ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 69

สรุปบท ตอนที่ 69 ดอกบัวขาวนี้แสดงเก่งเกินไป: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา

ตอน ตอนที่ 69 ดอกบัวขาวนี้แสดงเก่งเกินไป จาก ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 69 ดอกบัวขาวนี้แสดงเก่งเกินไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ที่เขียนโดย เฉลิมพล เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อกลับไปที่จวนเสนาบดี สิ่งแรกเหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีทำคือไปเยี่ยมรองแม่พล

ทหารที่รับผิดชอบในการดูแลแม่ทัพอวี๋อยู่ในสนามเมื่อเห็นทั้งสองกลับมาจึงรีบรายงานทันที “พระชายารองกำลังดูแลแม่ทัพอวี๋ด้วยตนเอง ให้ข้าน้อยออกมาข้างนอกก่อน”

เหลิ่งชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะอึ้งเล็กน้อย เหลิ่งชิงหลาง? ดูแลแม่ทัพอวี๋เนี่ยนะ? ฟังดูเหลือเชื่อเกินไปหน่อย

มู่หรงฉีเดินผ่านนางตรงไปยังห้องนั้นทันที เหลิ่งชิงฮวนตามไปติดๆ และได้ยินแม่ทัพอวี๋เอ่อยปากขอบคุณอย่างจริงใจ “พระชายารองโปรดกลับไปเถิดขอรับ ข้าน้อยมิอาจรับการดูแลจากท่านได้จริงๆ”

จากนั้นเสียงอันอ่อนโยนและไพเราะเสนาะหูดังขึ้น “ท่านแม่ทัพอวี๋ทำงานหนักเพื่อท่านอ๋องมามาก ข้าเองก็เคารพท่านเหมือนเป็นพี่ชาย ให้ข้าดูแลท่านสักหลายวันเป็นเรื่องที่สมควร ทหารพวกนี้ทำอะไรหยาบคายทั้งยังโง่เขลาจะสามารถดูแลท่านได้อย่างไร ท่านพักผ่อนสักหลายวันเถิด มีอะไรเรียกใช้ข้าได้ตลอด ให้ข้ารินน้ำอีกสักแก้วดีหรือไม่”

“ไม่ ไม่เป็นไรขอรับ กระหม่อมดื่มไปสามแล้ว ไม่รู้สึกกระหายน้ำแล้วขอรับ”

มู่หรงฉีก้าวเข้าไป เหลิ่งชิงหลางได้ยินการเคลื่อนไหวจึงหันหลังกลับมาทำความเคารพทันที “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”

มู่หรงฉีพยักหน้าเบาๆ “เจ้าเองก็ยังเป็นคนป่วย ร่างกายอ่อนแอ จะดูแลท่านแม่ทัพอวี๋ได้อย่างไรกัน ที่นี่มีทั้งทหารและหมอหญิง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล”

เหลิ่งชิงหลางยิ้มอย่างอ่อนหวาน “หม่อมฉันพักจนอาการดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ หม่อมฉันได้ยินท่านหมอพูดว่าท่านแม่ทัพมาจวนเสนาบดีเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจึงรีบมาเยี่ยม ท่านอ๋องเช่นกัน เรื่องใหญ่เช่นนี้เหตุใดจึงไม่บอกหม่อมฉันเล่า”

“ท่านแม่ทัพอวี๋ได้รับการดูแลอย่างดี ข้าจึงเบาใจ ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องบอกเจ้า”

คำว่าได้รับการดูแลอย่างดี ทำเอาเหลิ่งชิงหลางฟังแล้วรู้สึกไม่รื่นหูนัก

“ฝีมือการแพทย์ของท่านพี่ยอดเยี่ยมนัก ทำเอาข้ารู้สึกผิดไม่น้อยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ข้าทำได้เพียงแค่ยกน้ำชาเท่านั้น”

เหลิ่งชิงฮวนยืนอยู่ข้างหลังมู่หรงฉีเฝ้าดูการแสดงของนางอย่างเงียบๆ โดยในใจไม่ได้ตำหนิว่ากล่าวมู่หรงฉีแต่อย่างใด แต่ดอกบัวขาวนี้แสดงเก่งเกินไปต่างหาก รูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูมีสติปัญญาปราดเปรื่อง มีเมตตาและอ่อนโยน สงสารแต่แม่พลอวี๋ผู้น่าสงสาร ได้รับบาดเจ็บยังถูกนางหลอกใช้และทำลาย

ตอนนี้มู่หรงฉีจะต้องรู้สึกซาบซึ้งจนเสียสติไปแล้วแน่ๆ

ภาพการแสดงตรงหน้าของทั้งสองนั้นหาดูยากยิ่ง ตอนตรวจอาการแม่ทัพอวี๋ครั้งก่อน เขายังมีไข้จนต้องฉีดยาที่ก้น หลังจากเก็บเลือดเพื่อทดสอบ เกล็ดเลือดยังคงสูงมากและไม่ลดลง ดูเหมือนว่ายาจะต้องปรับเล็กน้อย

ใบหน้าของแม่ทัพอวี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง หลิ่งชิงฮวนสังเกตเห็นและถามตรงไปตรงมาว่า “แม่ทัพอวี๋ไม่สบายตรงไหนหรือไม่”

แม่ทัพอวี๋มองไปที่เหล่งชิงหลาง ก่อนจะส่ายหัวไปมา

เหลิ่งชิงฮวนยืดตัวขึ้น “หากท่านอ๋อกกับพระชายารองมีอะไรจะพูด ได้โปรดกลับไปก่อนเถิด แม่ทัพอวี๋ต้องการพักผ่อน”

ทว่าเหลิ่งชิงหลางกลับส่ายหน้า “ข้าจะอยู่ดูแลท่านแม่ทัพอวี๋ ท่านพี่เหนื่อยมามากแล้ว ดังนั้นท่านกลับไปพักเถิด”

ทันทีที่เหลิ่งชิงฮวนได้ยินถึงกับอึ้ง ยังดีที่นางเป็นคนไข้ของหมอ เหลิงชิงฮวนสงสัยทันทีว่ามู่หรงฉีทนนางได้อย่างไร นี่หรือที่เรียกกันว่าความนุ่มนวลพิชิตความแข็งแกร่ง?

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะดูแลแม่ทัพอวี๋ไหว”

เหลิ่งชิงหลางกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ข้าพร้อมที่จะเรียนรู้”

เหลิ่งชิงฮวนบรรจุสิ่งของและหันไปรอบๆ “เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่แล้วกัน ข้าขอตัวก่อน ตอนนี้แม่ทัพอวี๋อยากไปเข้าห้องน้ำ รบกวนพระชายารองเร่งมือหน่อย เพราะอาหารสามแก้วที่เขารับไปเมื่อครู่อาจกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว”

หนุ่มใหญ่อย่างแม่ทัพอวี๋รู้สึกเขินอาย โดยไม่ต้องพูดถึงเหลิ่งชิงหลาง เหลิ่งชิงฮวนไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ นางก็หลบหลีกออกไปด้วยตนเอง

มู่หรงฉีเดินเข้าไปในลานและสั่งให้ทหารเข้าไปข้างในเพื่อหยิบกระโถน

เพราะเห็นแม่ทัพกลั้นจนสีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด

เหลิ่งชิงหลางมีสีหน้าตื่นตระหนก “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกท้องอืดเล็กน้อยในสองวันนี้”

แม่จ้าวต้องการพูดบางอย่าง มู่หรงฉีขมวดคิ้วทันที “เจ้าพูดมา”

แม่เจ้ากล่าวว่า “ท่านหญิงมักจะเป็นทุกข์ใจ ช่วงนี้ท่านอ๋องไม่ได้มาที่เรือนจื่อเถิง นางรู้สึกว่าตนเองทำอะไรผิดไปทำให้ท่านอ๋องไม่ชอบใจ กลางคืนมักจะนอนไม่หลับและออกมานั่งในสวนตอนกลางดึก ทำให้ได้รับไอเย็น”

มู่หรงฉีใจอ่อน เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เขาหวั่นไหว ตั้งแต่นางเข้ามายังจวนแห่งนี้ เขาเริ่มเว้นระยะห่างจากนางมาโดยตลอด ทั้งยังไม่เคยมาที่เรือนจื่อเถิงก่อน แต่กลับใช้เวลาอยู่กับหญิงสาวไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วผู้นั้นมากกว่า

นางแต่งเข้ามาด้วยสถานะพระชายารอง โดยไม่ได้ให้สถานะที่เหมาะสมแก่นางซึ่งเดิมทีอาจทำให้รู้สึกน้อยใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยาเปรียบเทียบตัวเองกับเหลิ่งชิงฮวน เป็นหยกขาวที่มีตำหนิเล็กน้อยจะเปรียบเทียบให้กังวลใจไปเพื่อเหตุใด “ข้าบอกแล้วว่าช่วงนี้ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เจ้าจะคิดมากไปทำไม”

เหลิ่งชิงหลางกระซิบข้างหูของเขา “ดูท่านอ๋องพูดสิเจ้าคะ ท่านอยู่กับท่านพี่ทีไรก็เป็นเรื่องสำคัญทุกครั้ง หรือว่าข้าไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับท่าน?”

มู่หรงฉีหัวเราะเบาๆ “เจ้าเลียนแบบจนนิสัยไม่ดีแล้ว”

จากนั้นเขาสลัดความคิดที่จะกลับไปและเดินเข้าไปในเรือน

เหลิ่งชิงหลางมองไปที่แม่จ้าวอย่างชื่นชม “เจ้านี่ช่างแผนการเสียจริง ท่านอ๋องฟังแล้วยังใจอ่อน”

แม่จ้าวก้มหัวลง “นี่เรียกว่าถอยเพื่อสู้ ท่านต้องรักษาระยะห่างเอาไว้เพื่อโจมตีอย่างมั่นคง”

เหลิ่งชิงหลางลดเสียงลงอย่างตื่นเต้น “ต่อไปข้าต้องทำอย่างไรบ้าง”

“ไม่แย่งชิง ไม่ยกยอ ไม่ใส่ร้าย เดิมทีท่านอ๋องมีใจให้กับคุณหนูมาโดยตลอด ต่อไปคุณหนูห้ามฟังและใช้วิธีต่ำช้าที่จือชิวบอกเหมือนเมื่อก่อนอีกเป็นอันขาด สิ่งที่ท่านต้องแย่งชิงในตอนนี้คือตำแหน่งพระชายาเอก ดังนั้นท่านจึงต้องแสดงท่าทีให้เหมาะสมที่จะเป็นแม่ศรีเรือน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา