ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 562

สรุปบท ตอนที่ 562 เจ้าเป็นลูกชายของเหลิ่งชิงฮวนงั้นหรือ: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 562 เจ้าเป็นลูกชายของเหลิ่งชิงฮวนงั้นหรือ จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 562 เจ้าเป็นลูกชายของเหลิ่งชิงฮวนงั้นหรือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

พระสนมฮุ่ยเฟยแอบไปตำหนักเย็นเพียงลำพังตามที่เหลิ่งชิงฮวนคาดไว้

จิ่นอวี๋ถูกคุมขังในตำหนักเย็น หลังจากที่พระสนมฮุ่ยเฟยรู้เรื่องนี้ นางจงใจแสร้งทำเป็นไม่สนใจอยู่สองสามวัน และรู้ดีว่าความเสียใจช่วงห้าปีที่ผ่านมาของลูกชายล้วนเกิดมาจากจิ่นอวี๋ ไม่สามารถโทษใครได้

นางเลี้ยงดูหล่อนมาเป็นเวลานานนับหลายปี ปฏิบัติต่อหล่อนเหมือนเป็นลูกของตัวเอง พระคุณที่พ่อของหล่อนมีต่อมู่หรงฉีถือว่าตอบแทนจนหมดสิ้น ชีวิตความเป็นความตายของหล่อนนับจากนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนางอีกต่อไป

นางคิดเช่นนี้จริงๆ ทว่าเมื่อคืนนางได้ยินสาวใช้สองคนพูดถึงจิ่นอวี๋ลับหลัง โดยบอกว่าสถานการณ์ของจิ่นอวี๋ในตอนนี้นั้นช่างน่าสังเวชยิ่งนัก ทำให้นางที่ได้ฟังเกิดความไม่สบายใจ

หนึ่งในนั้นคือสาวรับใช้ถวายพระกระยาหารให้กับฮองเฮา

“ข้าได้ยินมาว่าแม้ว่าองค์หญิงจิ่นอวี๋จะได้รับการช่วยเหลือจากพระชายา ทว่านางแทบสูญเสียชีวิตของตัวเองไปครึ่งหนึ่ง ตอนที่นางตัวส่งตัวเข้าไปในตำหนักเย็น นางไม่สามารถขยับตัวได้เลยนอกจากดวงตา แล้วอาหารในตำหนักเย็นนั่นใครจะกินลงบ้าง ช่างน่าสงสารจริงๆ”

“นั่นสิ ไม่มีใครให้พึ่ง นอกจากพระสนมฮุ่ยเฟย ไม่มีใครที่รักนางอย่างสุดหัวใจอีกแล้ว”

พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยิน นางนอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจิ่นอวี๋อยู่กับนางมาหลายปี ชดเชยความอ้างว้างยามที่มู่หรงฉีไม่ได้อยู่ใกล้ชิดและกตัญญูเหมือนดั่งลูกสาวคนหนึ่ง

ความรู้สึกที่มีต่อมู่หรงฉีเกี่ยวข้องกับตัวนางเองเช่นกัน หลังจากคิดซ้ำไปซ้ำมา ในที่สุดนางก็ทนไม่ได้และแอบไปที่ตำหนักเย็น แม้จะได้มองดูอยู่ห่างๆ ก็ตาม

ทันทีที่ไปถึง พระสนมฮุ่ยเฟยเห็นเสี่ยวอวิ๋นเช่ออยู่ที่นั่น

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเดินอยู่หน้าตำหนักเย็น

ก่อนจะมุดหัวเข้าไปในรอยแตกของประตูและมองเข้าไปด้านใน

องครักษ์ที่เฝ้าตำหนักเย็นเดินตามหลังเขาด้วยความเคารพ

ประตูสีชาดมีรอยด่าง บานประตูถูกแมลงกัดกร่อน นอกจากลมและแสงแดดแล้ว กำปั้นเล็กยังสามารถสอดผ่านช่องว่างนั้นได้

“เปิดประตู!” เสี่ยวอวิ๋นเช่อสั่งองครักษ์

องครักษ์รู้สึกลำบากใจ “รายงานองค์รัชทายาทน้อย นักโทษในตำหนักเย็นนี้เป็นอาชญากรคนสำคัญ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งมิให้ผู้ใดเข้าไปพบ”

“ข้าไม่ได้จะเข้าไปพบ ข้าแค่จะเดินดูรอบๆ”

พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกแปลกใจ ตำหนักเย็นตั้งอยู่ในที่ห่างไกล เหตุใดเสี่ยวอวิ๋นเช่อจึงมาที่นี่เพียงลำพัง?คนรอบตัวเขาหายไปไหนกันหมด

นางก้าวไปข้างหน้าและบอกกับองครักษ์ “เจ้าถอยออกไปก่อน”

อีกฝ่ายถอยกลับทันทีอย่างเชื่อฟัง

พระสนมฮุ่ยเฟยจับมือเสี่ยวอวิ๋นเช่อ “ทำไมเจ้ามาที่นี่คนเดียว”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อจับแขนเสื้อของพระนางเขย่าไปมา “เมื่อครู่ตอนที่กระหม่อมกำลังเล่นซ่อนแอบ กระหม่อมเห็นลิงน้อยแสนสวยตัวหนึ่ง มันเดินเข้าไปในนั้น ท่านบอกพวกเขาให้เปิดประตูแล้วช่วยจับลิงตัวนั้นให้ได้หรือไม่ขอรับ กระหม่อมชอบมันมากทีเดียว”

พระสนมฮุ่ยเฟยตกอยู่ในความงุนงง

ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีใครเลี้ยงลิงในพระราชวังแห่งนี้มาก่อนนะ

นางลูบหัวของเสี่ยวอวิ๋นเช่อเบาๆ “หากเจ้าชอบค่อยให้แม่เจ้าซื้อให้ในภายหลังก็ได้”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อเท้าเอวด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างชี้ไปที่จิ่นอวี๋แล้วพูดอย่างดุดัน “หากท่านยังกล้าพูดให้ร้ายแม่ข้าอีกคำหนึ่ง ท่านจะเป็นคนสารเลว!”

จิ่นอวี๋ตกตะลึง “แม่?เจ้าเป็นลูกชายของเหลิ่งชิงฮวนหรือไม่”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อตะคอก “ข้าเคยเห็นท่านมาก่อน ท่านอยู่กับพวกวายร้ายที่รังแกแม่ข้า ท่านสมควรถูกขัง”

จิ่นอวี๋ยิ้มและโบกมือให้เสี่ยวอวิ๋นเช่อ “มานี่สิ ข้ามีของดีจะให้เจ้า”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อนึกถึงลิงตัวนั้นก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล “ของดีอะไร ลิงน้อยงั้นหรือ”

จิ่นอวี๋ยิ้มอย่างแปลกประหลาด “ใช่ ข้ามีลิงน้อยน่ารัก ข้าจะเอาให้เจ้าหากยอมเดินเข้ามา”

พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงเริ่มระแวดระวัง จากนั้นก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องเสี่ยวอวิ๋นเช่อพลางถามจิ่นอวี๋ “เจ้าต้องการทำอะไร”

จิ่นอวี๋เปลี่ยนใบหน้าแห่งความขมขื่นเมื่อครู่กลายเป็นยิ้มอย่างเย็นชา “ทำในสิ่งที่หม่อมฉันอยากทำมาตลอดน่ะสิ!มันไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน!”

หลังจากพูดจบ นางจึงอ้าปากกว้าง แมลงเปลือกแข็งสีแดงสองสามตัวบินออกมาบินออกมา ขนาดเท่าแมลงเต่าทองบินตรงไปยังพระสนมฮุ่ยเฟยและเสี่ยวอวิ๋นเช่อ

ทั้งสองคนไม่รู้คุณประโยชน์ของมัน พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกเพียงว่าฉากตรงนี้น่าขนลุก จิ่นอวี๋เหมือนกบที่แลบลิ้นออกมาเพื่อล่าเหยื่อ เมื่ออ้าปากและมีเป็นแมลงบินตอมที่ปลายลิ้น เพียงม้วนเดียวก็กลืนลงท้องอย่างง่ายดาย

นางหันกลับมาปกป้องเสี่ยวอวิ๋นเช่อ โดยหน้าหลังเปิดเผยลำคอให้กับแมลงเหล่านั้น

แมลงสีแดงเลือดพุ่งตรงไปยังผิวหนังของนาง ทันใดนั้นผิวขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มทันทีราวกับถูกพิษ

พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกเจ็บแปลบแต่ไม่กล้ายกมือขึ้นปัด เพราะเกรงว่าหากยกมือขึ้น แมลงเหล่านั้นจะใช้ประโยชน์จากห้วงเวลานั้นทำให้เสี่ยวอวิ๋นเช่อถูกทำร้ายไปด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา