ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 609

“เจ้าแน่ใจหรือว่าธนาคารของตระกูลโฉวเป็นเขาที่เข้ามาขโมยไป?” มู่หรงฉีเอ่ยถาม

“นี่มันเป็นเรื่องเห็นกันอยู่ทนโท่ชัดเจนอยู่แล้วจะไม่ใช่ได้ไง? ถ้าหากไม่ใช่เขาทำแล้วจะมาขังข้าไว้ที่นี่เพื่ออะไร? อีกอย่างยังจะส่งคนมาขู่บังคับข้าโดยการพยายามจะถลกหนังของข้าออกหนึ่งชั้นเพื่อจะถามหาว่าตราประทับชาดอยู่ที่ไหน ”

เหลิ่งชิงฮวนมีความกังวลใจเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นก็น่าจะลำบากขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว ถึงจะมีความสามารถยังไงก็คงยากที่จะจัดการกับคนที่มีอำนาจในพื้นที่ได้ ไม่แน่ว่าพวกเราเองก็จัดการกับเขาไม่ได้”

“และพวกเจ้าทั้งสองคนทำไมไม่พาทหารมาด้วย? พวกเจ้าโง่หรือเปล่า?”

มู่หรงฉีก้าวขึ้นไปข้างหน้าไปประคองโฉวซือเส่าชึ้น และเบียดเหลิ่งชิงฮวนออกไปอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ “เจ้าเองก็ไม่ใช่ว่าบุกเดี่ยวเข้ามาในถ้ำเสือแห่งนี้เพียงคนเดียวหรอกหรือ? ยังไงก็มีคนร่วมชะตากรรมด้วย สำหรับสถานการณ์อันน่าสงสารอีกนิดเดียวก็เกือบจะถูกฝังตายอยู่ที่นี่และปล่อยให้สุนัขสองตัวข้างนอกนั้นกินไปแล้วแบบนี้?”

ยังไม่ทันได้พูดจบยาที่วางใส่สุนัขข้างนอกก็เริ่มหมดฤทธิ์ลง พวกมันค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับหอนเสียงครวญครางในปาก ท่าไม่ดีแล้วถ้าหากพวกมันเห่าขึ้นมาจะต้องทำให้คนในจวนไหวตัวขึ้นมาอย่างแน่นอน

เหลิ่งชิงฮวนเริ่มเร่งขึ้น “มีอะไรจะพูดออกไปก่อนค่อยว่ากันเถอะ”

ทั้งสองคนแบกโฉวซือเส่าที่แยกเขี้ยวยิงฟันใส่ออกจากห้องใต้ดิน พอโผล่หัวออกมาได้ก็ต้องตกตะลึงในทันที

เรือนเล็กด้านนอดถูกล้อมเอาไว้แล้ว เบื้องหน้าของทั้งสามคนเต็มไปด้วยดาบที่แกว่งไกวไปมา ด้านในมีการตั้งกำลังถึงสามชั้นและข้างนอกยังมีอีกสามชั้นแน่นหนายิ่งนักไม่รู้ว่าระดมทหารมามากมายเท่าไร

ดูเหมือนว่าการมาถึงของทั้งสองคนถูกจับได้นานแล้ว

ผู้บัญชาการฟู่เดินออกมาจากทางด้านหลังฝูงชน “ข้าปฏิบัติต่อท่านเหมือนแขกคนสำคัญ ใครจะนึกว่าท่านจะมีแรงจูงใจอย่างอื่นซ่อนเร้นอยู่ ดึกดื่นค่ำคืนถึงเพียงนี้แต่ไม่ยอมหลับยอมนอนแห่มาที่เรือนหลังของข้าเพื่ออะไร?”

เหลิ่งชิงฮวนมองดูสถานการณ์แล้วเห็นว่าคงแกล้งแสดงต่อไปไม่ได้ จึงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเองก็อยากนอนอยู่เหมือนกัน แต่ว่าในหูของข้าเอาแต่ได้ยินคนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ รำคาญจนทำให้ข้านอนไม่หลับจึงเดินตามเสียงมา คาดไม่ถึงว่าผู้บัญชาการฟู่จะสร้างคุกใต้ดินส่วนตัวเอาไว้เพื่อกักขังผู้อื่นและยังต้องการฆ่าคนปิดปากเสียด้วย ข้าจึงไม่สามารถนิ่งดูดายได้และคนผู้นี้ยังบังเอิญเป็นคนที่พระชายาอย่างข้ารู้จักซะด้วยสิ”

ผู้บัญชาการฟู่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน “พระยาชา? หญิงบ้านนอกจากที่ไหนก็ไม่รู้ กลับกล้าปลอมแปลงป้ายคำสั่งและยังปลอมตัวเป็นพระชายาในเชื้อพระวงศ์อีก ข้าเพิ่งจะได้รับข่าวจากหน่วยข่าวกรองมาว่าขณะนี้พระชายาตัวจริงกำลังนำทัพไปปราบโจรที่เมืองลั่วหยาง เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”

มู่หรงฉีที่ประคองโฉวซือเส่าอยู่ตลอดเวลาและแอบอยู่ด้านหลังเหลิ่งชิงฮวนอยู่ เมื่อได้ยินผู้บัญชาการฟู่พูดกลับคำพลิกจากดำเป็นขาวเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ฟู่คุน เจ้าไม่รู้จักพระชายาฉีเป็นเรื่องที่อภัยให้ได้ แล้วข้าเล่าพวกเราเคยเจอกันในท้องพระโรงมาก่อนรู้จักหรือไม่”

ผู้บัญชาการฟู่ตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่รู้เลยว่ามู่หรงฉีจะอยู่ในจิ้นโจวด้วยและยังปรากฏตัวอยู่ในจวนของเขาอีก

เขาจ้องเขม็งมองอย่างตั้งใจ ถ้านี้ไม่ใช่มู่หรงฉีแล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะ?

รับ? หรือว่าไม่ยอมรับดี?

พวกเขามาช่วยโฉวซือเส่า ถ้าเช่นนั้นจะต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคดีที่ตนเองทำผิดอย่างแน่นอน ยังจะมีทางไหนให้ตนเองถอยได้อีก? อย่างมากก็แค่ทุ่มเทต่อสู้จนตัวตายกันไปข้างหนึ่งก็แล้วกัน

เขากัดฟันเอ่ยขึ้น “กล้าดียังไงถึงได้มาปลอมตัวเป็นท่านอ๋องฉีเที่ยวหลอกลวงต้มตุ๋นไปทั่ว ช่างบังอาจยิ่งนัก! ใครก็ได้มาฆ่าพวกมันให้หมด ตัดหัวพวกเขาทั้งสองคนซะ แล้วนำไปถวายให้ท่านอ๋องฉีกับพระชายาฉีเพื่อรับความดีความชอบกันเถอะ”

คาดไม่ถึงว่าจะยอมทำผิดร้ายแรงขนาดนี้ แม้แต่มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนยังคิดไม่ถึงเลย

นี่มันไม่ต่างจากการก่อกบฏเลยจริง ๆ

หากเขาเป็นผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังการปล้นธนาคารของตระกูลโฉวจริง ๆ ละก็ โทษสถานหนักที่สุดก็คือการตัดหัวและยึดทรัพย์สินของตระกูล

แต่ถ้าหากฆ่าท่านอ๋องกับพระชายามันคือโทษมหันต์จะส่งผลกระทบต่อคนทั้งตระกูล โทษหนักหรือเบานั้น เขาในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารคนหนึ่ง ย่อมต้องชั่งน้ำหนักได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงได้ทำผิดมหันต์ที่ใหญ่หลวงกว่าเพื่อปกปิดความผิดที่เล็กกว่าด้วย?

โฉวซือเส่ายังจะมีกะจิตกะใจหัวเราะอย่างสบายอกสบายใจได้อีก “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็น นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนกล้าไม่เห็นหัวท่านด้วยมู่หรงฉี ถ้าข้าเป็นท่านละก็ในตอนนี้คงจะก้าวขึ้นไปแทงเขาด้วยดาบเสีย”

เหลิ่งชิงฮวนดึงแส้อันอ่อนนุ่มออกมาจากเอวแล้วตวัดแส้ออกไปเสียงดัง เพี๊ยะ กวาดไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็ทำการเหวี่ยงคนที่มีตาหามีแววไม่ที่อยู่ข้างหน้าสุดสองคนลอยออกไป และก็หมุนตัวหลบหลีกอย่างสวยงาม พร้อมกับกระโดดขึ้นตีแนวตั้ง ทหารที่อยู่แนวหน้ากรีดร้องอย่างเจ็บปวดและร้องเสียงหลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา