ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 547

เพราะว่าเรื่องที่บุตรคนโตของจวนรับราชการอยู่ในวังนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เขาไม่ใช่สายเลือดของหลี่ซ่างซู

นางท้องก่อนแต่ง นางใช้กลอุบายอันชาญฉลาดเพื่อหลอกลวงหลี่ซ่างซู ครั้นใกล้จะคลอด นางก็ไปคลอดบุตรชายคนโต รวมหัวกับสนมคนอื่นและคนรับใช้โกหกเรื่องการคลอดก่อนกำหนดและเก็บเป็นความลับ

การหยอกล้อของเหลิ่งชิงฮวนไม่ได้มีความหมายแฝงอะไร แต่เพราะคนฟังมีอะไรในใจหรือมีอะไรในคำพูด?

ฮูหยินหลี่รู้สึกหวาดกลัว นางลอบมองเหลิ่งชิงฮวน เหลิ่งชิงฮวนยิ้มให้นางซึ่งเป็นรอยยิ้มและดวงตาที่เต็มไปด้วยความหมาย

“พวกเรามีอะไรให้พิสูจน์? บุตรของหม่อมฉันย่อมเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใต้เท้าแน่นอน”

“ถ้าอย่างนั้นจะไปกลัวอะไร”

เหลิ่งชิงฮวนมีความมั่นใจและดูเหมือนจะเตรียมพร้อม “ทำไมฮูหยินหลี่ถึงไม่ไปตามบุตรคนโตมาล่ะ ใช่หรือไม่ใช่อีกเดี๋ยวก็จะได้รู้กัน หากพิสูจน์แล้วเลือดของคุณชายใหญ่หลอมรวมกับเลือดของหลี่ซ่างซูได้ อวิ๋นเช่อของข้าก็ยินยอมที่จะพิสูจน์อย่างเต็มใจ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฮองเฮาและคนอื่นๆ ก็ตะลึง

ตอนที่เหลิ่งชิงฮวนตั้งครรภ์ ฮองเฮาเริ่มสงสัยคำโกหกของมู่หรงฉี และสงสัยว่าเด็กในท้องของนางเป็นเพียงลูกนอกสมรสที่ไม่ทราบที่มา

เมื่อได้ยินว่าเหลิ่งชิงฮวนเต็มใจพิสูจน์ ไม่ต้องรอให้ฮูหยินหลี่ออกความเห็นอะไรก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“หากฮูหยินหลี่ยืนกรานเช่นนี้ ก็ลองพิูจน์ดูหน่อยจะเป็นไร จะได้คลายข้อสงสัยให้พวกเราว่าการหยดเลือดพิสูจน์นี้น่าเชื่อถือหรือไม่”

คนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย

เหลิ่งชิงฮวนเหลือบตามอง ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา พลังที่อยู่เบื้องหลังฮองเฮาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าเธอจะต้องรีบสืบหาข้อมูลขององครักษ์อินทรีและคนพวกนี้แล้ว

พอถึงเวลาก็ทำให้พวกเขาสยบแทบเท้าและพร่ำเรียกเธอว่าเจ้านาย ดูสิว่าใครหน้าไหนจะกล้ามายั่วโมโหเธออีก?

วันนี้ฮูหยินหลี่เป็นคนเริ่มวิ่งเข้ามาชนกระบอกปืนของเธอก่อน และบังเอิญว่าเธอกุมความลับของนางไว้ จึงเริ่มก่อนเพื่อให้คนเหล่านี้รู้ถึงผลที่ตามมาของการยั่วยุเธอ

เธอนิ่งเงียบ ก่อนจะค่อยๆ เหลือบตามองไปรอบๆ และจดจำสถานะของคนเหล่านั้นไว้ในใจ

อย่าหาว่าเธอร้ายกาจและน่ารังเกียจ หากไม่มีใครมายุ่งกับเธอ เธอก็จะไม่ไปยุ่งกับใคร

ฮูหยินหลี่ถูกต้อนจนมุม นางไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป ใบหน้าของนางขาวซีด ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร

นางกัดฟันและสั่งหญิงรับใช้ข้างๆ “เจ้าไปเชิญคุณชายใหญ่มาทำการหยดเลือดพิสูจน์ที”

หญิงรับใช้ก้มหัวและรีบออกไปทันที

ฮองเฮาขยิบตาให้แม่นมของนาง แม่นมเข้าใจได้ทันทีก่อนจะอาศัยโอกาสที่ไม่มีใครสนใจเดินตามหญิงรับใช้ออกไป

หลี่ซ่างซูที่เพิ่งออกจากตำหนักหมิงเต๋อก็ถูกเรียกตัวกลับมา เขาไม่เข้าใจอะไร แต่หลังจากที่ถามหญิงรับใช้ก็พบว่าฮูหยินของเขาไปยั่วโมโหพระชายาอ๋องฉีเข้าก็รู้สึกรำคาญ แต่อยู่ต่อหน้าฮองเฮาก็แสดงอาการออกมาไม่ได้มากนัก

ฮองเฮาสั่งให้คนนำถ้วยชามาแล้วเทน้ำลงไป

สองพ่อลูกกรีดปลายนิ้วแล้วหยดเลือดลงไป มือของคุณชายใหญ่สั่นเล็กน้อยอย่างประหม่า เลือดไหลตามนิ้วเข้าไปในเล็บแล้วหยดลงในถ้วยชา

ทุกคนจ้องมองที่ถ้วยชาอย่างตั้งใจ เลือดสองหยดกระจายตัวก่อนจะค่อยๆ หลอมรวมกัน

ฮูหยินหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ชี้ไปที่ถ้วยชาและถามเหลิ่งชิงฮวนอย่างร้อนรน “ดูสิ เลือดของทั้งสองหยดหลอมรวมกันหมายความว่าพวกเขาเป็นบิดาและบุตรกัน พระชายาอ๋องฉียังมีอะไรจะพูดอีกไหมเพคะ”

ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าการหยดเลือดพิสูจน์จะได้ผล พระชายาอย่าได้ลืมคำพูดก่อนหน้านี้ล่ะ”

เมื่อมีตัวอย่างเช่นนี้ หากเลือดของเสี่ยวอวิ๋นเช่อไม่สามารถหลอมรวมกับเลือดของอ๋องฉีได้ก็แสดงว่าเสี่ยวอวิ๋นเช่อคนนี้เป็นพระนัดดาตัวปลอมแน่นอน

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิดอยู่นาน “การหยดเลือดพิสูจน์นั้นได้ผลหรือไม่ข้าไม่รู้ แต่วิธีการสลายเม็ดเลือดแดงของฮูหยินหลี่ได้ผลดีจริงเชียว”

ฮูหยินหลี่กล่าวอย่างมั่นใจ “พระชายาหมายความว่าอย่างไรเพคะ พวกเขาเป็นพ่อลูกกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่เลือดของพวกเขาจะหลอมรวมเข้าด้วยกัน”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้โต้ตอบแต่พุ่งเข้าไปจับนิ้วของหญิงรับใช้คนนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้มีดกรีดเบาๆ เลือดสีแดงสดไหลออกมาทันที

หญิงรับใช้ร้องด้วยความเจ็บปวดและพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่นางก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากมือของเหลิ่งชิงฮวนได้ เหลิ่งชิงฮวนลากนางไปหยดเลือดลงในถ้วยชา

มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น เลือดของหญิงรับใช้หลอมรวมกับเลือดสองหยดอย่างสมบูรณ์

จากนั้นเหลิ่งชิงฮวนก็ปล่อยหญิงรับใช้และถามฮูหยินหลี่ด้วยรอยยิ้ม “ท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี?”

ฮูหยินหลี่หน้าเปลี่ยนสี อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก

"หากการหลอมรวมของหยดเลือดของใต้เท้าหลี่และคุณชายใหญ่สมเหตุสมผลจริงๆ ข้าขอถามฮูหยินหลี่หน่อยว่าท่านสั่งให้หญิงรับใช้ไปกำชับอะไรกับคุณชายใหญ่"

ใบหน้าของฮูหยินหลี่ขาวซีด “กำชับอะไร? หม่อมฉันไม่เข้าใจสิ่งที่พระชายาพูด”

เหลิ่งชิงฮวนขยิบตาให้เทียนฉือที่อยู่ข้างๆ

เทียนฉือก้าวออกมาและเปล่งเสียง “เมื่อครู่บ่าวตามสาวใช้นางนี้ออกไปและได้ยินนางกำชับกับคุณชายใหญ่ว่าให้ซ่อนสารส้มไว้ที่ใต้เล็บ ตอนที่หยดเลือดลงไปก็อาศัยโอกาสนั้นทิ้งสารส้มลงไปในถ้วย เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นกับตาว่าเลือดของคุณชายใหญ่ไหลไปที่เล็บก่อนจะหยดลงในถ้วย เห็นได้ชัดว่าเขาเจตนาทำเช่นนั้น”

ทุกคนงุนงงและไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเล็กน้อย “ทุกคนรู้ว่าเกลือสามารถเร่งการแข็งตัวของเลือดได้ แต่ในทางกลับกันสารส้มกลับช่วยทำให้เลือดหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ ไม่ต้องพูดถึงพ่อลูก แม้แต่เลือดของสัตว์กับคนก็สามารถหลอมรวมกันได้ ดังนั้นข้าจึงแปลกใจมากที่ฮูหยินหลี่มั่นใจในวิธีการนี้มาก ซ้ำยังยืนกรานอย่างขันแข็ง”

“ท่านใส่ร้ายคนอื่น!” ฮูหยินหลี่โกรธจัดเมื่อถูกเปิดโปง

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แค่ตรวจสอบเล็บของคุณชายใหญ่ ความจริงจะไม่เปิดเผยหรือ? ข้าเชื่อว่ามันคงจะมีตกค้างอยู่บ้าง” เหลิ่งชิงฮวนเย้ยหยัน

หลี่ซ่างซู่มองฮูหยินของเขาด้วยสีหน้าที่แตกต่างออกไป เส้นเลือดปูดออกมาที่หน้าผาก เขาขบกรามแน่น

อาการวัวสันหลังหวะของฮูหยินหลี่ชัดเจนขนาดนี้ จะไม่น่าสงสัยได้อย่างไร?

ฮูหยินไม่กล้าที่จะท้าทายเหลิ่งชิงฮวน เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนนางจะยอมแพ้

“หม่อมฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับการหยดเลือดพิสูจน์แต่ไม่รู้ว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่ ดังนั้นจึงคิดวิธีโง่ๆ เช่นนี้มา”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเยือก “ในเมื่อฮูหยินหลี่ไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่ แต่กลับใช้สิ่งนี้มาตัดสินความสัมพันธ์ของบุตรชายข้ากับท่านอ๋อง ไม่กลัวจะเป็นการใส่ร้ายข้างั้นหรือ?”

ฮูหยินหลี่คุกเข่าลงกับพื้น

นางกลัวจริงๆ เหลิ่งชิงฮวนส่งคนไปติดตามหญิงรับใช้ของนางซึ่งหมายความว่านางอาจจะรู้ตัวนานแล้ว ซ้ำยังรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ก่อนแต่ง ดังนั้นจึงคาดเดาได้ว่านางจะแอบทำอะไรลับๆ

นี่มันน่ากลัวมาก พระชายาอ๋องฉีจากเมืองหลวงไปห้าปี แต่ดูเหมือนนางจะยังรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับราชสำนัก

อย่างน้อยที่สุด บุตรของนางเองก็รับใช้ราชการอยู่ในกองทัพในวัง เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้บางคนที่อยู่ตรงนั้นอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่เหลิ่งชิงฮวนรู้ได้อย่างไรกัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา