวนนึกขึ้นได้ว่าช่วงสองสามวันมานี้แม่ทัพอวี๋และผู้ดูแลมักจะทำตัวลึกลับ ราวกับว่ามีบางอย่างผิดปกติ ที่แท้พวกเขาก็พยายามจะช่วยกันปกปิดเธอนี่เอง

เซอร์ไพรส์จริงๆ เซอร์ไพรส์มากสำหรับคู่รักเก่าแก่ที่ยังเล่นลูกไม้โรแมนติกแบบนี้อยู่

มู่หรงฉี ไม่ได้เจอกันมาห้าปี ท่านโตขึ้นแล้วสินะ

เธอผลักโตวโตวและคนอื่นออกจากห้อง “พวกเจ้ายืนเฝ้าอยู่ข้างนอกนี่แหละ ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง เข้ามากันมากมายขนาดนี้ข้าก็อายเป็นนะ”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ชอบให้คนอื่นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกจั๊กจี้ไปทั้งตัวโดยเฉพาะบริเวณเอว ดังนั้นเธอมักจะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองเช่นการเปลี่ยนเสื้อผ้า

โตวโตวและคนอื่นๆ รู้นิสัยข้อนี้ของเธอดี พวกนางไม่ได้ฝืนใจเธออีกต่อไป ทางด้านฉู่รั่วซีเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีก “งั้นท่านก็เร่งมือหน่อย เจ้าบ่าวจะมาถึงแล้ว อย่าให้เลยเวลาฤกษ์”

เหลิ่งชิงฮวนตอบอย่างเฉียบขาด “พวกเจ้าปิดบังข้า อยากให้ข้ารู้สึกประหลาดใจ ข้าก็จะทำให้พวกเจ้ารู้สึกแบบนั้นเช่นกัน”

เธอเป็นชุดอย่างรวดเร็วและเปิดหน้าต่างด้านหลัง

มู่หรงฉีแต่งกายด้วยชุดมงคล ดูหล่อเหลาและสง่างามอยู่บนหลังม้าตัวสูง โดยมีทหารรักษาพระองค์คอยคุ้มกันตามขบวนเสลี่ยง ผู้คนหนึ่งร้อยแปดสิบแปดคนถือของสินสอดทองหมั้นเดินเต็มท้องถนน

บรรยากาศวันนี้แตกต่างจากวันแต่งงานที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความสุข ตื่นเต้นที่จะได้สิ่งที่ต้องการ

มือใหญ่กำบังเหียนของม้าไว้แน่น เขายิ้มกว้าง ยืดหลังตรงและแสงแดดจ้าสาดส่องลงบนตัวของเขา

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ผู้คนในเมืองหลวงคุ้นเคยกับท่านฉีอ๋องขี่ม้าเพียงลำพัง ตามด้วยสุนัขสีขาวตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเดินผ่านถนนสายนี้อย่างเศร้าสร้อย แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความอ้างว้าง

รูปลักษณ์ในวันนี้ของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย โดยเฉพาะมุมปากที่แสยะยิ้ม รอยยิ้มแปลกหน้าและท่าทางภาคภูมิเหมือนกับเด็ก ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าเจ้าชายที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ดูน่าเข้าหามากขึ้นโดยไม่มีเหตุผล ช่างเป็นรอยยิ้มที่สวยงามอย่างมาก

เหลิ่งชิงฮวนมีส่วนอย่างมากในการต่อสู้กับโรคระบาด คนทั่วไปจึงสนับสนุนเธอ พวกเขาเดินตามขบวนไปยังจวนมหาเสนาบดีราวกับคลื่นยักษ์

เสียงกลองดังและประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จวนมหาเสนาบดีโปรยเงินรางวัลกระจายไปทั่วพื้น ความมีชีวิตชีวานั้นเกือบทำให้ผู้คนหูอื้อจากเสียงอันดังสนั่นนั้น

เสี่ยวอวิ๋นก้าวขาสั้นๆ จากหว่างขาของเสนาบดีเหลิ่ง เงยหน้าขึ้นชำเลืองมองมู่หรงฉีที่อยู่บนหลังม้าและโพล่งออกมา “ให้ตายเถอะ หล่อมาก! ท่านมาที่นี่เพื่อขโมยความโดดเด่นจากข้าหรือ”

มู่หรงฉีเห็นกาน้ำชาขนาดเล็กในฝูงชนอย่างรวดเร็ว เขาลงจากหลังม้าและอ้าแขนรับ “ลูกรัก มาหาพ่อสิ”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อมองเห็นช่อดอกไม้ไหมบนหน้าอกของเขาทันทีและพุ่งเข้าไปหา “ท่านมารับข้ากับแม่ใช่หรือไม่”

มู่หรงฉีพยักหน้า “ครั้งก่อนเจ้าโทษที่พ่อแต่งงานกับแม่แล้วไม่บอกเจ้าไม่ใช่หรือ ครั้งนี้พ่อไม่ลืมแล้วนะ”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “นี่สิถึงจะถูกต้อง ถ้าเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ข้าแต่งงาน ข้าจะแจ้งท่านและเชิญท่านมาดื่มเหล้ามงคลด้วย”

คำพูดของเด็กน้อยทำให้ผู้คนรอบข้างหัวเราะลั่น

มู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะโอบเสี่ยวอวิ๋นเช่อไว้ “มา ไปรับแม่ของเจ้าขึ้นเสลี่ยงกันเถอะ”

ผู้ดูแลเจ้าสาวเร่งเร้า “ถึงเวลาฤกษ์แล้ว รีบไปเชิญพระชายาขึ้นนั่งเกี้ยวได้แล้วเจ้าค่ะ”

คนทั่วไปโห่ร้อง “เชิญพระชายา! เชิญพระชายา!”

ประตูของจวนมหาเสนาบดีเปิดออก เหลิ่งชิงฮวนในชุดมงกุฎหงส์ก้าวออกมาจากธรณีประตูจวนมหาเสนาบดีอย่างสง่างาม ด้วยการสนับสนุนของฉู่รั่วซีและโตวโตว กระโปรงยาวถึงพื้นปักด้วยด้ายสีทองและสีเงิน ขับเน้นรูปร่างสง่างามที่ไม่มีใครเทียบได้

ยามลมพัดมา มุมผ้าไหมสีแดงคลุมหน้าอยู่สะบัดขึ้นเบาๆ เผยให้เห็นคางเรียวและริมฝีปากสีแดงสด

เพียงแค่ริมฝีปากสีแดงก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจ ไม่รู้ว่าภายใต้ผู้คลุมหน้าที่ประดับด้วยลูกปัดรูปมังกรและเฟิ่งหวงนั้นมีความงามแบบใดซ่อนอยู่

แม้แต่เสี่ยวอวิ๋นเช่อยังอุทานด้วยความประหลาดใจ “ท่านแม่ช่างงดงามยิ่งนัก!”

มู่หรงฉีจ้องเธอด้วยความตกตะลึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา