ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 563

สรุปบท ตอนที่ 563 สะบัดแส้หนัง: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 563 สะบัดแส้หนัง จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 563 สะบัดแส้หนัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

จิ่นอวี๋ฟังการเคลื่อนไหวอย่างตั้งใจ เพราะนางมองไม่เห็นจึงไม่รู้ว่าพระสนมฮุ่ยเฟยกำลังยืนกำลังยืนข้างหน้าเสี่ยวอวิ๋นเช่อ นางยิ้มอย่างมีชัยเพราะคิดว่าตนเองทำสำเร็จแล้ว

“ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดข้าก็ได้แก้แค้นเสียที!สวรรค์เมตตาข้า ข้าทนกับความอัปยศอดสูมาหลายปี ในที่สุดข้าก็มีโอกาสทำให้เหลิ่งชิงฮวนได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวด แม้ว่าข้าจะไม่ได้ลงมือฆ่านางด้วยตัวเอง แต่นางจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกชายไปตลอดชีวิต! ความทรมานที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!

ข้าจะตอบแทนความเจ็บปวดที่นางเคยมอบให้ข้า! หนอนกู่พิษไฟเหล่านี้จะทำให้เขามีไข้สูง ร่างกายถูกแผดเผาเหมือนไฟและจะขาดน้ำตายกลายเป็นซากศพแห้งกรัง!ไม่รู้ว่าตอนที่เหลิ่งชิงฮวนเห็นจะร้องไห้จนน่าเวทนาเพียงใด”

“หญิงชั่ว!ข้าจะฆ่าเจ้า!”

บานประตูของตำหนักเย็นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยแรงจากฝ่ามือ

จิ่นอวี๋กระเด็นไปตามแรงลมก่อนจะตกลงพื้นอย่างแรง

สีหน้าของนางซีดเผือดทันที “ท่านพี่”

“อย่ามาเรียกข้าว่าท่านพี่ เจ้ามันไม่คู่ควร!” มู่หรงฉีเดินเข้าไปหานางราวกับยมทูตที่ปล่อยกลิ่นอายสังหาร “เสด็จแม่ของข้าเลี้ยงดูเจ้ามาหลายปี แต่เจ้ากลับตอบแทนความใจดีด้วยการสังหารนางเช่นนี้ จิ่นอวี๋ เจ้ามันหญิงสารเลว ข้าจะเก็บเจ้าไว้อีกทำไม!”

จิ่นอวี๋ผงะถอยไปสองสามก้าวด้วยความตื่นตระหนก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง “คนที่ถูกพิษไม่ใช่เจ้าเด็กนั่นหรือ”

“เสด็จแม่!”

เหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีพุ่งเข้าไปปราบหนอนกู่พิษไฟ ก่อนจะหันไปมองอาการของพระสนมฮุ่ยเฟยพร้อมกับอุทานออกมา

เมื่อเห็นทั้งสองคนมาถึง พระสนมฮุ่ยเฟยก็ไม่อาจรั้งร่างกายแข็งทื่อไว้ได้ นางล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง

ชิงฮวนพุ่งเข้าไปประคองนางไว้และรู้สึกว่าร่างกายของอีกฝ่ายร้อนประดุจไฟเผา ใบหน้าและลำคอของพระสนมฮุ่ยเฟย แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มพลางแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ของเหลวในร่างกายสูญเสียไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากไข้สูง

เหลิ่งชิงฮวนหยิบขวดยาออกมาโดยไม่ต้องคิด ก่อนจะพระสนมฮุ่ยเฟยดื่มยาลดไข้

จากนั้นเธอก็ตะโกนบอกกับมู่หรงฉี “ไว้ชีวิตนางก่อน!”

หากนางไม่สามารถแก้พิษจากหนอนกู่พิษไฟได้ด้วยตนเองจะทำอย่างไรต่อไป

มู่หรงฉีกัดฟันแน่นพร้อมกับถามจิ่นอวี๋ “แก้พิษอย่างไร”

จิ่นอวี๋ส่านหน้าไปมา “ไม่รู้ หม่อมฉันใช้มันเล่นงานได้ แต่ไม่รู้วิธีแก้พิษของมัน”

มู่หรงฉีคุกเข่าลงพลางคว้าคอของนาง “จะฆ่าเจ้าข้ายังกลัวว่ามือจะแปดเปื้อนเสียด้วยซ้ำ เสด็จแม่ทั้งรักและปกป้องเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ากลับตอบแทนนางเช่นนี้ จิ่นอวี๋ ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม หากเจ้าไม่อบยาถอนพิษให้กับข้า อย่าหาว่าข้าหยาบคายก็แล้วกัน”

จิ่นอวี๋เบิกตาสีเท่าอันว่างเปล่ากว้างขึ้น “หากท่านไม่เอาแต่มอบความหวังให้ข้า ข้าจะมีจุดจบเช่นวันนี้หรือ หากท่านอยากจะฆ่าหม่อมฉันก็เอาเลย ต่อให้ท่านจะเกลียดหม่อมฉันจนถึงกกระดูดำ หม่อมฉันก็จะให้ท่านจำหม่อมฉันไปตลอดชีวิต” เหลิ่งชิงฮวนได้ยินว่านางเป็นคนนิสัยดื้อรั้น นางโทษทุกอย่างไว้ที่พระสนมฮุ่ยเฟยและปล่อยให้ความโกรธแค้นครอบงำจิตใจ จากนั้นนางจึงเติมของเหลวให้พระสนมฮุ่ยเฟยอย่างรวดเร็ว สั่งให้คนเฝ้าดูและเดินไปหาจิ่นอวี๋ ก่อนจะดึงมู่หรงฉีออกไปด้านข้าง

“จะต้องพูดอะไรกับนางอีก”

เหลิ่งชิงฮวนยกชายกระโปรงขึ้นเตะเสียหน้าจิ่นอวี๋ “วันนี้ข้ารู้แล้วว่าหมาป่าตาขาวคืออะไร ข้าจงใจแพ้เจ้ากับเหลิ่งชิงหลาง เพราะอยากจะรู้ว่าคนอย่างพวกเจ้าจะจิตใจโหดเหี้ยมขนาไหน” เลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของจิ่นอวี๋ทันที

เหลิ่งชิงฮวนยังคงโกรธมาก เธอก้มลงไปจิกผมของอีกฝ่ายขึ้นมาก่อนจะตบหน้าอีกสองครั้ง “เจ้าไม่รู้วิธีถอนพิษก็ไม่เป็นไร ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสหนอนกู่พิษไฟด้วยตัวเอง อย่าคิดว่าเจ้าจะใช้มันเป็นเพียงคนเดียว

ข้าถอดเสื้อผ้าเจ้าเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าร่างกายเจ้าเหือดแห้งไปทีละน้อย ฉากนี้ต้องสวยงามากแน่ๆ เจ้าก้รู้ว่าหากข้าบ้าขึ้นมา ต่อให้เป็นราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่อาจควบคุมข้าได้!”

ให้ตายเถอะ ใกล้ตายขนาดนี้ยังคิดถึงสามีคนอีกอยู่อีก หน้าไม่อายหรือไง

ฮ่องเต้เสด็จมาถึงที่นี่แล้ว

เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ เมื่อฮ่องเต้ทรงทราบข่าวจึงตามไปที่นั่นอย่างเร่งรีบ

เหลิ่งชิงฮวนโกรธจัด เธอดึงแส้ออกจากเอวโดยไม่สนใจชายชราผู้สูงศักดิ์ที่เพิ่งมาถึง

ยามเข้าวังจำเป็นจะต้องส่งมอบกระบี่ของมู่หรงฉี แต่ไม่จำเป็นกับแส้หนังของเธอ

เหลิ่งชิงฮวนสะบัดข้อมืออย่างแรงและไร้ความปรานี จู่ๆ จิ่นอวี๋ก็กรีดร้อง ผิวหนังของนางถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และกำลังดิ้นด้วยความเจ็บปวด

อันที่จริงไม่มีกล้าทำการอุกอาจต่อหน้าฮ่องเต้ได้ ดังนั้นมู่หรงฉีจึงพยายามกอดเหลิ่งชิงฮวนที่กำลังโกรธเกรี้ยวเอาไว้

“สิ่งสำคัญคือต้องช่วยชีวิตเสด็จแม่ก่อน”

เหลิ่งชิงฮวนรู้ว่าการหุนหันพลันแล่นนั้นเป็นสิ่งไม่ดี แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้านั้นนางก้รู้สึกอดไม่ได้

ผู้คนในวังที่อยู่โดยรอบต่างพากันตกตะลึง ลืมโค้งคำนับต่อองค์ฮ่องเต้ไปครู่หนึ่ง

ว่ากันว่าพระชายาเอกของฉีอ๋องมีอารมณ์ร้ายแต่ไม่มีใครเชื่อ วันนี้พวกเขาได้รับรู้กันแล้วถ้วนหน้า ไม่แปลกใจเลยที่ท่านฉีอ๋องไม่กล้าแต่งงานใหม่

สตรีในวังที่ต่อสู้กันนั้นอ่อนแอปวกเปียกราวกับไม่ได้กินอะไรมาสองสามวัน แต่ดูพระชายาเอกฉีอ๋อง... แส้หนังเล็กๆ ถูกสะบัดอย่างแรง การเคลื่อนไหวนั้นเหมือนกับการจุดประทัด ในงานรื่นเริง

จิ่นอวี๋ตกอยู่ในสภาพน่าเวทนา ร่างของนางเต็มไปด้วยเลือดพร้อมกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา