ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 626

ถ้าหากปล่อยให้มั่วเป่ยหลอมปืนและอาวุธ ผืนดินที่แห้งแล้งของมั่วเป่ย ไม่สามารถสนองความทะเยอทะยานของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน ดังนั้นผู้บัญชาการทหารมาที่ฉางอัน ผนวกเข้ากันทีละขั้นตอน ปกครองทั่วพิภพ เป็นภัยต่อฉางอันอย่างแน่นอน

เหลิ่งชิงฮวนไม่อยากให้เกิดสงคราม เพราะว่า หากเกิดสงครามขึ้น เหล่ากั๋วกง แม่ทัพฉู่ก็อายุเยอะมากแล้ว มู่หรงฉีในฐานะเทพสงครามแห่งราชวงศ์ฉางอัน จะต้องสวมชุดเกราะ บุกเข้าโจมตี

เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธที่ทันสมัยทรงพลังของอีกฝ่าย มันก็คือการฝ่าอันตรายเอาชีวิตรอด ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังมีไพ่ลับที่ร้ายแรงกว่านั้นอีกหรือเปล่า ใครเลยจะร่วงรู้ได้?

เธอจึงต้องถวายปืนที่ยึดมาได้ให้กับฮ่องเต้ ฮ่องเต้สั่งให้ช่างฝีมือของฝ่ายกงปู้รีบเร่งศึกษา ดูสิว่าสามารถที่จะถอดลอกเลียนแบบสร้างอาวุธที่ทรงพลังแบบเดียวกันขึ้นมาได้หรือไม่

มีบางเรื่องที่ย้อนแย้งกัน เหลิ่งชิงฮวนหวังว่าสังคมจะพัฒนา เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่อีกด้านหนึ่ง เธอก็ต่อต้านการปรากฎของอาวุธยุทโธปกรณ์พวกนี้ สิ่งนี้จะทำให้เกิดความทะเยอทะยานของคนบางคนไม่จบไม่สิ้นเสียที ก่อให้เกิดการสังหารหมู่

ความรุ่งเรือง ประชาชนเดือดร้อน ล้มตาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ฮ่องเต้รับสั่งถามเป็นการส่วนตัว เธอตอบได้เพียงประโยคเดียว “ชิงฮวนสงสัยว่า การปลอมแปลงอาวุธเหล่านี้กับไต้เท้าลู่ขุนนางมั่วเป่ยคนนั้นก็คงหนีไม่พ้นมีส่วนเกี่ยวข้องกัน เขาสามารถประดิษฐ์ปืนและระเบิดฟ้าคำรณได้ ก็เป็นไปได้ที่จะสร้างอาวุธล้อมเมืองขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากสามารถพิสูจน์ได้มากพอ คนผู้นี้ไม่สามารถปล่อยไปได้เด็ดขาดเพคะ”

คําพูดนี้รุนแรงมาก ทว่าฮ่องเต้กลับชื่นชม “คนคล้อยตามข้าอยู่ ส่วนคนขัดขวางข้าต้องตาย ไม่อาจใช้ประโยชน์เพื่อตัวข้าได้ และยังเป็นภัยคุกคามต่อฉางอันอีก ย่อมไม่อาจปล่อยทิ้งไว้ได้!”

เขารีบส่งขุนนางไปที่มั่วเป่ยทันที ยื่นราชสาสน์ความผิดให้กษัตริย์มั่วเป่ย เสี้ยมเขาควายในความสัมพันธ์ของไต้เท้าลู่และกษัตริย์มั่วเป่ย หวังว่ากษัตริย์มั่วเป่ยจะเห็นแก่ส่วนรวม ประหารไต้เท้าลู่ เพื่อระงับความโกรธเคืองของชาวฉางอัน

ในเวลาเดียวกันนั้น ยังมีผู้ติดตามราชทูตแอบแทรกซึมเข้าไปมั่วเป่ย และยังมีนักฆ่าที่เชี่ยวชาญในการลอบสังหารอีกสิบกว่าคนคอยสอดแนมข่าวคราว ถ้าหากมั่วเป่ยไม่ยอมที่จะส่งตัวไต้เท่าลู่ นั่นก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะฆ่าให้ได้

จริงๆแล้วเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่เหลิ่งชิงฮวนบอกกับมู่หรงฉี ว่าไต้เท้าลู่จากมั่วเป่ยนี้ไม่ธรรมดา มมู่หรงฉีได้ส่งคนไปที่มั่วเป่ยแล้ว เพียงแต่การปลอมอาวุธขึ้นมานั้นเป็นความลับของแคว้น ต้องการที่จะสืบถึงต้นตอนั้นเป็นเรื่องง่ายซะที่ไหนกัน?

พระศพของเสด็จอารองก็ถูกส่งกลับมาที่เมืองหลวงตั้งนานแล้ว

ผู้บัญชาการฟู่ได้ถูกไต่ตวนจนได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกบฏ ฮ่องเต้ทรงเมตตา ไม่ได้ทำให้คนในครอบครัวเสด็จอารองต้องลำบาก เพียงแต่ให้คนฝังศพเขาอย่างสมเกียรติ

สถานที่ฝังศพอยู่ไม่ไกลจากสุสานกษัตริย์ กั้นด้วยภูเขาลูกหนึ่ง แต่อยู่ห่างไกลจากสุสานของไทเฮา

การตายของเสด็จอารอง ไม่ได้สร้างคลื่นผลกระทบอะไรในราชสำนัก

คดีนี้ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว รอเพียงข่าวคราวของเจียงหนานและเหอซีในช่วงหลังปีใหม่

ใกล้จะช่วงสิ้นปีแล้ว ร้านค้าต่างๆกำลังยุ่งอยู่กับการคำนวณบัญชี แจกจ่ายแป้งบะหมี่ให้กับพวกที่ทำงาน บวกกับการจัดเตรียมรับของส่งของ เหลิ่งชิงฮวนค่อนข้างยุ่ง มู่หรงฉีต้องทำหน้านี่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ให้เหลิ่งชิงฮวนได้มีสมาธิ

วันนี้เจียดเวลางานที่ยุ่ง ชิงฮวนออกจากเมืองหลวงไปหลายวัน ตั้งใจกลับมาส่งของขวัญปีใหม่ที่จวนมหาเสนาบดี

ระหว่างทางผ่านร้านผ้าต่วนของตัวเอง เธอสั่งให้คนขับรถม้าหยุดรถ อยากที่จะนำผ้าต่วนดีๆสองผืนกลับไปด้วย ทำกระเป๋าและเสื้อผ้าตัวน้อยให้กับหลานชาย

เจ้าของร้านห่อผ้าที่เธอเลือกอย่างแข็งขัน และเดินไปส่งที่หน้าประตู

ด้านหน้ามีหญิงสาวเดินท่าทางรีบร้อน ก้มหน้าก้มตามองห่อของที่อยู่ในมือ ไม่ทันได้สังเกตชิงฮวน จนทั้งคู่เกือบจะชนกัน

เจ้าของร้านรีบพูดตำหนิทันที “ทำไมเดินไม่ระมัดระวังเลยหา? เกือบจะชนกับแขกผู้สูงศักดิ์แล้ว”

หญิงสาวขอโทษเสียงดัง ก้มหัวที่หงอกขาวให้ “ขอโทษ ขอโทษเจ้าค่ะ ข้ามัวแต่มองผ้าปักที่อยู่ในมือ”

เจ้าของร้านพูดอย่างหงุดหงิด “เอางานเย็บปักนี้ไปให้คนงานดูก่อนเถอะ อีกประเดี๋ยวจะคิดเงินให้เจ้า”

หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเจ้าของร้าน”

เหลือบมองไปที่ชิงฮวน ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็รีบก้มหน้าลง เม้มผมจอนหงอกที่ปลิวอยู่ด้านข้างโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา