ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 69

เมื่อกลับไปที่จวนเสนาบดี สิ่งแรกเหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีทำคือไปเยี่ยมรองแม่พล

ทหารที่รับผิดชอบในการดูแลแม่ทัพอวี๋อยู่ในสนามเมื่อเห็นทั้งสองกลับมาจึงรีบรายงานทันที “พระชายารองกำลังดูแลแม่ทัพอวี๋ด้วยตนเอง ให้ข้าน้อยออกมาข้างนอกก่อน”

เหลิ่งชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะอึ้งเล็กน้อย เหลิ่งชิงหลาง? ดูแลแม่ทัพอวี๋เนี่ยนะ? ฟังดูเหลือเชื่อเกินไปหน่อย

มู่หรงฉีเดินผ่านนางตรงไปยังห้องนั้นทันที เหลิ่งชิงฮวนตามไปติดๆ และได้ยินแม่ทัพอวี๋เอ่อยปากขอบคุณอย่างจริงใจ “พระชายารองโปรดกลับไปเถิดขอรับ ข้าน้อยมิอาจรับการดูแลจากท่านได้จริงๆ”

จากนั้นเสียงอันอ่อนโยนและไพเราะเสนาะหูดังขึ้น “ท่านแม่ทัพอวี๋ทำงานหนักเพื่อท่านอ๋องมามาก ข้าเองก็เคารพท่านเหมือนเป็นพี่ชาย ให้ข้าดูแลท่านสักหลายวันเป็นเรื่องที่สมควร ทหารพวกนี้ทำอะไรหยาบคายทั้งยังโง่เขลาจะสามารถดูแลท่านได้อย่างไร ท่านพักผ่อนสักหลายวันเถิด มีอะไรเรียกใช้ข้าได้ตลอด ให้ข้ารินน้ำอีกสักแก้วดีหรือไม่”

“ไม่ ไม่เป็นไรขอรับ กระหม่อมดื่มไปสามแล้ว ไม่รู้สึกกระหายน้ำแล้วขอรับ”

มู่หรงฉีก้าวเข้าไป เหลิ่งชิงหลางได้ยินการเคลื่อนไหวจึงหันหลังกลับมาทำความเคารพทันที “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”

มู่หรงฉีพยักหน้าเบาๆ “เจ้าเองก็ยังเป็นคนป่วย ร่างกายอ่อนแอ จะดูแลท่านแม่ทัพอวี๋ได้อย่างไรกัน ที่นี่มีทั้งทหารและหมอหญิง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล”

เหลิ่งชิงหลางยิ้มอย่างอ่อนหวาน “หม่อมฉันพักจนอาการดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ หม่อมฉันได้ยินท่านหมอพูดว่าท่านแม่ทัพมาจวนเสนาบดีเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจึงรีบมาเยี่ยม ท่านอ๋องเช่นกัน เรื่องใหญ่เช่นนี้เหตุใดจึงไม่บอกหม่อมฉันเล่า”

“ท่านแม่ทัพอวี๋ได้รับการดูแลอย่างดี ข้าจึงเบาใจ ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องบอกเจ้า”

คำว่าได้รับการดูแลอย่างดี ทำเอาเหลิ่งชิงหลางฟังแล้วรู้สึกไม่รื่นหูนัก

“ฝีมือการแพทย์ของท่านพี่ยอดเยี่ยมนัก ทำเอาข้ารู้สึกผิดไม่น้อยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ข้าทำได้เพียงแค่ยกน้ำชาเท่านั้น”

เหลิ่งชิงฮวนยืนอยู่ข้างหลังมู่หรงฉีเฝ้าดูการแสดงของนางอย่างเงียบๆ โดยในใจไม่ได้ตำหนิว่ากล่าวมู่หรงฉีแต่อย่างใด แต่ดอกบัวขาวนี้แสดงเก่งเกินไปต่างหาก รูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูมีสติปัญญาปราดเปรื่อง มีเมตตาและอ่อนโยน สงสารแต่แม่พลอวี๋ผู้น่าสงสาร ได้รับบาดเจ็บยังถูกนางหลอกใช้และทำลาย

ตอนนี้มู่หรงฉีจะต้องรู้สึกซาบซึ้งจนเสียสติไปแล้วแน่ๆ

ภาพการแสดงตรงหน้าของทั้งสองนั้นหาดูยากยิ่ง ตอนตรวจอาการแม่ทัพอวี๋ครั้งก่อน เขายังมีไข้จนต้องฉีดยาที่ก้น หลังจากเก็บเลือดเพื่อทดสอบ เกล็ดเลือดยังคงสูงมากและไม่ลดลง ดูเหมือนว่ายาจะต้องปรับเล็กน้อย

ใบหน้าของแม่ทัพอวี๋เปลี่ยนเป็นสีแดง หลิ่งชิงฮวนสังเกตเห็นและถามตรงไปตรงมาว่า “แม่ทัพอวี๋ไม่สบายตรงไหนหรือไม่”

แม่ทัพอวี๋มองไปที่เหล่งชิงหลาง ก่อนจะส่ายหัวไปมา

เหลิ่งชิงฮวนยืดตัวขึ้น “หากท่านอ๋อกกับพระชายารองมีอะไรจะพูด ได้โปรดกลับไปก่อนเถิด แม่ทัพอวี๋ต้องการพักผ่อน”

ทว่าเหลิ่งชิงหลางกลับส่ายหน้า “ข้าจะอยู่ดูแลท่านแม่ทัพอวี๋ ท่านพี่เหนื่อยมามากแล้ว ดังนั้นท่านกลับไปพักเถิด”

ทันทีที่เหลิ่งชิงฮวนได้ยินถึงกับอึ้ง ยังดีที่นางเป็นคนไข้ของหมอ เหลิงชิงฮวนสงสัยทันทีว่ามู่หรงฉีทนนางได้อย่างไร นี่หรือที่เรียกกันว่าความนุ่มนวลพิชิตความแข็งแกร่ง?

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะดูแลแม่ทัพอวี๋ไหว”

เหลิ่งชิงหลางกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ข้าพร้อมที่จะเรียนรู้”

เหลิ่งชิงฮวนบรรจุสิ่งของและหันไปรอบๆ “เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่แล้วกัน ข้าขอตัวก่อน ตอนนี้แม่ทัพอวี๋อยากไปเข้าห้องน้ำ รบกวนพระชายารองเร่งมือหน่อย เพราะอาหารสามแก้วที่เขารับไปเมื่อครู่อาจกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว”

หนุ่มใหญ่อย่างแม่ทัพอวี๋รู้สึกเขินอาย โดยไม่ต้องพูดถึงเหลิ่งชิงหลาง เหลิ่งชิงฮวนไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ นางก็หลบหลีกออกไปด้วยตนเอง

มู่หรงฉีเดินเข้าไปในลานและสั่งให้ทหารเข้าไปข้างในเพื่อหยิบกระโถน

เพราะเห็นแม่ทัพกลั้นจนสีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา