ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 650

หลับครานี้ เฟิงเหล่ยอวี้หลับได้สบายมาก กว่านางจะตื่นขึ้นอีกที ก็เป็นเวลารุ่งสางของอีกวันแล้ว ไม่สิ เรียกได้ว่าเที่ยงแล้วต่างหาก

หลังจากตื่นขึ้นอย่างสะลืมสะลืม นางจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ไม่รู้เลยซ้ำว่าเหตุใดถึงได้มานอนอยู่ในห้องของโฉวซือเส่า

นางจำได้เพียงเลือนรางว่า นางได้ตามนายท่านไปที่เรือนหลิงหลางมิใช่หรือ

เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านนายท่านจะโมโห แล้วทำร้ายนางจนหมดสติไป

สวรรค์ เมื่อวานนี้นางทำอะไรลงไปกันแน่

แล้วเสื้อผ้าล่ะ

ใครเป็นคนถอด?

คงจะไม่ใช่...

นางพยายามครุ่นคิดอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อนางลุกขึ้นอย่างลนลาน ก็ควานหยิบเอาเสื้อคลุมยาวสีแดงสดของโฉวซือเส่าที่ตกอยู่ข้างๆ มาคลุมร่างไว้ ก่อนจะค้นไปรอบๆ แต่ก็หารองเท้าไม่เจอ นางจำต้องวิ่งออกไปนอกห้องทั้งๆ ที่เท้าเปลือยเปล่า

อย่างไรก็ตาม ในเรือนเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีบุคคลภายนอก

ทว่า วันนี้มีแขกมาเยือน

เนื่องจากเมื่อวานนางเมา ทำให้โฉวซือเส่าต้องปฏิเสธงานเลี้ยงของเสิ่นหลินเฟิง วันนี้เสิ่นหลินเฟิงจึงมาหาเขาถึงบ้าน พร้อมเนื้อวัวหมักซอส ขาหมูเย็น เป็ดแปดสมบัติ ไก่ต้มน้ำปลา และสุราดอกสาลี่ขาวไหหนึ่ง

เขาเคยมาที่เรือนของโฉวซือเส่าแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้เกรงใจ เมื่อเดินผ่านเข้าประตูมาแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะหันไปสั่งการทหารยามหน้าจวนอ๋องฉี “ไปเรียนท่านอ๋องของเจ้าว่าข้าจะรอเขาที่จวนของโฉวซือเส่า ให้เขาเอาสุรามาไหหนึ่งด้วย!"

จากนั้นก็เดินตรงดิ่งเข้าไปยังห้องหลักของโฉวซือเส่าทันที

เรือนพักชั่วคราวของโฉวซือเส่านั้นไม่ใหญ่มาก เป็นเรือนที่มีประตูแค่สองชั้น ด้วยความกลัวว่าเสิ่นหลินเฟิงจะรู้ว่าเฟิงเหล่ยอวี้นอนอยู่ที่ห้องของตนเมื่อคืนนี้ โฉวซือเส่าจึงผลักเขาออกไปด้านนอกด้วยความเร่งรีบ และปิดประตูลงอย่างระมัดระวัง

ไฟในอย่านำออกจะดีกว่า

ในขณะที่เฟิงเหล่ยอวี้ตื่นขึ้น โฉวซือเส่า มู่หรงฉีและเสิ่นหลินเฟิงทั้งสามคนก็กำลังร่ำสุราเคล้าลมเย็นๆ อยู่บนเก้าอี้ไม้เล็กๆ ที่ล้อมรอบโต๊ะหมากรุกอยู่ภายในสวน

ด้วยความรู้สึกคับข้องใจ เฟิงเหล่ยอวี้ผลักประตูออกแล้วตะโกนทันที “นายท่าน แล้วรองเท้าของข้าหายไปไหนล่ะ”

ทันทีที่เงยหน้าขึ้น สายตาของทั้งคู่ก็จับจ้องกัน

เฟิงเหล่ยอวี้ตกใจพร้อมกับหันหลังปิดประตูดังปังหนีกลับเข้าไปทันที ถ้าหากนางมีหาง ก็คงจุกตูดไปแล้วแน่ๆ

หลังจากที่ตกตะลึง เเสิ่นหลินเฟิงก็แสดงสีหน้ารู้ทันอย่างชัดเจน “ถึงว่าไม่ยอมให้ข้าเข้าไปด้านใน ที่แท้ก็แอบซ่อนสาวงามไว้ในห้องนี่เอง!”

เมื่อโฉวซือเส่าถูกกระเซ้า เขาก็รีบอธิบายทันที “ไม่ใช่เช่นนั้น อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า คือว่า...”

“เมื่อวานนี้ ยัยหนูเฟิงเหล่ยอวี้เมามาก โฉวซือเส่าก็เลยฉวยโอกาส” มู่หรงฉีต่อคำและอธิบายด้วยเจตนาดี

เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้า "เข้าใจ เข้าใจ ชายหญิงอาศัยอยู่กันตามลำพังในบ้านเดียวกัน มันก็จำเป็นอยู่ แต่การฉวยโอกาสนั้น ออกจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร ข้าวสารนี้ยังไม่ทันจะหุงสุก ก็อาจแตกอยู่ในหม้อกลายเป็นข้าวโพดคั่วได้นะ"

โฉวซือเส่าร้อนใจขึ้นมาทันที "เมื่อวานนี้เหลิ่งชิงฮวนปั่นหัวเจ้าแบบนี้หรือ"

มู่หรงฉีส่ายศีรษะอย่างใจเย็น "ไม่ใช่แน่นอน เจ้าพูดเองนะว่าภรรยาของข้าแอบสอดแนมพวกเจ้าจู๋จี๋กันน่ะ”

โฉวซือเส่าเกือบจะกัดลิ้นของตัวเองด้วยความหงุดหงิด

"ก็เพราะยัยเพิ้งเหลิ่งชิงฮวนทำแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น!"

"ข้าทำเรื่องอะไรดีๆ หรือ? ข้าน่ะทำแต่เรื่องดีๆ มาตลอดแหละ เพียงแต่ไม่ได้ป่าวประกาศ” เหลิ่งชิงฮวนเดินเข้ามาพอดี

มู่หรงฉีรีบชิงฟ้องก่อนเลย "วันนี้เจ้าก็ได้ยินกับหูเจ้าเองแล้วนี่ ต่อหน้าเจ้า เขาปากหวานพูดจาไพเราะ แต่ที่จริงแล้วตีสองหน้า พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเจ้าเสมอ วันนี้ถูกพวกเราจับได้ว่าแอบซุกสาวงามไว้ในห้อง แต่ก็ยังปากแข็ง แถมยังโยนความผิดมาให้เจ้า ทำอย่างกับว่าเจ้าเป็นคนวางกับดักเพื่อบังคับให้เขารังแกแม่นางเฟิงอย่างนั้นแหละ”

เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตาปริบๆ "เหล่ยอวี้ตื่นแล้วเหรอ?"

โฉวซือเส่ากำลังจะบอกว่ายัง แต่เหลิ่งชิงฮวนผู้กลัวว่าโลกจะวุ่นวายไม่พอ ก็ได้ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปในห้องทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา