ตอน ตอนที่ 611 ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 611 ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ผู้บัญชาการฟู่กัดฟันแน่น ไม่ยอมรับสารภาพออกมา
“ยังมีใต้เท้าโจวอะไรนั้นด้วยอีกคน ที่มีบาดแผลบนใบหน้าคนนั้น แสดงตัวออกมาได้แล้ว พวกเรามาคิดบัญชีกันเถอะ” โฉวซือเส่าหันไปทางกลุ่มทหาร ในใจรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก สายตามองค้นหาไปทั่ว รู้สึกอดทนต่อไปไม่ไหวอยากจะล้างความอัปยศนี้ซะ
ทหารถอยหลังออกไปสองก้าวและมองหน้ากันไปมา “ไม่มีใต้เท้าโจวอะไรนั่นหรอก และไม่มีคนที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าอะไรนั้นด้วย”
มู่หรงฉีพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ฟู่คุน ตอนนี้ความผิดที่เจ้ากระทำถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ทุกคนกำลังจับตามองเจ้าอยู่ เจ้าคิดว่าเรื่องนี้จะพลิกกลับมาได้อีกอย่างนั้นหรือ? ยอมรับออกมาตามตรงเถอะ บางทีอาจจะมีโอกาสช่วยชีวิตครอบครัวของเจ้าได้บ้าง มิฉะนั้นเจ้าคงหนีไม่พ้นโทษประหารเก้าชั่วโคตรหรอก”
ผู้บัญชาการฟู่ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าในใจของเขากำลังว้าวุ่นอยู่
ฮูหยินของผู้บัญชาการฟู่และคุณชายถูกปลุกให้ตื่นกลางดึกเพราะเสียงปืน รีบวิ่งกระเสือกกระสนตามมาและคุกเข่าลงเสียงดัง “ตึง” ต่อหน้ามู่หรงฉี
“ท่านอ๋องโปรดละเว้นชีวิตด้วย ละเว้นชีวิตให้ด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับใต้เท้าของบ้านข้าเลยแม้แต่น้อย เขาเองก็ถูกคนอื่นหลอกมาเหมือนกัน...”
“หุบปาก!” ผู้บัญชาการฟู่ตะคอกใส่ “พูดจาไร้สาระอะไร?”
ฮูหยินของผู้บัญชาการหุบปากลงทันทีไม่กล้าพูดอะไรอีก
มู่หรงฉีทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ “ผู้บงการคือเสด็จลุงรองใช่หรือไม่?”
ผู้บัญชาการฟู่ตกตะลึงจนตัวสั่น รู้สึกยากจะเชื่อได้ “ท่านรู้ได้อย่างไร...”
พูดได้เพียงครึ่งเดียวก็กลืนคำพูดกลับคืนไป
“เจ้าคิดว่าเจ้าเก็บความลับเก่งไม่มีใครหน้าไหนจับได้งั้นหรือ? แต่เจ้ากลับไม่รู้อะไรเสียเลยว่าเจ้ากำลังถูกคนอื่นหลอกใช้ให้แบกรับความผิดทุกข้อหาไป แต่เขากลับปลอดภัยลอยหน้าลอยตาทำตัวเหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเอง”
“ไม่มีเรื่องแบบนี้เสียหน่อย”
มู่หรงฉีหันตัวกลับ “ตอนแรกข้าก็คิดเหมือนกันว่าผู้บงการควรจะเป็นเจ้า แต่น่าเสียดายที่ฝีมือการใช้ปืนของเจ้าไม่ได้เรื่องและไม่ชำนาญเอาเสียเลย เห็นได้ชัดว่าเจ้าเพิ่งจะเคยสัมผัสมัน จึงสงสัยว่าเป็นคนของเจ้าที่สามารถใช้ปืนนี้ยิงระเบิดฟ้าคำรณที่ลอยอยู่บนฟ้าได้ ดังนั้นปืนนี้น่าจะเป็นเสด็จลุงรองที่มอบให้เจ้า เจ้ายอมเสี่ยงตายสละชีวิตแทนผิดคนเสียแล้ว อย่างดีที่สุดเจ้าก็เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งในมือของเขาเท่านั้น”
ผู้บัญชาการฟู่ยังมีความหวังหลงเหลืออยู่ในใจอยู่เล็กน้อย “จับโจรจับขโมยจะต้องมีหลักฐาน ท่านบอกว่าพวกข้าปล้นเงินตระกูลโฉว แล้วเงินล่ะ? หลักฐานล่ะ? คงไม่ได้จะบอกว่าเพราะข้าจับโฉวซือเส่ามาคุมขังจึงกลายเป็นโจรหรอกนะ”
“เงินหรือ? หากข้าคาดเดาไม่ผิดละก็ เสด็จลุงรองคงสมรู้ร่วมคิดกับคนในตระกูลโฉวเพื่อปูทางภายในก่อน หลังจากปล้นเงินของตระกูลโฉวไปแล้ว ก็ทำการกระจายข่าวลือไปทั่วทุกที่ บอกว่าธนาคารของตระกูลโฉวกำลังจะล้มละลายลง ทำให้เกิดความวุ่นวายในกลุ่มชาวบ้าน จากนั้นก็บังคับหรือไม่ก็สมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ที่เจียงหนานให้จำคุกโฉวซือเส่าเอาไว้ เช่นนี้เสด็จลุงรองก็สามารถใช้โอกาสนี้หลบนี้ไปได้อย่างสบายใจเฉิบ
แต่น่าเสียดายที่โฉวซือเส่าหลบหนีได้อย่างปลอดภัย และยังหนีนำหน้าหอซ่อนดาบที่ติดตามมาตลอดทางได้อีกด้วย พวกเจ้าไปร่วมมือกับหนอนบ่อนไส้ของหอซ่อนดาบ โดยหลอกล่อให้โฉวซือเส่าไปยังนอกเมืองลั่วหยางเพื่อฆ่าเข้าทิ้ง อีกด้านหนึ่งเจ้าก็ใช้โอกาสนี้ในการขนย้ายเงิน โดยแกล้งทำทีเป็นขนส่งอาหาร เช่นนี้ก็นำเงินขนย้ายไปยังจิ้นโจวได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นก็ขนจากเจียงหนานไปยังลั่วหยางแล้วค่อยไปที่จิ้นโจว ส่วนเสด็จลุงรองก็จะรอพบเจ้าที่จิ้นโจว จากนั้นก็ขนเงินไปที่เหอซี
เพียงแต่น่าเสียดายอย่างยิ่ง หลังจากพระชายาของข้าได้รับข่าวก็ไม่ได้รีบเดินทางไปที่ลั่วหยางแต่อย่างใด แต่กลับรีบมุ่งหน้าไปที่จิ้นโจวโดยไม่แม้แต่จะหยุดพัก รีบไปสั่งปิดด่านและให้ทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อทำการตัดเส้นทางการขนส่งทั้งหมดลง พวกเจ้ากลัวจะทิ้งร่องรอยอะไรให้สาวเจอได้ จึงได้ใช้กลอุบายล่อเสื้อออกจากถ้ำ โดยล่อพระชายาของข้ามาที่ลั่วหยาง แบบนี้แผนการของพวกเจ้าก็จะดำเนินการได้สะดวก ข้าพูดแบบนี้ถูกหรือไม่?”
ผู้บัญชาการฟู่เป็นใบ้ไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าจะแก้ต่างอย่างไรดี เพราะคิดว่าแผนการที่ตัวเองคิดนั้นไร้ที่ติด มู่หรงฉีรู้ทุกอย่างชัดเจนเช่นนี้ได้อย่างไร?
“แน่นอนว่า ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้ายังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังว่าผู้บัญชาการฟู่จะสามารถอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบให้ข้าฟังอย่างชัดเจน”
ผู้บัญชาการฟู่ไหล่ตกอย่างหดหู่ “ข้าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ รวมถึงตอนที่ข้าได้รับไว้วานให้ไปรับเงินจำนวนนี้ที่เมืองลั่วหยาง ข้าคิดว่ามันเป็นแค่สินค้าลักลอบนำเข้าธรรมดา หลังจากที่รับช่วงต่อมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงสั่งให้คนเปิดกล่องเพื่อตรวจสอบดู ถึงได้รู้ว่าเป็นกล่องเงินกล่องทองคำ ตอนนั้นข้ายังไม่รู้เรื่องที่ตระกูลโฉวถูกปล้น จึงนำเงินออกจากลั่วหยางอย่างไม่ใส่ใจอะไร
เดิมทีท่านอ๋องรองตรัสไว้ว่าหากข้าผ่านเมืองจิ้นโจวได้ก็มอบเงินให้คนของเขาให้นำไปที่เหอซี แต่โฉวซือเส่าผู้นี้กลับมาปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้พอดีและเมื่อข่าวแพร่กระจายออกมา ข้าถึงได้รู้ว่ามันเป็นเงินที่ถูกขโมยมา
ข้ากลัวว่าจะติดร่างแห่ไปด้วย ดังนั้นจึงได้ยึดเงินชุดนี้เอาไว้ชั่วคราวไม่ได้ขนไปที่เหอซีต่อและหวังว่าท่านอ๋องรองจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก้ข้าได้ ดังนั้นเลยพลาดโอกาสดี ๆ ไป มิฉะนั้นเงินพวกนี้คงจะขนเข้าไปในเขตแดนเหอซีตั้งนานแล้วและก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าอีก
ข้าถูกใส่ความจริงๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ข้าก็ถูกคนอื่นหลอกลวงมาอีกที เพราะตกที่นั่งลำบากเช่นกันจึงจำเป็นต้องทำ”
มู่หรงฉีหรี่ตาลง “ถ้าเมื่อครู่เจ้าสามารถสารภาพอย่างตรงไปตรงมาได้ในอย่างตอนนี้ ข้าคงจะเชื่อคำพูดของเจ้า แต่ว่าข้าก็มีเรื่องสงสัยอยู่ว่าเหตุใดเจ้าจึงยอมแบกรับโทษที่สังหารข้าและพระชายาเพราะเรื่องนี้? หรือว่าเจ้าไม่รู้ถึงความร้ายแรงของสิ่งที่จะทำงั้นหรือ? หรือไม่เจ้ายังมีเรื่องอื่นที่ปิดบังข้าอยู่?”
ผู้บัญชาการฟู่ส่ายหัว “เรื่องอื่นข้าไม่รู้จริง ๆ ข้าก็แค่กลัว กลัวว่าหากเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยออกมาจะเป็นภัยถึงชีวิต เมื่อมืดแปดด้านจึงลองตัดสินใจสู้ขาดใจเดิมพันสักตั้งดู”
แต่ว่าขนเงินจำนวนมากขนาดนั้น จะต้องเดินทางล่าช้าอย่างแน่นอน หากไล่ตามไปตอนนี้น่าจะยังพอมีเวลาตามทัน!
มิฉะนั้นหากเข้าสู่แผ่นดินเหอซีได้ละก็ที่นั่นเป็นอาณาเขตของเสด็จลุงรอง หากจะตามกลับมาคงไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนนี้ทหารม้าหมื่นนายยังไม่อยู่ด้วยอีก ดังนั้นจึงทำได้เพียงต้องขอยืมม้าและกำลังพลของจวนผู้บัญชาการก่อน
มู่หรงฉีหันหน้าไปถามด้วยเสียงทุ้ม “เมื่อครู่นี้ผู้บัญชาการฟู่ได้รับสารภาพทุกอย่างออกมาหมดแล้ว พวกเจ้าได้ยินชัดเจนแล้วหรือไม่?
พวกทหารตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน “ได้ยินชัดเจนแล้ว”
มู่หรงฉีรับป้ายคำสั่งจากมือของเหลิ่งชิงฮวนมา “นี้เป็นป้ายคำสั่งพระราชทาน สามารถยืมทหารและม้าจากเมืองต่าง ๆ ในฉางอันได้ ตอนนี้ทุกคนจงรับฟังคำสั่งของข้า!”
ทหารกลุ่มนี้รับทราบและคุกเข่าลง “คารวะท่านอ๋องฉี!”
“หัวหน้าอยู่ที่ใด?”
หัวหน้าทั้งสองคนออกมาจากแถว “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”
“โทษอาญาของผู้บัญชาการฟู่ได้ข้อสรุปแล้ว ตอนนี้ให้ควบคุมตัวเขาเอาไว้ก่อน และส่งคนไปแจ้งเรื่องให้ผู้การจิ้นโจวทราบ เพื่อจะได้มารับการสอบสวนคดีนี้ต่อ!”
“รับทราบ!”
“เคลื่อนย้ายทหารม้าห้าพันนายที่กองบัญชาการ ตามข้าไปจับกุมท่านอ๋องรองและนำเงินที่ถูกขโมยกลับคืนมา!”
หัวหน้ารับคำสั่ง ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปจัดการตามคำสั่ง
มู่หรงฉีและเหลิ่งชิงฮวนปรึกษากันคร่าวๆ ทั้งสองคนตัดสินใจแบ่งทหารออกเป็นสองทาง เหลิ่งชิงฮวนอยู่ที่จวนผู้บัญชาการคอยควบคุมสถานการณ์ที่นี่ชั่วคราว มู่หรงฉีนำกองทหารไล่ล่าเงิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...