ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 596

เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงคำพูดของน่าเยี่ยไป๋ขึ้นมาได้ เหตุใดน่าจาอี๋นั่วถึงเลือกอ๋องเซวียนล่ะ?

อันที่จริงอ๋องเซวียนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาได้ แต่ความทะเยอทะยานของนางล่ะ? จะยอมอุทิศตนให้จวนอ๋องเซวียนไปตลอดชีวิตจริงๆ รึ?

ดั่งคำที่กล่าวว่า รีบถอนตัวในตอนรุ่งเรือง เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะในอนาคต เหลิ่งชิงฮวนคิดว่าหากนางอยู่ในสถานการณ์ของน่าจาอี๋นั่ว สิ่งที่นางคิดก็คงจะเป็นการมองหาผู้ชายดีๆ ที่มิรู้จักมาแต่งงานด้วย และฝากฝังชีวิตไปชั่วนิรันดร์

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถปัดเป่าความระมัดระวังของฮ่องเต้ที่มีต่อนางไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครึ่งชีวิตหลังจากนี้ก็จะมั่นคง

น่าจาอี๋นั่วฝ่าเข้าไปในกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากอย่างกล้าหาญ พยายามทุกวิถีทางเพื่อปีนขึ้นไปหาอ๋องเซวียนผู้ที่หวังว่าจะได้ครองบัลลังก์ เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานยังมีอยู่ ความทะเยอทะยานของนางควรจะอยู่ที่หนานจ้าว มิใช่ฉางอัน

ฉะนั้นเหลิ่งชิงฮวนจึงครุ่นคิดพิจารณาแผนที่น่าจาอี๋นั่วสมรสกับอ๋องเซวียน ก็คงจะอาศัยอำนาจจากอ๋องเซวียน

ไม่กี่วันต่อมา กลับดำเนินไปอย่างราบรื่น ในจวนอ๋องเซวียนก็ยังมีความคึกคักให้รับชมกันอย่างต่อเนื่อง

อันที่จริงแล้วมิใช่เพียงจวนอ๋องเซวียนเท่านั้น แต่รวมถึงทั้งเมืองหลวงด้วย ในบ้านที่มีอนุและภรรยาอยู่ด้วยกันนั้น มีบ้านใครบ้างที่มิมีความวุ่นวาย?

มีเพียงจวนอ๋องฉีเท่านั้น ชีวิตครอบครัวเล็กๆ ที่นับวันก็ยิ่งรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านในเมืองหลวงได้ยินมาว่าพระชายาฉีนำธุรกิจของเจียงหนานมาถึงเมืองหลวง ทุกคนก็ต่างหาเลี้ยงชีพ เงินทองไหลมาเทมาราวกับพายุพัด

สำหรับอ๋องฉีและพระชายาฉีนั้น ผู้คนมักจะเห็นครอบครัวสามคนเดินจูงมือกันไปตามท้องถนน

ชายหนุ่มมีสง่าราศี หล่อเหลามิธรรมดา แม้ว่าจะเป็นการเดินเล่น ก็ยังสามารถแสดงพลังของผู้นำกองกำลังเป็นพันๆ หมื่นๆ ได้

ดวงตาของเขาเย็นยะเยือก เฉียบคม และเก็บตัว แต่เมื่อภรรยาและลูกอยู่ข้างกายเท่านั้น ก็มีความแวววาวประหลาดเด้งและลอยออกมาจากดวงตา มีความอบอุ่นแผ่ซ่านเป็นระลอก

หญิงสาวแต่งกายแบบสบายๆ ทรงผมปักปิ่นแบบง่ายๆ บางครั้งก็จะติดกิ๊บแมลงปอกระพือปีกข้างขมับ หรือไม่ก็กิ๊บติดผมรูปนกสีทองอันสูงส่ง รูปแบบล้วนเรียบง่ายสบายๆ เสื้อผ้าก็มิได้มีลายปักหรือรูปแบบที่ยุ่งยากซับซ้อนเช่นกัน

แต่งตัวธรรมดาสามัญ บนตัวของหญิงสาวทำให้เห็นความมั่นใจเรียบง่าย และสูงส่งในทุกอิริยาบถ เปรียบดั่งดอกพุดตานบานสะพรั่งเหนือน้ำโดยปราศจากกิ่งก้านสาขา

บวกกับเสี่ยวอวิ๋นเช่อที่เป็นลูกรักพระเจ้า ช่างงดงามเรียบง่าย สามคนพ่อแม่ลูกเดินอยู่บนถนน ใครๆ ก็ต่างอิจฉา

เหลิ่งชิงฮวนเป็นคนที่มิสามารถอยู่เฉยได้ จุดศูนย์กลางของธุรกิจฝั่งเจียงหนานค่อยๆ ขยับขยายไปถึงฝั่งเมืองหลวง พลิกแพลงใช้การตลาดสมัยใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ

ในอดีต เหลิ่งชิงฮวนมิได้คิดที่จะไปคลุกคลีอันใดในเมืองหลวงนัก และทำให้มู่หรงฉีสงสัยใคร่รู้อีก ฉะนั้นเมืองหลวงจึงเป็นตลาดที่ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ การแทรกธุรกิจเข้ามาในวันนี้ก็เพราะแรงอิทธิพลของนาง กลับราบรื่น มิมีอุปสรรคใดๆ

ทักษะการแพทย์ของเหลิ่งชิงฮวนเป็นที่รู้จักในเมืองหลวงมาระยะหนึ่งแล้ว การเปิดร้านขายยานั้น ธุรกิจก็มิจำเป็นต้องพูดให้มากความ สาเหตุเพราะอิทธิพลของการแต่งงานของลี่ว์อู๋ท่ามกลางบุคคลที่มีอำนาจในเมืองหลวง หอหนีซางจึงยังมิเปิด ใครหลายๆ คนเตรียมรับมือ เตรียมพร้อมที่จะแย่งชิง

เหลิ่งชิงฮวนมิจำเป็นต้องกังวลเรื่องเหล่านั้น สิ่งที่นางต้องทำก็คือ มิมีอะไรมากไปกว่าการตัดสินใจและคำนวน

ปลายนิ้วขาวของนางวาดขึ้นลง ดีดลูกคิดดัง “แกร็กๆ ” ยามที่เงินทองไหลมาเทมา ในใจของอ๋องฉีได้รับความเสียหายถึงหนึ่งหมื่นแต้ม

เขารู้สึกว่าตนในวันนี้ นอกจากจะเป็นท่านอ๋องฉีแล้ว ก็เหมือนว่านับวันก็ยิ่งมิคู่ควรกับภรรยาของตนขึ้นเรื่อยๆ

นางเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ สามารถทำธุรกิจหาเงินได้ เอาอกเอาใจเสด็จพ่อมากกว่าตน ฐานะทางสังคมสูง ความสามารถสูง มีความสามารถมากกว่าผู้ชายคนหนึ่ง จะมีหรือมิมีสามีก็มิสำคัญ แต่ตนนั้นกลับยิ่งแยกจากนางมิได้!

สิ่งนี้ทำให้อ๋องฉีทุกข์ใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าตนเองกำลังเกาะผู้หญิงกิน แม้ว่ามันจะราบรื่น แต่ก็รู้สึกคับข้องใจ

ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่ง ชิงฮวนพบจุดนี้เข้า และมิต้องการตนแล้ว จะทำเยี่ยงไรล่ะ?

มู่หรงฉีลืมบทเรียนที่ถูกรองแม่ทัพอวี๋ทำให้ขาดทุนย่อยยับในครั้งก่อน จึงถามเขาอย่างแผ่วเบาว่า “นับวันข้ายิ่งรู้สึกอันตรายมากขึ้น จะทำเยี่ยงไรดี”

รองแม่ทัพอวี๋เข้ากันได้กับสตรีในจวนท่านอ๋องเหมือนปลาได้น้ำ เห็นได้ชัดว่าช่ำชองเรื่องความรู้สึกและอารมณ์ รู้ใจพี่สาว ถ่ายทอดประสบการณ์ของตนด้วยคำพูดที่อัดแน่นไปด้วยน้ำใสใจจริง

“ผู้ชายมิคุ้นเคย ยิ่งคุ้นเคยก็จะยิ่งทำตัวมิดี ผู้หญิงที่ได้รับความโปรดปรานก็จะยิ่งเอาแต่ใจ การปฏิบัติต่อพระชายานั้น ท่านอ๋องก็ต้องโปรดปราน หลงจนโงหัวมิขึ้น หลงนางอย่างมิลืมหูลืมตา มิว่าใครก็ต่างทนความเย่อหยิ่งของนางได้ แค่เห็นก็น่ากลัวแล้ว เมื่ออยู่ข้างนอก ท่านจะต้องพยายามพูดเกินจริง เพื่อทำลายชื่อเสียงของพระชายา เหมือนกับรัชทายาท คนอื่นก็จะเคารพอยู่ห่างๆ มิกล้ายั่วยุ”

ให้ข้าทำลายชื่อเสียงของพระชายางั้นรึ?

ท่านทาหน้าขาว ประจบประแจงปกป้องภรรยา ข้าทาหน้าดำ ช่วยท่านป้องกันมิให้ผึ้งและผีเสื้อบ้าสร้างกำแพงตัดแต่งกิ่งไม้ ถึงตอนนั้นก็จะเผยออกมา ท่านจะขายข้าแลกกับความไร้เดียงสา ความเมตตา ความสูงส่งและมิมีผู้ใดทัดเทียมอีกรึ ท่านอ๋อง เหตุใดท่านถึงไร้ยางอายเช่นนี้นะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา