ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 673

พอเหลิ่งชิงฮวนฟื้นขึ้นมาเธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่ถูกทิ้งรกร้าง เหลิ่งชิงฮว่านั่งเฝ้าเธออยู่ข้างๆและรองไห้จนตาบวม

เธอมองไปรอบๆก็เห็นผนังรอบๆที่ถูกรมควันจนเป็นสีดำและมีปล่องไฟเหล็กรูปสี่เหลี่ยม ที่ด้านบนมีเสียงฝีเท้าเดินไปมา

และตอนนี้น่าจะเป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดิน มีแสงแดดสีทองลอดผ่านเข้ามาผ่านปล่องไฟจนทำให้ทัศนวิสัยภายในนั้นไม่มืดนัก

จากพื้นดินถึงเพดานมีระยะห่างอย่างน้อยสามถึงสี่ จั้ง การคิดจะปีนขึ้นไปนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

เหลิ่งชิงฮว่าที่เห็นเธอฟื้นขึ้นมาก็ดีใจจนน้ำตาไหล “ท่านพี่ ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว ข้าตกใจแทบแย่”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย เธอรู้ดีว่านี่คือผลจากยาสลบ

เธอล่าห่านมาตลอดชีวิต แต่เธอกลับถูกห่านจิกตาเสียเองจนถูกวางยาสลบ เล่าออกไปแล้วเกรงว่าจะเป็นเรื่องตลก

“ไม่เป็นไร แค่หลับไปงีบหนึ่งเท่านั้นเอง ที่นี่คือที่ไหน?”

เหลิ่งชิงฮว่าสูดน้ำมูก “ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าตื่นก่อนท่านแค่ครู่เดียวเอง แต่ว่าข้าไม่กล้าลืมตาขึ้นมาก็เลยแกล้งหลับมาโดยตลอด แต่ว่าตลอดทางข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่าเหมือนว่าที่นี่จะเป็นเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาอะไรสักอย่าง”

เตาเผาเครื่องปั้นดินเผา?

จู่ๆเหลิ่งชิงฮวนก็นึกถึงที่นักบวชเทียนอีทำนายให้เธอเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าจะมีการนองเลือด วันนี้เป็นวันที่ห้าพอดี

อีกทั้งเทียนอียังพูดว่าน่าจะเกี่ยวกับไฟหรือดิน คงไม่ใช่สถานที่ที่เอาไว้เผาเครื่องปั้นดินเผานี่หรอกนะ ตาเฒ่านั้นสุดยอดชะมัด! แต่เขาขาดคุณธรรมไปบ้างจะเตือนเธอมากกว่านี้อีกนิดไม่ได้หรือ? ให้เธอได้หนี้เคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้พ้น จะมาบอกว่าความลับสวรรค์ไม่สามารถแพร่งพรายได้อะไรกัน คิดจะล้อเล่นกับฉันหรือ

เธอคลึงขมับ “รู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร”

เหลิ่งชิงฮว่าส่ายหน้า “ไม่รู้เจ้าค่ะ สำเนียงของพวกเขาแปลกมาก ข้าฟังไม่เข้าใจ”

สำเนียงแปลกมาก?

เหลิ่งชิงฮวนขมวดคิ้วแน่น ชิงฮว่าอยู่แต่ในจวนมหาเสนาบดีมาตั้งแต่ยังเล็กและไม่ค่อยออกไปไหน สำเนียงของที่ที่อยู่ห่างไปมากๆนางย่อมฟังไม่ออก พวกนั้นคงไม่ใช่คนนอกแคว้นฉางอันหรอกนะ? ทำไมถึงได้กล้าทำอุกอาจกลางวันแสกๆแบบนี้?

เหลิ่งชิงฮว่าที่เห็นเธอทำหน้าตาสงสัยมากจึงถามขึ้นอย่างระมัดะวังว่า “พี่ใหญ่ ข้าเป็นภาระให้ท่านหรือเจ้าคะ”

เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นนั่ง หลังของเธอถูกเศษชามเครื่องแตกหักทิ่มจนเจ็บไปหมด เธอชินกับหมอนนุ่มๆหอมๆและรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ที่คนควรจะมาอยู่

“เด็กโง่ พวกเขาน่าจะพุ่งเป้ามาที่พี่ ไม่เกี่ยวกับเจ้า วางใจเถอะอย่ากลัวไปเลย พี่ใหญ่จะต้องหาวิธีช่วยเจ้าออกไปให้ได้”

เหลิ่งชิงฮว่าเช็ดน้ำตา “แต่ถ้าหากไม่เพราะพี่ใหญ่ช่วยข้าท่านจะถูกพวกนั้นจับมาได้อย่างไร ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะมีหลายคน ข้าตั้งใจฟังเสียงฝีเท้าและที่พวกเขาพูดคุยกันน่าจะมีมากกว่าสิบคนเจ้าค่ะ!”

เหลิ่งชิงฮวนคิดไม่ถึงเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้แล้วเหลิ่งชิงฮว่ายังสามารถมีสติและใจเย็นได้ และยังระมัดระวังสนใจการป้องกันที่ด้านนอก ถ้าหากว่าเป็นหญิงสาวปกติคงจะกลัวจนตกใจทำอะไรไม่ถูกเลย

คนสิบคนสำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องเล็กๆเท่านั้น

ตัวเธอที่มีเกิดมาพร้อมกับปัญหา พอลองคิดดูแล้วการหายตัวไปของเธอนับเป็นเรื่องปกติ ครั้งแรกคือโฉวซือเส่า ครั้งที่สองก็ฉีจิ่งอวิ๋น ครั้งที่สามคือน่าเยี่ยไป๋

ถึงแม้จะบอกว่าการอยู่ในยุทธภพมีคนไหนบ้างที่ไม่เคยถูกคมดาบ แต่ตัวเธอเองก็ขยันเจอกับมันไปหน่อย ถือว่าเธอโชคดีหรือเปล่า?

ทุกครั้งมู่หรงฉีจะพลิกเมืองหลวงตามหาตัวเธอ ครั้งนี้ตอนที่องครักษ์กลับไปเมืองหลวงเกรงว่าจะเสียงสั่นกันไปหมด “รายงานท่านอ๋อง พระชายาหายตัวไปอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

แต่มู่หรงฉีดูเหมือนว่าจะชินไปเสียแล้ว เขาไม่ลนลานร้อยใจ อีกทั้งยังดื่มชาจนหมดจอดอย่างใจเย็น เขาโบกมือขึ้นปัดอย่างนิ่งๆ “เรื่องเล็ก เจ้าจะลนลานไปทำไม”

แน่นอนว่านี่เป็นการคาดเดาที่เหลิ่งชิงฮวนนั้นต้องการ แต่ในความเป็นจริงนั้นมู่หรงฉีกระโดดตัวผึง น้ำชาร้อนๆในมือหกลงทันที แม้แต่พูดยังพูดออกมาได้อย่างไม่ชัดเจน

เหลิ่งชิงฮวนนั้นใจเย็นและไม่รีบร้อน เธอยืนขึ้นอย่างสงบโดยไม่พูดอะไรแล้วเดินไปรอบๆ

“งั้นพวกเราถูกส่งลงมาข้างล่างได้อย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา